ศึกพรีเมียน์ลีก ฤดูกาล 2022-23 วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม คู่ระหว่าง อาร์เซน่อลทีมอันดับ 2 บุกเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3
สาลิกาเกมนี้ยังคงส่งตัวหลักลงเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น คัลลั่ม วิลสัน จับคู่กับ อเล็กซานเดอร์ อิซาค ส่วนทาง ปืนโตมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่งโดยเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ แทนที่ เลอันโดร ทรอซซาร์
เริ่มเกมได้ 9 นาที เจ้าบ้านเกือบได้จุดโทษ จากจังหวะที่ บรูโน กิมาไรส์ ยิงไปติดบล็อคของยาคุ๊บ คิวิออร์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลในทีแรก แต่ VAR ชี้ว่าบอลไปโดนบริเวณหน้าขาของ คิวิออร์ ไม่ได้ไปโดนแขน
นาทีที่ 14 ทางปืนใหญ่เป็นฝ่ายนำไปได้จากจังหวะที่ จอร์จินโญ่ ไหลบอลให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ได้ส่องไกลส่งบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำไปได้ก่อน 1-0 หลังจากนั้นทัพปืนโตพยายามยิงหลายจังหวะแต่ก็โดน นิค โป๊ป เซฟไว้ได้ ทำให้ครึ่งแรกจบด้วยสกอร์นำ 1-0 ของทีมเยือน
ครึ่งหลังเริ่มมานาที 48 นิวคาสเซิ่ล เกือบได้ประตูนำจากจังหวะที่ จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ พาบอลไปในกรอบเขตโทษก่อนยกมาที่เสาแรกให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค โขกชนเสา ถัดมานาที 49 สาลิกาเกือบได้อีก จากเตะมุมเข้ามาให้ ชาร์ โขกแต่ก็ติดเซฟ แรมสเดล
นาที 71 อาร์เซน่อลได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลากบอลขึ้นมาก่อนเปิดยัดเข้ากลางแต่บอลดันไปโดน ฟาเบียน ชาร์ เข้าประตูไปทำให้สกอร์กลายเป็น 2-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้และจบลงด้วยชัยชนะ 2-0 ของปืนใหญ่
โดยชัยชนะในเกมนี้ทำให้ ปืนใหญ่ขยับเข้าใกล้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 แต้ม แม้แข่งมากกว่า ส่วนทางสาลิกาสถานการณ์ลุ้นท็อปโฟร์เหนื่อยขึ้นไปอีก
นักเตะที่ลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล : นิค โป๊ป(GK) – คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน ชาร์, สเวน บ็อตมัน, แดน เบิร์น – โจลินตอน, บรูโน่ กีมาไรส์, โจ วิลล็อค – จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์, คัลลั่ม วิลสัน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค
สำรอง : มิเกล อัลเมร่อน(65) , อัลลัน แซงต์ แม็กซิแมง(78) ,แอนโธนี่ กอร์ดอน(78) , เอลเลียต แอนเดอร์สัน(81) , แมตต์ ทาร์เกตต์(81)
อาร์เซน่อล : อารอน แรมสเดล(GK) – เบน ไวท์, กาเบีรยล มาร์กัลเญซ, ยาคุ๊บ คิวิออร์, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ – มาร์ติน โอเดการ์ด, จอร์จินโญ่ , กรานิต ชาก้า – บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เฮซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
สำรอง : คีแรน เทียร์นี่ย์(61),เลอันโดร ทรอซซาร์(80) , โธมัส ปาร์เตย์(80) , เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์(87),รีสส์ เนลสัน(87)
ปั่นไม่แพ้ใคร : อัลลาร์ไดซ์กับ 10 ช่วงเวลาน่าจดจำในโลกลูกหนัง
