ถ้วยสำคัญ! โหมโรงเกมนัดชิง ลีก คัพ บุรีรัมย์ ปะทะ บีจี

เกมนัดชิงชนะฟุตบอลถ้วย รีโว่ ลีก คัพ ที่ทุกคนรอคอย ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์รายการนี้ 6 สมัย พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กำลังจะลงสนามพบกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือเกมที่น่าสนใจและมีประเด็นให้พูดถึงไม่น้อยทีเดียว

ต้องบอกเลยว่าการเจอกันของทั้งสองทีมช่วงหลัง ไม่ว่าจะเป็นในถ้วยไหนก็สนุกสุดมันส์แทบทุกเกม และนี่เป็นการโคจรมาเจอกันในเกมนัดชิงฟุตบอล ลีก คัพ ที่มีถ้วยแชมป์เป็นเดิมพันด้วย ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ก่อนเกมมีอะไรที่ต้องจับตาดูบ้าง วันนี้ UFAAREA จะขอหยิบยกเรื่องที่น่าสนใจก่อนเกม เพื่อเป็นการโหมโรงก่อนที่เราจะได้รู้ว่าใครคือเจ้าแห่งบอลถ้วยลีก คัพ ในฤดูกาลนี้

 

บุรีรัมย์ ล่าทริปเปิ้ลแชมป์ สมัย 5

ต้องบอกเลยว่านี่เป็นอีก 1 ซีซั่นที่ “ปราสาทสายฟ้า” โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กำลังอยู่บนเส้นทางของการลุ้น 3 แชมป์ หลังคว้าไปแล้วหนึ่งรายการคือ รีโว่ ไทยลีก เหลือลุ้นอีก 2 ถ้วยก็คือ ช้าง เอฟเอ คัพ และ รีโว่ ลีก คัพ

แน่นอนว่าเป้าหมายสูงสุดของประธานสโมสร เนวิน ชิดชอบ คือตั้งเป้ากวาดเรียบทุกถ้วยที่ลงแข่งขัน และหากพวกเขาทำสำเร็จในครั้งนี้มันจะเป็นแชมป์ลีก คัพ สมัยที่ 7 ของทีม บุรีรัมย์

นอกจากนี้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมายอดทีมจากแดนอีสาน เคยคว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาแล้วถึง 4 ครั้ง ไล่ตั้งแต่ 2011, 2013, 2015 และ 2022 ซึ่งหากหนนี้พวกเขาทำได้อีกจะเป็นการประกาศศักดารักษาตำแหน่งยอดทีมหมายเลข 1 ของประเทศไทยต่อไป

 

บีจี ปทุม ลุ้นแชมป์ ลีก คัพ สมัยแรก

อย่างไรก็ตาม บุรีรัมย์ อาจจะเจอกับงานที่ไม่ง่ายนัก เพราะคู่แข่งของพวกเขาอย่าง “เดอะ บลูแมชชีน” ก็รอคอยที่จะคว้าแชมป์ ลีก คัพ สมัยแรกของสโมสร หลังก่อนหน้านี้เคยได้ถ้วยมาครบเกือบทุกใบในเมืองไทย ไล่ตั้งแต่ ไทยลีก, เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ คัพ

โอกาสใกล้เคียงสุดของพวกเขาในรายการนี้ คือการเข้าชิงเมื่อปี 2018 กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามเกม 90 นาที จบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-1 ทำให้ บีจี ปทุม ต้องพลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย แถมปีนั้นยังชีช้ำหนักเพราะต้องกระเด็นตกชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย

เพราะฉะนั้นการเจอกับ บุรีรัมย์ เชื่อมั่นได้ว่าพวกเขาจะมีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษแน่นอน เพื่อทำตามเป้าหมายที่ทุกคนของสโมสรต้องการ นั่นคือการคว้าแชมป์ ลีก คัพ สมัยแรกให้ได้

 

 

เกมเปิดตัว “โค้งธง”

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจของเกมนี้ คือการประเดิมคุมทีมแบบเต็มตัวนัดแรกของ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่ข้างสนามในเกม ไทยลีก นัดปิดซีซั่นที่ชนะ ชลบุรี เอฟซี 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เกมนี้น่าจะเป็นแมตช์ที่เขาได้เริ่มงานกุนซือของสโมสรอย่างเต็มรูปแบบ

ต้องบอกเลยว่า “โค้ชธง” มีสถิติการเจอกับทีมใหญ่ที่ดีมาก นับตั้งแต่สมัยอยู่กับทีมเก่า นครปฐม ยูไนเต็ด เคยพาทีมเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ในถ้วย ลีก คัพ นี้มาแล้วในรอบแรก แถมยังเคยเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อช่วงต้นซีซั่น

เพราะฉะนั้นการประเดิมคุมทีมของ ธงชัย สุขโกกี ในการพา บีจี ปทุม เจอกับ บุรีรัมย์ ถือว่าน่าจับตามองอย่างมาก การขึ้นมาคุมทีมใหญ่ ต้องเจอกับทีมเบอร์ 1 ของประเทศ ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลของเกมนัดชิงบอลถ้วย นี่จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ “โค้ชธง” เทรนเนอร์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องและถูกพูดถึงอย่างมากในวงการฟุตบอลไทย ตลอดปีที่ผ่านมา

 

 

จับตาสองดาวยิง ศุภชัย vs ธีรศิลป์

นอกจากการแข่งขันที่น่าจะดุเดือดระหว่างทั้งสองทีมแล้ว การเผชิญหน้ากันของสองสุดยอดกองหน้าต่างยุค อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด และ ธีรศิลป์ แดงดา จะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่แฟนบอลต่างจับตาแน่นอน

“เจ้าอาร์ม” ศุภชัย ถือว่าพัฒนาฝีเท้าได้อย่างก้าวกระโดนในซีซั่นนี้ และทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากการลงเล่นไปแล้ว 37 นัด พร้อมกับยิง 22 ประตู กลายเป็นนักเตะไทย คนแรกในรอบ 10 ปี ที่คว้ารางวัลดาวซัลโว ไทยลีก ได้สำเร็จ

ขณะที่ “เอลแดงดา” ฤดูกาลนี้แม้จะมีการเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อถึงยามคับขันของ บีจี ปทุม ก็ยังสามารถเป็นกองหน้าตัวความหวังที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เสมอ ส่วนผลงานซีซั่นที่ผ่านมา ลงเล่นไปแล้ว 31 นัด ยิงไป 19 ประตู เรียกว่าไม่ได้ด้อยกว่าาดาวยิงรุ่นน้องร่วมชาติเลย

เพราะฉะนั้นการเจอกันระหว่างสองคนนี้ ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ การง้างเท้ายิงเพียงไม่กี่ครั้งของทั้งคู่อาจตัดสินผู้ชนะของเกมก็เป็นได้ ท้ายที่สุดแล้วระหว่าง ศุภชัย และ ธีรศิลป์ ใครจะเป็นทีเด็ด จะเป็นคนสร้างความแตกต่างของเกมได้ดีกว่ากัน ต้องไปพิสูจน์ในสนามเท่านั้น

 

สถิติสูสี ไม่หนีกันมาก

จากสถิติที่บันทึกมาทั้งหมด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เคยเจอกันมาแล้วทั้งหมด 26 นัด เป็นทางฝั่ง “ปราสาทสายฟ้า” ชนะ 14 นัด เสมอ 3 นัด และ “เดอะ แรบบิท” ชนะ 11 นัด

หากนับเฉพาะการพบกันเกมฟุตบอลถ้วย เจอกันมาแล้วทั้งหมด 8 นัด บุรีรัมย์ ชนะ 5 นัด และ บีจี ปทุม ชนะ 3 นัด แถมทั้งคู่เคยเจอกันในนัดชิงฟุตบอลถ้วยมาแล้ว 3 นัด คือเกม เอฟเอ คัพ ปี 2013 (บุรีรัมย์ ชนะ 3-1), ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. ปี 2015 (บุรีรัมย์ ชนะ 1-0), ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ปี 2022 (บีจี ปทุม ชนะ 3-2)

ส่วนในถ้วย รีโว่ ลีก คัพ ก่อนหน้านี้เคยเจอกันมา 2 ครั้ง คือเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2015 (บุรีรัมย์ ชนะจุดโทษ 4-2) และเกมรอบรอง ปี 2018 (บีจี ปทุม ชนะ 2-1)

อย่างไรก็ตาม บุรีรัมย์ ถือเป็นเจ้าของถ้วยรายการนี้อย่างแท้จริงก็ว่า เพราะนับตั้งแต่มีการเอาถ้วยใบกลับมาเตะเมื่อปี 2010 พวกเขาเคยเข้าชิงมาแล้วทั้งหมด 9 ครั้ง และคว้าแชมป์ไปถึง 6 สมัย ครั้งล่าสุดคือปีที่แล้วซีซั่น 2021/2022 ที่เอาชนะ ราชบุรี เอฟซี 4-0 ส่วน บีจี ปทุม เข้าชิงครั้งเดียวปี 2018 และแพ้ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0

 

พรีวิว