มีผิดมีถูก! 10 นักเตะรุ่งเเละร่วงภายใต้มือคล็อปป์ 

 

เเม้ลิเวอร์พูลจะมีทีมบริหารชั้นยอดนำโดย จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เจ้าของทีม, ทอม แวร์เนอร์ ประธานสโมสร เเละ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผอ.กีฬา เเต่การจะซื้อนักเตะพรสวรรค์เข้าสู่ทีมไม่ใช่เรื่องง่าย

 

นักเตะที่พวกเขาเซ็นมาภายใต้การดูเเลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือทีมนับว่าพาทีมประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด ดูจากการพาทีมคว้าเเชมป์เเชมเปี้ยนส์ ลีก เเละ จ่อเป็นเเชมป์พรีเมียร์ ลีก

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครสมบูรณ์ชนิดที่ไม่เคยผิดพลาด นักเตะบางคนที่ คล็อปป์ ดึงเข้ามาประสบความสำเร็จก็เยอะ เเต่ก็ไปไม่รอดก็มีเยอะ วันนี้เราคัดมาเด่นๆ 5 รุ่ง เเละ 5 ร่วง มีใครดูกัน

 

ผิด

 

 

5 สตีเวน คอลเกอร์ 

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการซื้อตัวที่เเปลกที่สุดตั้งเเต่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล อาจจะรวมไปถึงชีวิตการคุมทีมเขา กุนซือเยอรมันเซ็นคว้า คอลเกอร์  มาจากควีน ปาร์ค เมื่อเดือนมกราคม ปี 2016 ในขณะที่เล่นอยู่กับเซาท์แฮมตันในรูปเเบบยืมตัว โดยตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่อยู่กับหงส์เเดง สิ่งดีที่เกิดขึ้นกับเขาคือการติดทีมชาติอังกฤษไป 1 นัด 

 

คล็อปป์ เป็นคนดึง คอลเกอร์ มาอยู่กับทีมเพื่อเป็นเเบ็คอัพของ มาติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน เเละ มามาดู ซาโก้ เเต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับหายเข้ากลีบเมฆไม่ได้รับความสนใจ ถึงขนาดไม่มีชื่อเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ สุดท้ายได้ลงสนามไปเเค่ 3 เกม

 

 

4 นาบี เกอิต้า

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครั้งหนึ่ง นาบี เกอิต้า เคยเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของลีกบุนเดสลีก้า เเละยังเป็นเเข้งเบอร์หนึ่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก จากผลงานยิง 14 ประตูใน 54 เกม ทำให้ลิเวอร์พูลยอมจ่ายเงิน 52.75 ล้านปอนด์ เป็นค่าฉีกสัญญาของเเข้งกินี 

 

มิดฟิลด์วัย 25 ปีมาพร้อมกับความคาดหวังสูงมากจากเเฟนๆเเละได้สืบต่อเสื้อหมายเลข 8 ของตำนานทีมอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด เเต่เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิด เกอิต้า ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์หนักของฟุตบอลอังกฤษได้ ตกเป็นตัวสำรองตลอดช่วงเเรกๆ หลังจากนั้นก็ปรับตัวขึ้นได้เรื่อยๆเเต่ดันมามีอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาเรื้อรังเล่นงานฤดูกาลนี้มีโอกาสลงสนามไปเพียง 18 เกม 

เวลากำลังหมดลงไปเรื่อยๆสำหรับนักเตะค่าตัวเเพงอันดับ 3 ของสโมสร เขาต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองเเละงัดฟอร์มที่ดีออกมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนตะเพิดออกจากทีมก่อนจะหมดสัญญา

 

 

3 โดมินิค โซลันกี้

 

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องเห็นเด็กหนุ่มที่มีความสามารถ ต้องพบกับสถานการณ์เลวร้าย และโชคร้ายที่นั่น เกิดขึ้นกับ โดมินิค โซลันกี้ หลังจากที่ได้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในปี 2017 จากการแข่งขัน ชิงเเชมป์โลก ยู 17 ปี ในการเล่นให้กับอังกฤษ  ซึ่งรางวัลนี้เคยเป็นของตำนานเเข้งชื่อดังอย่าง เดอิโก้ มาราโดน่า, เซร์คิโอ อเกวโร่, ลิโอเนล เมสซี่ และ พอล พ็อกบา นั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจดึงตัวเด็กคนนี้กลับจากเชลซี ในปี 2017

 

ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ค้าเเข้งในถิ่นแอนฟิลด์ เจ้าตัวมีโอกาสลงสนามไปเพียง 27 เกม ยิงไปเพียง 1 ประตูเท่านั้น ทำให้เขาจำเป็นต้องเก็บข้าวของย้ายออกไปอยู่กับ บอร์นมัธ ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์เพื่ออนาคต เเต่จนถึงตอนนี้เขาลงสนาม 38 เกมยิงได้เเค่ 1 ประตู นั้นนับเป็นความผิดพลาดของทั้ง คล็อปป์ เเละ เอ็ดดี้ ฮาว 

 

 

2 อาเดรียน

 

ได้รับคำชมไม่น้อยหลัง อลิสซอน เบคเกอร์ นายทวารมือ 1 ได้รับบาดเจ็บช่วงต้นฤดูกาลทำให้ อาเดรียน ได้ลงสนามเป็นตัวจริงก่อนจะเป็นฮีโร่เซพจุดโทษพา ลิเวอร์พูล คว้าเเชมป์ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ไปครอง นั้นทำให้เกิดคำถามว่าทำไม เวสต์แฮม ถึงยอมปล่อยเเข้งชาวสเปนออกจากสโมสรเเบบฟรีๆในซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

ผู้อำนวยการกีฬาของลิเวอร์พูล เผยว่าอาเดรียนมีผลงานต่ำกว่าที่คาดไว้มาก เสียไป 4 ประตู ใน 3 เกมล่าสุดที่ลงสนาม ไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวลในเกมของเขา และผลงานในฤดูกาลนี้ที่ลงเล่นให้กับทีมนับว่า ได้นำภาพลักษณ์แย่ๆ ที่คาดไม่ถึง มาสู่เสื้อหมายเลข 13  สรุปง่ายๆ ได้ว่า การมาของเขานับว่าเป็นหายนะสำหรับทีมเลยทีเดียว

 

 

1 ลอริส คาริอุส

 

ผู้ชนะรางวัลนักเตะยอดแย่ของลิเวอร์พูลคงไม่ใช่ใครที่ไหนต้องเป็น ลอริส คอริอุส อย่างเเน่นอน

 

ในขณะที่เเฟนบอลต่างอยากให้โฟกัสไปที่การเเข่งขันลีก เเต่ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีในถ้วยเเชมป์เปี้ยนส์ ลีก พาทีมเข้าชิงชนะเลิศในปี 2018 ที่เคียฟ ประเทศยูเครน เเต่สิ่งเดียวที่ คล็อปป์ ทำพลาดก็คือการไว้ใจ คาริอุส

 

นับว่ายังโชคดีที่หงส์เเดงเสียเงินเพียง 4.2 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวของนายทวารชาวเยอรมัน เพราะฟอร์มของเขามันยังน่าอับอายโดยเฉพาะการเสีย 2 ประตูเเบบไม่น่าเสียในเกมนัดชิงเเชมเปี้ยนส์ ลีก ยังคงตราตรึงในใจของเเฟนๆจนถึงตอนนี้

 

ตอนนั้น ลิเวอร์พูลมีเเค่ คาริอุส กับ มีโญเลต์ เป็นมือ 1 เเละ 2 ก่อนที่สุดท้ายจะยกให้นายด่านเมืองเบียร์รับหน้าที่ไป ก่อนที่ความผิดพลาดของเขาจะส่งเขาให้ต้องเดินออกจากแอนฟิลด์

 

ถูก

 

 

5  แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

 

หนึ่งในการซื้อขายนักเตะที่ขึ้นชื่อที่สุดเเละคุ้มที่สุดของ คล็อปป์ คงหนีไม่พ้นดีลของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เเบ็คที่กำลังจะตกชั้นไปกับฮัลล์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียงเเค่ 10 ล้านปอนด์ 

 

ตอนเเรก โรเบิร์ตสัน เหมือนจะถูกดึงเข้ามาเพื่อเป็นตัวเเบ็คอัพของ อัลเบร์โต โมเนโร่ เท่านั้น เเต่หลังจากเเข้งสเปนได้รับบาดเจ็บ ดาวเตะชาวสก็อตก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพัฒนาตัวเองจนยึดตำเเหน่งตัวจริงของทีมได้เเบบชนิดที่เรียกว่า โมเนโร่ ต้องเดินออกจากทีมไปเเทน 

 

13 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 48 นัดในทุกรายการเป็นตัวเลขที่ โรเบิร์ตสัน ทำได้เมื่อฤดูกาลที่เเล้ว นับว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก เเละยังเป็นการตอบโจทย์ช่องโหว่ในตำเเหน่งเเบ็คซ้าย หลังจากการย้ายไปของ อาเน่ รีเซ่ เมื่อปี 2008 ได้อย่างสมบูรณ์

 

 

4 โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 

ความจริงที่ว่า ซาล่าห์ จัดว่าคุ้มค่าเป็นอันดับ 4  ในการซื้อตัวที่ดีที่สุดของคล็อปป์นั้น แสดงให้เห็นได้ว่าเขาได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์แค่ไหน

 

หลังจากออกจากเชลซีก่อนจะไปสร้างชื่อกับโรม่า ทำให้ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มเงินเพื่อซื้อ ซาลาห์ กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เเข้งอียิปต์เปิดตัวได้อย่างร้อนเเรงตั้งเเต่ฤดูกาลเเรกของเขากับลิเวอร์พูล 44  ประตูในการลงสนาม 52 เกมรวมทุกรายการเป็นเครื่องการัยตีในฝีเท้าของเขาเเล้ว 

 

ซาลาห์ พาหงส์เเดงเข้าชิงเเชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้งคว้าได้ 1 เเชมป์เเถมยังพาทีมจ่อเป็นเเชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งเเรกในรอบ 30 ปี ผลงานการทำ 91 ประตู จาก 144 นัดให้กับหงส์แดงยังพิสูจน์เเล้วเขาเป็นเเข้งระดับต้นๆของโลกอีกหนึ่งคน

 

 

3 อลีสซอน เบ็คเกอร์

 

ปัญหาที่ คาริอุส สร้างไว้ทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่มีทางเลือกอื่นต้องยอมทุ่มเงินเป็นสถิติโลก 67 ล้านปอนด์ (ก่อนโดนทำลาย) ให้กับโรม่า เพื่อเเลกกับการดึงตัว อลีสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารบราซิลมาร่วมทีม เเละยังได้ชื่อว่าเป็นการเซ็นสัญญาประตูที่ดีที่สุดของ คล็อปป์ 

 

เพียงเเค่ฤดูกาลเเรกกับหงส์เเดง อลีสซอน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ารางวัลถุงมือทองคำ 3 รายการใหญ่ พรีเมียร์ลีก (21 คลีนชีต), ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก (6 คลีนชีต) เเละ โคปา อเมริกา 2019 (5 คลีนชีต) เเม้จะพาทีมจบเเค่ที่ 2 ในลีก เเต่เเชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป กับฟอร์มอันยอดเยี่ยมทำเม็ดเงินที่หงส์แดงได้จ่ายไปนับว่าคุ้มค่าสุดๆ

 

 

2. ซาดิโอ มาเน่

 

เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า คนที่ใช่ ไม่ต้องมาเป็นคนสุดท้ายเสมอไป มาเน่แทบไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอะไรเลยตั้งแต่ เขาย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูลเมื่อปี 2016  

 

ช่วงเเรกๆ มาเน่ โดนเเฟนบอลวิจารณ์ไม่น้อยเพราะสไตล์การเล่นที่ดูจะหวงบอลเล่นคนเดียวไม่ห่วงเพื่อนร่วมทีม เเต่หลังจากปรับตัวได้เจ้าตัวก็เข้าไปนั้งอยู่ในใจของเเฟนบอลจนได้

 

เเม้ผลงานการยิงประตูของปีกชาวเซเนกัลจะเป็นรอง ซาลาห์ เเต่เขามักทำประตูสำคัญๆได้ทุกครั้งเเละดูเหมือนจะเล่นเข้าขากันในฐานะ 3 เเนวรุกเเถวหน้าระดับโลก 77 ประตูในการลงสนาม 161 นัด เป็นเครื่องการันตีความยอดเยี่ยมของเขาเเล้ว 

 

คล็อปป์ คว้าตัวมาเน่มาในราคา 34 ล้านปอนด์ ขณะที่ เชลซี คว้า แดนนี ดริงค์วอเตอร์ มาในราคา 35 ล้านปอนด์ คุณคิดว่าใครคุ้มกว่ากันเปรียบเทียบเเบบนี้คงได้เห็นภาพกันมากขึ้น

 

 

1 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค

 

จะใครเสียอีกล่ะ?

 

เมื่อพิจารณาถึง ฟาน ไดจ์ค เขาคือการทำสัญญาที่ประสบความสำเร็จและสำคัญที่สุดของลิเวอร์พูลในยุคของพรีเมียร์ลีก คุณแทบไม่จำเป็นต้องนึกให้เสียเวลาเลยว่า เขาจะเป็นหนึ่งในความสำเร็จของการเซ็นของคล็อปป์หรือไม่

 

นักเตะชาวดัตช์คนนี้สามารถทำอะไรได้อย่างง่ายดาย สามารถรับมือกับกองหน้าระดับโลกที่มีความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยม และเขาแทบจะไม่มีผลงานด้านแย่ๆ ออกมาเลย  ไม่เพียงที่กองหลังคนนี้จะเปลี่ยนรูปการตั้งรับให้กับลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่กองหลังคนยกระดับทีมขึ้นมา กลายเป็นสโมสรระดับหัวเเถมของยุโรป