ตามรอย! 5 แข้งวัยกระเตาะที่เตรียมแจ้งเกิดฤดูกาล 2019/20

 

เมื่อซีซั่นก่อนมีแข้งฝีเท้าดีหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมายทั้งดาวรุ่งและแข้งที่เป็นซุปตาร์ทั้งหลายแต่คงไม่มีใครแจ้งเกิดได้เท่ามิดฟิลด์ตัวรุกของเบนฟิก้านามว่าเจา เฟลิกซ์ ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในถ้วยยูโรป้าลีกรอบน็อคเอ้าท์ โดยเฉพาะแมตช์ที่ทำแฮตทริคใส่ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต 4-2 รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ที่ถือว่าเป็นเวทีแจ้งเกิดอย่างแท้จริง ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ยิง 3 เม็ดในเกมเดียวของรายการนี้ด้วยวัย 19 ปี กับอีก 152 วัน ทำลายสถิติเก่าของ มาร์โก ปยาก้า อดีตผู้เล่นของดินาโม ซาเกร็บที่เคยยิงใส่กลาสโกว์ เซลติกเมื่อปี 2014  ด้วยวัยเพียง 19 ปี 219 วัน จนทำให้ได้รับการจับตามองในทันที

 

และไม่กี่เดือนหลังจากนั้นกองกลางรายนี้ก็ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสร ทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด,ลิเวอร์พูลและแอตเลติโก้ มาดริด แต่เป็นตราหมีที่ปาดหน้าคว้าวันเดอร์คิดของโปรตุเกสรายนี้ไปครองด้วยราคา 70 ล้านยูโรโดยเป็นที่เชื่อกันว่า ด้วยฝีเท้าของผู้เล่นอายุน้อยๆหลายต่อหลายคนที่เติบโตมาจากอคาเดมี่ของสโมสรนั้นๆ ล้วนมีดีไม่แพ้รุ่นพี่ในทีมชุดใหญ่ ทำให้โค้ชกล้าที่จะตัดสินใจส่งลงเล่นเป็นตัวหลักได้หากมองเห็นแล้วว่า ไอ้พวกเด็กเทพเหล่านี้คือคนที่ใช่ และเมื่อมองจากเฟลิกซ์แล้วยังมีไอ้หนูหลายคนที่อาจจะเจริญรอยตามเจ้าตัวได้ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ก็เป็นได้และวันนี้ทีมงาน Ufa arena.com จะพาเพื่อนๆไปดูกันว่ามีดาวรุ่งดวงไหนบ้างที่รอระเบิดฟอร์มเหมือนในรายของเจา เฟลิกซ์

 

5.แร็บบี้ มาทอนโด้ (ชาลเก้)

 

 

มาทอนโด้ มีเชื้อสายคองโก แต่เกิดที่เมืองลิเวอร์พูลและไปเติบโตในประเทศเวลส์ เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับชุดเยาวชนของสโมสรคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ก่อนจะเข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2016  เมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี 2019 ด้วยวัยเพียง 18 ปีจากนั้นก็ถูกปล่อยตัวไปอยู่ในบุนเดสลีกากับชาลเก้ 04 ด้วยสัญญายืมตัว เพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หลังจากเห็น จาดอน ซานโช่ ประสบความสำเร็จกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

 

ศูนย์หน้าทางฝั่งซ้ายเคยรับใช้ทีมชาติเวลส์มาแล้ว 3 นัดและลงเล่นให้ชาลเก้เมื่อซีซั่นก่อนไป 8 เกมโดยลงสนามไปเพียง 229 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ฟอร์มของราชันสีน้ำเงินยังถือว่าย่ำแย่อีกด้วย แต่ในฤดูกาลนี้คาดว่าพวกเขาจะดีขึ้นเมื่อได้ เดวิด ว้ากเน้อร์อดีตกุนซือของฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์เข้ามาคุมบังเหียน

 

ชาลเก้นั้นขึ้นชื่อเรื่องการให้โอกาสกับบรรดาดาวรุ่งภายในทีมและก็ได้แจ้งเกิดกันเป็นทิวแถวไม่ว่าจะเป็น มานูเอล นอยเออร์,เลรอย ซาเน่ และ จูเลี่ยน แดร๊กเลอร์รวมถึงอีกหลายคนที่ปัจุบันกลายเป็นตัวหลักของสโมสรต่างๆทั่วยุโรปไปแล้ว ส่วนมาทอนโด้ก็มีโอกาสที่จะได้เจิดจรัสเหมือนพวกซุปตาร์เหล่านี้ได้เหมือนกันในฤดูกาลที่จะมาถึงนี้

 

4.ไมเคิล โอบาเฟมิ(เซาแธมป์ตัน)

 

 

เซาแธมป์ตันเป็นทีมที่มีการสร้างระบบเยาวชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประทเศอังกฤษเลยทีเดียวและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาได้สร้างผู้เล่นให้เป็นที่รู้จักอย่างมากมายอาทิเช่น แกเร็ธ เบล,อเล็กซ์ ออกซ์เลด-เเชมเบอร์เลน, ลุค ชอว์ และ อดัม ลัลลาน่า

 

ฤดูกาล 2018/19 ดูเหมือนว่าทีมนักบุญจะได้เพชรเม็ดงามเกิดขึ้นมาให้ใช้งานอีกแล้ว เมื่อโอบาเฟมิได้โอกาสได้ขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร โดยเขาลงสนามไป 8 เกม และกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูแรกได้ในพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายที่ขาดถึงสองเส้น ทำให้เส้นทางอาชีพของเขาต้องหยุดลงไปชั่วขณะ

 

ดาวเตะสาธารณรัฐไอร์แลนด์ผู้มีเชื้อสายไนจีเรีย เคยใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่กับสโมสรอย่างเชลซี, อาร์เซน่อลและวัตฟอร์ดก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับเซาแธมป์ตันในที่สุด

 

ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล ผู้จัดการทีมเซาแธมป์ตันชื่นชอบกองหน้าวัย 19 ปีเป็นอย่างมากและสโมสรได้สั่งให้เขาไม่ต้องไปเข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นยู 19 ในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อให้เจ้าตัวได้พักฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่พร้อมรับซีซั่นใหม่ที่จะมาถึง นอกจากนี้นายใหญ่ชาวออสเตรียก็คาดหวังว่าจะได้จำนวนประตูที่มากมายมาจากกองหน้าดาวรุ่งรายนี้กับฤดูกาลที่จะเปิดฉากในเดือนหน้า

 

3.เมสัน กรีนวู้ด (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในชุดปัจจุบันภายใต้การคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ถือว่าเป็นทีมที่น่าภาคภูมิใจมากกับผลผลิตจากอคาเดมี่ของสโมสรในเวลานี้ เมื่อพวกเขากำลังเขาสร้างทีมโดยให้ดาวรุ่งเป็นจุดศูนย์กลางในการลงเล่นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

 

ปีศาจแดงนั้นต้องการเด็กรุ่นใหม่พร้อมกับสายเลือดของความเป็นยูไนเต็ดอยู่ในตัว โดยเฉพาะความกระตือรือร้นและความหึกเหิม เพื่อกลับไปเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ของยุโรปอีกครั้ง และมีเด็กปั้นหลายคนจำนวนไม่น้อยในชุดยู  23 ที่ก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ทั้งแองเจล โกเมส และทาฮิธ ชองแต่มีหนึ่งคนที่ว่ากันว่าจะไปได้ไกลกว่าสองคนที่กล่าวมา นั่นก็คือ เมสัน กรีนวู้ด

 

กองหน้าวัย 17 ปีที่เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาโดยเจ้าตัวได้รับการจับตาว่าจะเป็นนิว มาร์คัส แรชฟอร์ดคนต่อไป เขาได้ลงสนามในช่วงปรีซีซั่นและทำผลงานได้น่าประทับใจมาก ทั้งเกมที่เจอกับลีดส์ ยูไนเต็ดและอินเตอร์ มิลาน และสามารถทำได้ 2 ประตูกับสองแมตช์นี้ จนทำให้โซลลาร์บอกว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับลงเล่นในพรีเมียร์ลีกนัดแรกกับเชลซีในนัดเปิดฤดูกาลที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเร็ววันนี้

 

2.เอ็ดดี้ เอนเคเทียร์ (อาร์เซน่อล)

 

 

ในช่วงหน้าร้อนกับฤดูกาลที่จะมาถึงนี้อาร์เซน่อลมีเงินให้ อูไน เอเมรี่ช้อปปิ้งไม่มากนัก ทำให้ทีมมีความจำเป็นไม่น้อยที่สโมสรจะต้องหันมาใช้บริการของบรรดาแข้งดาวรุ่งทั้งหลาย

 

นายใหญ่ชาวสเปนอย่าง เอเมรี่ ได้พาพวกชุดเยาวชนเดินทางไปอุ่นเครื่องกับทีมด้วย และคนที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น เอนเคเทียร์  กองหน้าวัย 20 ปีที่ได้สัมผัสเกมกับปืนใหญ่ไปแล้วถึง 19 นัด ทำไป 3 ประตู ทว่าเขายังไม่ได้ลงทะเบียนอยู่ในรายชื่อทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อล

 

เมื่อฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวยิงประตูใส่เบิร์นลีย์ในนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก และเขาหวังว่าจะได้รับโอกาสจากเจ้านายอีกครั้ง แม้ว่าจะต้องแข่งกับดาวยิงตัวเทพของทีมทั้งหลายอย่าง ปิแอร์เอเมอริก  โอบาเมยองและอาเล็กซานเดอร์ ลากาแซ็ต แตถึงอย่างไรโชคอาจจะเข้าข้างไอ้หนูรายนี้บ้างก็ได้เมื่อมีข่าวว่าศูนย์หน้าชาวกาบองกำลังจะย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ และหากเป็นเช่นนั้นจริงเอนเคเทียร์ จะได้โอกาสมากขึ้นในฤดูกาลหน้า

 

1.ริอาน บรูว์สเตอร์ (ลิเวอร์พูล)

 

 

จาดอน ซานโช่และคัลลั่ม ฮัดสันโอดอยเป็นสองคนที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17ปีของอังกฤษเมื่อปี 2017 และได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้วทั้งสองคน นอกจากนี้ริอาน บรูว์สเตอร์ก็เป็นอีกคนที่ได้ดาวซัลโวจากรายการนี้ที่ประเทศอินเดีย

 

ช่วงหน้าร้อนปีก่อน บรูว์สเตอร์ คิดจะย้ายออกจากแอนฟิลด์เพราะเขาเหลือสัญญากับทีมแค่ปีเดียว ทำให้โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค พยายามเซ็นสัญญากับไอ้หนูรายนี้ นั่นจึงทำให้ทางลิเวอร์พูลไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้ตัดสินใจขยายสัญญาใหม่กับเจ้าตัวออกไปทันที นอกจากนี้ยังยกเลิกเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรในศึกบุนเดสลีกาอีกด้วย

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมชื่นชอบฝีเท้าของไอ้หนูวัย 19 ปีรายนี้เป็นอย่างมาก จนกระทั่งนายใหญ่ชาวเยอรมันไปดึงตัวเขามาจากเชลซีเมื่อปี 2014 แต่ฤดูกาลก่อนเขาพลาดลงสนามให้หงส์แดงเนื่องจากเจออาการบาดเจ็บเล่นงานตลอด และซีซั่นที่จะมาถึงนี้คล็อปป์หวังว่าจะเป็นเวทีแจ้งเกิดของเขาเสียที

 

เฮดโค้ชเมืองเบียร์ได้พูดคุยกับบรูว์สเตอร์เกี่ยวกับโอกาสของเขาในทีมชุดปัจจุบัน และตัวนักเตะเองก็พร้อมจะแสดงให้เจ้านายเห็นว่าตัวเขาเองนั้นพร้อมแล้วสำหรับ 11 ตัวแรก ในเกมอุ่นเครื่องทั้งสามนัดที่ผ่านมา เขาทำได้ถึง 4 ประตู ทำให้เหล่าเดอะค็อปเชื่อว่าสโมสรไม่จำเป็นต้องหาศูนย์หน้าคนใหม่มาแทนที่ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ในช่วงหน้าร้อนนี้