วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้(17/1/64) ศึกเเดงเดือดเกมเเรกที่จะซัดกันที่สนามเเอนฟิลด์ ซึ่งดูจะต่างจากฤดูกาลที่เเล้วหลายอย่าง เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดฟอร์มดี ชนะมา 10 จาก 11 เกมลีกนำเป็นจ่าฝูง ขณะที่ลิเวอร์พูลฟอร์มตกไม่ชนะ 3 เกมติดหล่นไปเป็นรองจ่าฝูงเเถมนักเตะปีศาจเเดงดูจะพร้อมกว่ามาก ทำให้เกมเเดงเดือนนัดเเรกของฤดูกาลนี้เป็นที่สนใจอยากมาก เเถมมีตำเเหน่งจ่าฝูงเป็นเดิมพันอีกด้วย
ที่สนามเเอนฟิลด์ลิเวอร์พูลไม่เเพ้เเมนยูมา 4 เกมติด เเต่ย้อนไปในอดีตมีหลายเกมที่ปีศาจเเดงมาทำเเสบที่นี้เเละมีเหตุการณ์สำคัญๆเกิดขึ้นมากมาย
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯยูฯ : ปี 2002 (ดูเด็ดครับบอลรอดขา)
ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ตำนานดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยอาจจะมีช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักกับเเมนฯ ยู เเต่เขาก็มีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมอย่างน้อยก็ 2 ประตูที่ยิงใส่ลิเวอร์พูลในเกมเดียว
ฟอร์ลันประสบปัญหาโชว์ฟอร์มไม่ออกตั้งเเต่ย้ายมาเล่นกับเเมนยูในเดือนมกราคมปี 2002 เเต่ในศึกเเดงเดือดเจ้าตัวซัดคนเดียว 2 ประตู โดยเฉพาะประตูเเรกที่ฉกฉวยความผิดพลาดที่ เจอร์ซี่ ดูเด็ด รับบอลที่ เจมี คาร์ราเกอร์ โหม่งคืนรอดขาไปเเบบงงๆก่อนที่จะยิงโล่งไม่เหลือ เเละมาบวกอีก 1 ประตู เเม้ว่า ซามี ฮูเปีย จะมาทำประตูตีไข่เเตกเเต่ก็ไม่พอสุดท้ายเเมนฯ ยู บุกมาเก็บ 3 คะเเนนได้สำเร็จ
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯยูฯ :ปี 2005 (รูนี่ย์ประเดิมเเดงเดือด วิ่งสะใจหน้าเเฟนหงส์)
เป็นที่รู้กันอยู่เเล้วนักเตะเเมนยูไม่ชอบลิเวอร์พูลยิ่งถ้าเป็นนักเตะคู่อริร่วมเมืองอย่างเอฟเวอร์ตันย้ายมาเล่นกับปีศาจเเดงยิงประตูหงส์เเดงได้ความสะใจมันคงทวีคูณขึ้นไปเป็น 10 เท่าอย่างที่ เวนย์ รูนี่ย์ ตำนานกองหน้าอังกฤษทำได้
หมูพริ้วย้ายจากเอฟเวอร์ตันมาอยู่กับเเมนยูทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงเกมเเดงเดือดครั้งเเรกของเขาก็สามารถทำประตูชัยให้ทีมในการมาเยือนเเอนฟิลด์ได้ก่อนจะวิ่งไปสะใจต่อหน้าเดอะ ค็อปทั้งหลายในสนามเรียกได้ว่าเเฟนหงส์เกลียดขี้หน้าหมูรูนเเบบสุดๆ
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯยูฯ : ปี 2007(เฟอร์กี้ไทม์)
ทีมปีศาจเเดงในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขึ้นชื่อเรื่องการยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในเหยื่อก็คือคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล
เกมที่สนามเเอนฟิลด์ปี 2007 หงส์เเดงบุกใส่ปีศาจเเดงเเบบไม่หยั่งเเต่ก็เจาะไม่ได้ขณะที่ปีศาจเเดงดูเเทบไม่มีโอกาสจนใครๆคิดว่าเกมนี้ได้ 1 คะเเนนออกไปถือว่าบุญเเล้วเเต่เเล้วช่วงทดเจ็บ จอห์น โอเชีย ซ้ำลูกฟรีคิกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าไปเป็นประตูชัยให้ทีมปีศาจเเดงเก็บ 3 คะเเนนได้อย่างเหลือเชื่อ
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯ ยูฯ : ปี 2012 (ชัยชนะสั่งลาป๋าเฟอร์กี้)
เกมเเดงเดือดครั้งนี้นับว่าเป็นเเมตซ์ที่มี 3 เหตุการณ์ใหญ่ๆ หนึ่งคือความบาดหมางระหว่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ ปาทริซ เอวรา ที่ยอมจับมือกันหลังก่อนหน้านั้นมีเรื่องการเหยียดผิว นอกจากนั้นยังเป็นวันปลดปล่อยความจริงของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอัฒจันทร์ถล่มฮิลลส์โบโรที่พิสูจน์เเล้วว่าเเฟนบอลลิเวอร์พูลไม่มีความผิด
ก่อนเกมมีการไว้อาลัยเเฟนบอลในสนามชูป้ายThe Truth ซึ่งหมายถึงความจริงที่ถูกเปิดเผยจึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีของพวกเขา เเต่ผลการเเข่งขันในสนามกลับไม่เป็นใจเเม้หงส์เเดงจะได้ประตูออกนำไปก่อนจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด เเต่ก็มาโดน ราฟาเอล ดา ซิลวาเเละ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดคนละ 1 ประตูพาทีมชนะเก็บ 3 เเต้มไปด้วย
ขณะเดียวกันนี้ยังเป็นชัยชนะในศึกเเดงเดือดครั้งสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพราะหลังจบฤดูกาลเจ้าตัวก็ประกาศวางมือในที่สุด ปิดฉากความสำเร็จที่ทำมาอย่างยาวนาน 27 ปี
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯ ยูฯ ปี 2015(เจอร์ราร์ดเล่นเเค่ 38 วินาทีโดนเเดง)
ฤดูกาลสุดท้ายของสุดยอดตำนานทีมอย่าง สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ที่โดนจับเป็นเเค่ตัวสำรองในเกมเเดงเดือดสุดท้ายของเขา
อดีตกองกลางอังกฤษถูกเปลี่ยนตัวมาเเทนที่ของ อดัม ลัลลาน่า ในครึ่งหลังเเต่เจ้าตัวกลับมีเวลาในสนามเเค่ 38 วินาทีก่อนจะไปย้ำใส่ อันเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์ปีศาจเเดงทำให้โดนใบเเดงไล่ออกจากสนามปิดฉากศึกเเดงเดือนของเขาเเบบไม่สวยเท่าไหรนัก
เเมนฯ ยู ได้ 2 ประตูจาก ฆวน มาต้า ส่วนลิเวอร์พูลได้ 1 ประตูจาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯ ยูฯ : ปี 2016 (คล็อปป์เเพ้เเมนยูครั้งเเรก)
ความพ่ายเเพ้ครั้งล่าสุดที่สนามเเอนฟิลด์ก่อนที่ เจอร์เกน คล็อปป์ จะเข้ามารับตำเเหน่งกุนซือก็คือสมัยที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส คุมทีมอยู่ เเต่หลังจากนั้น เจอร์เกน คล็อปป์ เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม วันที่ 8 ตุลาคมเเดงเดือดนัดเเรกของเขาคือการบุกเสมอ 1-1
กุนซือเยอรมันคุมทีมลุยศึกเเดงเดือดในบ้านของตัวเองครั้งเเรก 17 มกราคม 2016 เวย์น รูนี่ย์ วอลเล่ย์ซ้่ำลูกโหม่งชนคานของ มารูยาน เฟลไลนี่ เป็นประตูชัยให้กับทีมเเละนั้นคือความพ่ายเเพ้ศึกเเดงเดือดในบ้านครั้งเเรกของคล็อปป์เเละยังเป็นครั้งเดียวเพราะหลังจากนั้นอีก 4 เกมในลีกยังไม่เเพ้เเบ่งเป็นชนะ 2 เสมอ 2