บรูโน่ เฟอร์นานเดส เหมาสองพา “ฝอยทอง” โปรตุเกส ต้อนเอาชนะ “จอมโหด” อุรุกวัย 2-0 การันตีการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ต่อจาก ฝรั่งเศส และบราซิล

โดยในเกมนี้ โปรตุเกส ไม่มี ดานิโล่ เปเรยร่า แนวรับที่ซี่โครงร้าวต้องส่งตัวเก๋าอย่าง เปเป้ ลงมาจับคู่กับ รูเบน ดิอาส ส่วน อุรุกวัย ปรับทีมมาเล่นระบบ 3-5-2 ดร็อป หลุยส์ ซัวเรซ ส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงยืนคู่หัวหอกกับ ดาร์วิน นูนเญซ

เริ่มเกมครึ่งแรก โปรตุเกส เป็นฝ่ายที่ครอบครองบอลได้มากกว่า มีจังหวะขึ้นเกมบุกเข้าใส่ได้จบเหมือนกันแต่ยังไม่จะแจ้งถึงขั้นที่ เซร์คิโอ้ โรเช็ต นายทวารของอุรุกวัยต้องออกแรงเซฟ

นาทีที่ 18 โปรตุเกส ได้โอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะฟรีคิกของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ วิ่งเข้ามากดเต็มแรง แต่บอลไปแฉลบกำแพงออกหลังไป

จากนั้นนาทีที่ 33 อุรุกวัย พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะลุยเดี่ยวของ โรดริโก้ เบนตานคูร์ ที่แหวกสามผู้เล่นโปรตุเกสได้หลุดไปดวลเดี่ยว แต่ยิงไปรอดขาของ ดีโอโก้ คอสต้า

ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง ทำให้ไม่สามารถทำอะไรกันได้ จบครึ่งเวลาแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 54 โปรตุเกส มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ บรูโน่ เฟอร์นานเดส หยอดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เอาชนะไลน์ล้ำหน้าโฉบแต่ไม่โดน แต่บอลเด้งเข้าประตูไปเป็นเครดิตของ บรูโน่ เฟอร์นานเดส

หลังจากเสียประตู อุรุกวัย อยู่นิ่งไม่ได้พยายามสร้างเกมรุกขึ้นมา ได้ลุ้นจาก เอดินสัน คาวานี่ และดาร์วิน นูนเญซ แต่ก็ไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่

นาทีที่ 74 อุรุกวัย เกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะขึ้นเกมรุกทางฝั่งขวา เป็นการประสานงานของสองตัวสำรองอย่าง ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี้ ที่ไหลให้กับ มักซี่ โกเมซ ยิงหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โปรตุเกส มาได้จุดโทษจากจังหวะการทำแฮนด์บอลของ โฆเซ่ ฆิมิเนซ และเป็น บรูโน่ เฟอร์นานเดส ที่วิ่งมากระโดดยิงเข้าไปนิ่ม ๆ เป็นประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ทำให้โปรตุเกส นำห่างเป็น 2-0

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ ทำให้จบเกม โปรตุเกส เอาชนะอุรุกวัย ไปได้ 2-0 การันตีการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในศึกฟุตบอลโลก 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยเกมนัดต่อไปพวกเขาจะพบกับ เกาหลีใต้ ที่มีอยู่แค่ 1 แต้ม ส่วน อุรุกวัย ที่มีแต้มเดียวเท่ากันจะดวลกับ กาน่า ซึ่งทั้ง 3 ทีมยังมีลุ้นเข้ารอบทั้งหมด

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

โปรตุเกส (4-3-3): ดีโอโก้ คอสต้า, ชูเอาน กานเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, นูโน่ เมนเดส, บรูโน เฟอร์นานเดส, รูเบน เนเวส, วิลเลี่ยมส์ คาร์วัลโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และชูเอา เฟลิกซ์

อุรุกวัย (3-5-2): เซร์คิโอ้ โรเช็ต, โฆเซ่ ฆิมิเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, เซบาสเตียน โกอาเตส, กิเยร์โม่ บาเรล่า, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โรดริโก้ เบนตานคูร์, มาติอัส เวซิโน่, มาติอัส โอลิเวร่า, เอดินสัน คาวานี่ และดาร์วิน นูนเญซ