เรียงหน้ายิง!ตอร์เรสเบิ้ลกระทิงประเดิมหรูถล่มกล้วยหอม 7-0

เรียงหน้ายิง!ตอร์เรสเบิ้ลกระทิงประเดิมหรูถล่มกล้วยหอม 7-0

เฟร์ราน ตอร์เรส ทำสองประตูพา “กระทิงดุ” สเปน ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มอันสวยหรูถล่ม “กล้วยหอม” คอสตาริก้า ขาดลอย 5-0 เก็บ 3 คะแนนนำจ่าฝูงของกลุ่มอี ในฟุตบอลโลก 2022

โดยในเกมนี้ สเปน ตั้งเป้าคว้า 3 แต้มให้ได้ หลังจากที่ เยอรมนี คู่แข่งสำคัญร่วมกลุ่มพ่ายให้กับ ญี่ปุ่น 1-2 เกมนี้ หลุยส์ เอ็นริเก้ วาง เปดรี้, เซร์คิโอ้ บุสเกตส์ และกาบี้ สามแดนกลางจากบาร์เซโลน่า ลงคุมทีม ส่วน คอสตาริก้า หวังพึ่งพาทีเด็ดจากแนวรุกอย่าง โจเอล แคมป์เบลล์

เริ่มเกมเป็นฝั่ง สเปน ที่ครองบอลบุกเข้าใส่อย่างหนัก จนนาทีที่ 11 พวกเขาก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะการประสานงานอย่างยอดเยี่ยม เปดรี้ ยกบอลเข้ากรอบเขตโทษไปแฉลบแนวรับคอสตาริก้า เข้าทาง ดานี่ โอลโม่ ที่หลุดไปกระดกข้ามตัว เคย์ลอว์ นาบาส เข้าไปอย่างเหนือชั้น

จากนั้นนาทีที่ 21 สเปน มาได้ประตูออกนำห่างเป็น 2-0 คราวนี้เป็น ฆอร์ดี้ อัลบา ที่เปิดเข้ากลางให้กับ มาร์โก อเซนซิโอ้ วิ่งเข้าตวัดด้วยซ้ายบอลเสียบเสาเข้าไป

ยิ่งเล่นยิ่งดีสำหรับทัพ “กระทิงดุ” นาทีที่ 30 มาได้ประตูนำห่างไปอีก 3-0 จากจุดโทษ ฆอร์ดี้ อัลบา โดน ออสการ์ ดูอาเต้ หวดเข้าไปติดเอ็นร้อยหวาย ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส ที่สังหารเข้าไปไม่พลา ทำให้ครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 54 สเปน มาได้ประตูนำห่างไปเป็น 4-0 จากจังหวะเคลียร์บอลไม่ขาดของแนวรับ คอสตาริก้า บอลไปเข้าทาง เฟร์ราน ตอร์เรส ที่หมุนตัวยิงผ่านมือ เคย์ลอว์ นาบาส เข้าไป

หลังจากนั้น สเปน ยังบุกไม่ผ่อนเกมมาได้ประตูเพิ่มเป็น 5-0 จากจังหวะที่ อัลบาโร่ โมราต้า เปิดเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษเป็น กาบี้ ที่วิ่งเข้ามาซัดบอลเสียบเสาไม่เหลือ เขากลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดของทีมชาติสเปน ที่ยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

นาทีที่ 90 การ์ลอส โซแลร์ ที่ลงมาเป็นสำรองก็มาซัดประตูสเปนนำห่าง 6-0 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 กระทิงดุยังแรงไม่หยุดมาได้เพิ่มอีกจาก อัลบาโร่ โมราต้า สเปน ถล่มเอาชนะ คอสตาริก้า ขาดลอย 7-0 เก็บ 3 คะแนนนำจ่าฝูงของกลุ่มอี

โดยเกมนัดต่อไปพวกเขาจะพบกับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ส่วน คอสตาริก้า จะพบกับญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

สเปน (4-3-3): อูไน ซิม่อน, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, โรดรี้, อายเอริค ลาปอร์ก, ฆอร์ดี้ อัลบา, กาบี้, เซร์คิโอ้ บุสเกตส์, เปดรี้, เฟร์ราน ตอร์เรส, มาร์โก อเซนซิโอ้ และดานี่ โอลโม่

คอสตาริก้า (4-4-2): เคย์ลอว์ นาบาส, คาร์ลอส มาร์ติเนซ, ออสการ์ ดูอาเต้, ฟรานซิสโก้ คัลโว่, ไบรอัน โอเบียโด้, เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ่ บอร์เกส, เยลท์ซิน เตเฆด้า, เจวิสัน วิลเลกาส, โจเอล แคมป์เบลล์ และแอนโธนี่ คอนเตรราส

ญี่ปุ่น เยอรมัน