ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ รอบแบ่งกลุ่มกลุ่มเอนัดที่ 3 เมื่อวันอังคารที่ 14 ธันวาคม ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จ่าฝูงของกลุ่ม ดวลกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
เริ่มเกมมาถึงนาที 22 ไทย มีโอกาสลุ้นทำประตู จากจังหวะที่ ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ ในกรอบเขตโทษ ก่อนแตะจังหวะเดียวให้ ชนาธิป แต่เจ้าตัวช้าไปหนึ่งจังหวะทำให้ชวดลุ้นทำประตูอย่างน่าเสียดาย
Goal!! และอีกเพียง 4 นาที “ช้างศึก” ก็มาได้ประตู ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ ธีรศิลป์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ธีรศิลป์ ซัดด้วยซ้ายเข้าไป พร้อมทำให้ มุ้ย กลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลในรายการนี้ แทนที่ นอห์ อลัม ชาห์ ตำนานกองหน้าทีมชาติสิงคโปร์ไปแล้ว หลังทำประตูที่ 18 ในทัวร์นาเมนต์นี้
ซึ่งทั้ง 18 ประตูของ ธีรศิลป์ มาจาก ปี 2008 ยิง 4 ลูก(ดาวซัลโวร่วม) , ปี 2012 ยิง 5 ลูก(ดาวซัลโว) ,ปี 2016 ยิง 6 ลูก(ดาวซัลโว) ,ปี 2020 ยิง 3 ลูก
ช่วงเวลาที่เหลือครึ่งแรก ยังเป็นทัพ “ช้างศึก” ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้ ก่อนที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรก ไทย นำ ฟิลิปปินส์ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง ช้างศึก ยังเปิดเกมรุก ต่อเนื่อง และได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะต่อบอลทำเกมขึ้นมาถึงทางซ้าย ธีราทร แตะเข้ากลางจังหวะเดียว สุภโชค จับหนึ่งจังหวะ ก่อนจะซัดบอลพุ่งตรงตัว เควิน เรย์ แฮนเซน นายทวารฟิลิปปินส์ รับกระฉอกออกมาแต่ยังรีบเข้าซองได้
จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา ไทย ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ธนวัฒน์ ซัดไกลระยะ 30 หลาบอลพุ่งชนคานอย่างจัง
Goal!! แต่แล้วนาที 56 ฟิลิปปินส์ ที่แทบไม่มีโอกาสทำประตู มาได้โอกาสครั้งแรก และเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ทันที เมื่อครอสบอลยาวเข้ามาในกรอบเขตโทษ มานูเอล ทอม เบียร์ห โหม่งบอลสกัดแต่มาเข้าทางปืน พาทริค ไรเชลท์ ซัดเต็มข้อแบบไม่จับเข้าไปอย่างเฉียบขาด
นาที 60 ไทย ได้ลุ้นอีกรอบ คราวนี้เป็น ธนวัฒน์ ได้ปั่นด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่โดนแนวรับ ฟิลิปปินส์ สกัดได้จากเส้น
นาที 75 มาโน่ โพลกิ้ง เปลี่ยนออก 3 คนรวด เอา วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ,บดินทร์ ผาลา ลงมาแทน ชนาธิป ,สารัช และ ธนวัฒน์ ออก
Goal!! และเพียงนาทีเดียว “ช้างศึก” มาได้จุดโทษทันที เมื่อ อมานี อกีนัลโด ทำฟาลว์ ฐิติพันธ์ ที่เพิ่งลงมา และเป็น ธีรศิลป์ คนเดิมรับหน้าที่สังหารเข้าไปทางซ้ายอย่างเฉียบขาดเป็นประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ธีรศิลป์ เกือบได้ลุ้นแฮททริค เมื่อ สุภโชค ครอสบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ มุ้ย ได้โขกเต็มๆ แต่บอลยังติดเซฟ เควิน เรย์ แฮนเซน ทุบออกมาได้ ก่อนที่ ธีรศิลป์ จะโดนเปลี่ยนตัวส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาแทน
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ไทย เอาชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 เก็บชัยชนะ 3 นัดรวด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ แน่นอนแล้ว แต่ยังต้องลุ้นแชมป์กลุ่มกับ สิงคโปร์ ในเกมนัดสุดท้าย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A นัดสุดท้าย ไทย จะพบกับทีมชาติ สิงคโปร์ เจ้าภาพ ใวันที่ 18 ธันวาคม ที่ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในเวลา 19.30 น.
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้ง 2 ทีม
ทีมชาติไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, มานูเอล ทอม เบียร์ห, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา
ทีมชาติฟิลิปปินส์ : เควิน เรย์ แฮนเซน (ผู้รักษาประตู), มาร์ติน สตูเบิล, อมานี อกีนัลโด, เยสเปอร์ นีโฮล์ม, ไดสุเกะ ซาโตะ, สเตฟาน ชร็อค, เควิน อินเกรโซ, จัสติน บาส, พาทริค ไรเชลท์, เอียน แรมซีย์, อังเคล กีราโด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รุกมันส์หลังแน่น! เจาะแผนการเล่น มาโน่ โพลกิ้ง คุมช้างศึกลุย ซูซูกิ คัพ
