เนเธอร์แลนด์ ทำเต็มที่แล้วตาม 2 ลูกไล่ตีเสมอ 2-2 แต่สุดท้ายดีไม่พอพ่ายจุดโทษ อาร์เจนติน่า 3-4 ทำให้ ฟ้าขาว ไปตัดเชือกกับ โครเอเชีย
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่้สนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม เนเธอร์แลนด์ ที่รอบ 16 ทีมเอาชนะ สหรัฐ 3-1 มีคิวดวลแข้งกับ อาร์เจนติน่า ที่รอบที่ผ่านมาเบียดชนะ ออสเตรเลีย 2-1
เกมนี้ หลุยส์ ฟาน กัล มีการปรับทีม 1 ตำแหน่งเลือก สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ลงมาเป็นตัวจริงในแนวรุกเพื่อเล่นร่วมกับ โคดี้ กัคโป้ และ เมมฟิส เดปาย ส่วนตัวหลักรายอื่นๆ อยู่ครบ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, เฟรงกี้ เดอ ยอง และ เดนเซล ดรุมฟรี่ส์
ด้าน ลิโอเนล สกาโลนี่ มีการปรับแท็กติกมาเล่นในระบบ 5-3-2 เลือก ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงมาเป็นเซนเตอร์ร่วมกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ คริสเตียน โรเมโร่ แนวรุกวาง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จับคู่กับ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์เบอร์ 1 ของทีม
เกมครึ่งแรกเป็น อาร์เจนติน่า ที่ครอบเกมบุกได้ดีกว่าและนาที 35 เมสซี่ ลากบอลมาหน้าประตูก่อนจ่ายตัดแนวรับไปให้ นาฮวล โมลิน่า แบ็กขวาเติมสูงสอดขึ้นมาจิ้มผ่านมือ นอร์ปเปิร์ท นายด่าน “อัศวินสีส้ม” เข้าประตูไปให้ทีมขึ้นนำ 1-0
เท่านั้นไม่พอนาที 73 “ฟ้าขาว” มาได้ลูกจุดโทษ ดรุมฟรี่ส์ ไปเตะตัดขา มาร์กอส อาคูญ่า ล้มในเขตโทษ และเป็น เมสซี่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปช่วยให้ “ฟ้าขาว” ขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2-0
แต่ เนเธอร์แลนด์ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นาที 83 เบิร์กไวจ์น โยนบอลไปให้ เวาท์ เวกฮอร์ทส์ กองหน้าตัวสำรองโหม่งเข้าประตูไปตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
เกมทำท่าว่าจะเป็นชัยชนะของ อาร์เจนติน่า อยู่แล้ว แต่ช่วงทดเจ็บนาที 11 “อัศวินสีส้ม” มาได้ฟรีคิกหน้าประตูก่อนเป็น คูปไมเนอร์ส เล่นสั้นจ่ายให้ เวกฮอร์ทส์ คนเดิมพลิกยิงจ่อๆ หมดปัญญาที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ จะเซฟได้ ตีเสมอ 2-2 ไปแบบดราม่า และทำให้คู่นี้ต้องต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีสุดท้าย อาร์เจนติน่า เกือบได้ประตูชัยจากจังหวะเล่นเตะมุมสั้น เมสซี่ ไหลมาหน้าประตูให้้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ตวัดยิงไปชนเสาไกลออกหลังอย่างน่าเสียดาย ครบ 120 นาทีเสมอกัน 2-2 เท่าเดิม ต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษ
ผลปรากฎว่า อาร์เจนติน่า ยิงได้เฉียบคมกว่า 5 คนมีพลาดแค่ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ผิดกับ ฮอลแลนด์ ที่ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ เบิร์กไวจ์น พลาด 2 คนแรก ทำให้จบเกม อาร์เจนติน่า ชนะในการยิงจุดโทษ 4-3 สกอร์รวม 6-5