อีกไม่กี่วันเราก็จะทราบกันแล้วว่านักฟุตบอลคนไหนที่จะคว้ารางวัลบัลลงดอร์หรือรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าไปครอง แต่นอกเหนือจากรางวัลอันทรงเกียรติ์นี้แล้วยังมีอีกรางวัลหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือรางวัล Golden Boy หรือรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นการมอบให้กับผู้เล่นที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปีที่โชว์ผลงานได้อย่างสุดยอดตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้มีซุปตาร์มากมายหลายคนที่เคยผ่านการคว้ารางวัลนี้มานอนกอด ไม่ว่าจะเป็นลิโอเนล เมสซี่, เวย์น รูนีย์หรือเซร์คิโอ อเกวโร่ และในปีนี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่มีแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์มากมายที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่าดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปดูกันว่ามีใครกันบ้างที่เป็น 5 ตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลนี้ไปครอง
5.ดอนเยลล์ มาเล็น (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น )
4 ใน 5 แข้งที่เป็นตัวเต็งกับการคว้ารางวัล Golden Boy นี้คือผู้ที่ถูกคาดหมายไว้อยู่แล้วว่าคือคนที่มีสิทธิ์คว้ารางวัลนี้ไปครอง แต่การเลือกอันดับที่ 5 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เมื่อพิจารณาอย่างดีที่สุดแล้ว เราจึงมองไปที่ ดอนเยลล์ มาเล็นของพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
มาเล็นเติบโตมากับศูนย์ฝึกเยาวชนของอาแจ็กซ์และอาร์เซน่อล ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อคาเดมี่ของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นในปี 2017 จากลอนดอนทางตอนเหนือ เขาใช้เวลาแค่เพียงปีเดียวก็ขึ้นไปเล่นให้ทีมสำรองของสโมสรจากนั้นก็ถูกดันขึ้นชุดใหญ่ทันทีเมื่อฤดูกาล 2018/19
ฤดูกาลที่แล้วมาเล็นทำประตูไปได้ 11 ลูกจากการลงสนาม 42 นัดให้กับสโมสรในลีกอีเรดิวิซี่ ส่วนในฤดูกาลนี้ เขาทำไปแล้ว 16 ประตูจาก 19 เกมในทุกการแข่งขัน
ดาวเตะวัย 20 ปีได้เปิดตัวกับทีมชาติฮอลแลนด์ไปแล้วในปีนี้ โดยเกมที่พบกับทีมชาติเยอรมันในยูโร 2020 รอบคัดเลือกที่ทั้งสองทีมอยู่กลุ่มเดียวกัน เขาก็ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองและทำประตูได้ระหว่างที่ทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 2-2 ซึ่งผลสุดท้ายทีมอัศวินสีส้มก็บุกไปชนะถึงถิ่นเมืองเบียร์ 4-2
4.ไค ฮาเวิร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
นายห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มีผู้เล่นดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมายในทีม แต่คนที่แจ้งเกิดมากที่สุดน่าจะเป็นไค ฮาเวิร์ตซ์
กองกลางวัย 20 ปีมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมเมื่อซีซั่นก่อนและยังคงโชว์ผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และถ้าเขายิ่งเล่นยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ คงไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปที่จ้องจะตะครุบตัวเป็นแน่
เมื่อฤดูกาล 2018/19 ฮาเวิร์ตซ์ ทำไปได้ 20 ประตูและส่งให้เพื่อนยิงอีก 7 ลูก จากการลงสนามไปทั้งหมด 42 เกมรวมทุกถ้วยทุกรายการ โดยผลงานดังกล่าวนี้มาจากการลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์แบบเพียวๆ นอกจากนั้นเขายังเป็นแข้งวัยโจ๋คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูได้สูงสุดในลีกบุนเดสลีกาและยังกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดคนที่ 2 ที่ทำประตูได้มากที่สุดเท่าที่มีคนเคยทำไว้ด้วยจำนวน 25 ลูกในลีก แถมยังได้รับเลือกให้คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมันเป็นลำดับที่ 2 รองจาก มาร์โก รอยส์ ตัวรุกเพื่อนร่วมชาติที่ซิวรางวัลนี้ไปครอง
ในระดับนานาชาติ ฮาเวิร์ตซ์ ติดธงอินทรีเหล็กเยอรมันไปแล้ว 7 นัด ทำไปได้ 1 ประตู ซึ่งประตูเดียวที่เขาทำได้ก็คือเกมกระชับมิตรที่พบกับอาร์เจนติน่า
3.มัตไตจ์ส เดอ ลิกท์ (ยูเวนตุส)
มัตไตจ์ส เดอ ลิกท์คือผู้ที่คว้ารางวัลนี้เมื่อปีที่แล้วและในปีนี้เขาก็ติดโผเข้ามาชิงกับเขาด้วยและไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้รางวัลนี้เป็นสมัยที่สองติดต่อกันเป็นคนแรกก็เป็นได้
ในปี 2019 นี้ ถือว่าเป็นปีทองอีกปีหนึ่งของเดอ ลิกท์เลยก็ว่าได้ เมื่อเขาพาอาแจ็กซ์คว้าแชมป์ลีกแถมยังพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกต่างหาก โดยลูกยิงในรอบก่อนรองชนะเลิศกับยูเวนตุสเป็นลูกที่พาพวกเขาเข้ามาเล่นในรอบดังกล่าว นอกจากความสำเร็จในระดับสโมสรแล้ว ในนามทีมชาติ เขาก็พาฮอลแลนด์เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการยูฟ่าเนชั่นลีก
ดาวเตะวัย 20 ปีย้ายไปอยู่กับยูเวนตุสเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาและกลายเป็นกำลังสำคัญในแผงหลังของไอ้ม้าลายคู่กับเลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ทันที ในยามที่ปราศจากกัปตันทีมอย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ นอกจากนั้นเซนเตอร์แบ็ครายนี้ยังติดทีมยอดเยี่ยมของ FIFPro World XI อีกด้วย
2.เจา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด)
นอกจากเรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่าที่มีการทุ่มเงินเป็นจำนวนมากในการสอยนักเตะดีๆเข้ามาสู่ทีมหลายคนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แอตเลติโก มาดริด ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ใช้เงินลงทุนไปไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะในรายของ เจา เฟลิกซ์ที่พวกเขาซื้อมาจากเบนฟิก้าด้วยค่าตัว 126 ล้านยูโร เมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาล
เฟลิกซ์กลายมาเป็นแข้งคนสำคัญในทีมชุดใหญ่ของเบนฟิก้าทันทีเมื่อซีซั่นก่อน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้เห็นกันในถ้วยยูโรป้าลีกหลายๆนัด แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้แอตฯมาดริดยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับดาวเตะวัย 19 ปีที่ลงเล่นให้เหยี่ยว ลิสบอนไป 43 เกมและทำไปได้ 20 ประตู แถมยังช่วยให้ต้นสังกัดเก่าคว้าแชมป์ลีกรวมทั้งได้รับเลือกให้คว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของโปรตุเกสอีกต่างหาก
สำหรับการเริ่มต้นที่ดีกับสโมสรใหม่ น่าจะส่งผลดีให้กับทีมชาติโปรตุเกสด้วยเมื่อเขายิงไปแล้ว 3 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์รวมทุกถ้วยทุกรายการ
1.จาดอน ซานโช่ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ตั้งแต่ตัดสินใจย้ายจากเกาะอังกฤษไปเล่นในลีกเมืองเบียร์กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จาดอน ซานโช่ ก็กลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสรอย่างรวดเร็ว จนมีข่าวเป็นระยะว่ามีหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกอยากจะดึงตัวเขากลับไปเล่นในบ้านเกิด คาดว่าหากมีการย้ายทีมเกิดขึ้นจริงค่าตัวของเขาคงจะสูงลิบลิ่วเลยทีเดียว
ซีซั่นก่อนซานโช่ยิงประตูให้กับเสือเหลืองไป 13 ลูกกับอีก 19 แอสซิสต์จากการลงเล่นไปทั้งหมด 43 เกมรวมทุกถ้วยทุกรายการ นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เล่นที่จ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้มากที่สุดในลีกบุนเดสลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย และในฤดูกาลนี้เขายังเป็นผู้นำในตำแหน่งจอมแอสซิสต์ร่วมกับอีก 5 คนในลีกจากการลงสนามไปเพียง 7 นัดเท่านั้น
ในวัย 19 ปี เขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติอังกฤษอีกด้วย โดยปีกรายนี้ทำประตูให้สิงโตคำรามไปแล้ว 2 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงสนามไปเพียง 10 นัดเท่านั้น
เป็นที่คาดหมายว่า ซานโช่ คือผู้ที่มีโอกาสคว้ารางวัลนี้มากที่สุดและถ้าหากเขาได้รับเลือก เขาจะกลายเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษคนที่ 3 ที่ได้รางวัลนี้ไปครองต่อจาก เวย์น รูนีย์และราฮีม สเตอร์ลิ่ง