ไม่สมควร! เดมเบเล่-กรีซมันน์ ขอโทษโพสต์คลิปเหยียดคนเอเชีย

 

 

อุสมาน เดมเบเล่ และ อองตวน กรีซมันน์ 2 แนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส และ บาร์เซโลน่า ออกมาแสดงความขอโทษ เหตุการณ์ที่เหยียดเชื้อชาติเจ้าหน้าที่ชาวเอเชีย

 

โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกโดย เดมเบเล่ ในช่วงที่ บาร์เซโลน่า ไปออกทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2019 ซึ่ง จังหวะนั้นมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคเชื้อสายเอเชียคนหนึ่งที่พยายามจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับโทรทัศน์ในห้องพักของโรงแรมโดยที่มีอีก 2 คนอยู่ใกล้ๆ เพื่อหารือกัน

 

 

ปรากฏว่า เดมเบเล่ พูดขึ้นมาว่า “พวกนี้นี่มีหน้าตาทุเรศแบบนี้เพียงเพื่อที่จะได้เล่น พีอีเอส (ย่อจาก โปร เอฟโวลูชั่น ซ็อคเกอร์ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษสำหรับเกมฟุตบอลชื่อดังของ วินนิ่ง อีเลฟเว่น) พวกแกไม่ละอายใจกันเลยรึไงวะ” แถมหลังจากนั้นเขายังพูดอีกว่า “นี่ไอนี่พูดภาษาบ้าอะไรกันน่ะ ?” และ “ตกลงแล้วเทคโนโลยีในประเทศของนายก้าวหน้ารึเปล่า” โดยในช่วงนั้น กรีซมันน์ ก็หัวเราะกับคำพูดของ เดมเบเล่ และไม่ได้พยายามห้ามปรามเขาด้วย

 

ซึ่งจากคลิปดังกล่าวทำให้ทั้งคู่โดนกระแสโซเชี่ยลโจมตีอย่างหนัก ก่อนที่ล่าสุด เดมเบเล่ และ กรีซมันน์ จะออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ผ่านทาง อินสตราแกรมส่วนตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หายไวๆ! เดมเบเล่ เข่าเดี้ยงพักยาว 4 เดือน ถอนตราไก่ศึกยูโร

 

 

“สวัสดีทุกคน ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คลิปส่วนตัวจากเมื่อปี 2019 ของผมถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่จริงมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกที่ในโลก และผมก็มีโอกาสที่จะพูดในทิศทางแบบนั้นเหมือนเดิมไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม (เดมเบเล่ สื่อว่าเขาจะพูดแบบเอาขำขันด้วยประโยคคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม) ฉะนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจะพุ่งเป้าไปที่สังคมไหนเป็นพิเศษเลย”

 

 

“ผมมักจะพูดแบบนี้กับเพื่อนๆ ของผมเวลาที่เราอยู่กันเป็นส่วนตัว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นคนจากที่ไหนก็ตาม ในเมื่อตอนนี้คลิปวิดีโอมันถูกเผยแพร่ในที่สาธารณะแล้วนั้น ก็เข้าใจดีว่ามันอาจจะทำให้บางคนรู้สึกไม่ดี ดังนั้นผมเลยอยากขอโทษจากใจจริง”

 

 

ขณะเดียวกัน กรีซมันน์ ก็ตอบกลับเรื่องนี้ในทวิตเตอร์ว่า “ผมต่อต้านการเหยียดทุกรูปแบบอยู่เสมอ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีบางคนที่อยากทำให้ผมมีภาพลักษณ์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงของผม ผมขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอโทษด้วยถ้าผมทำให้บรรดาเพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมไม่พอใจ”

 

 

ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าทั้งคู่จะโดน สโมสร บาร์เซโลน่า ,สมาคมฟุตบอลสเปน หรือ สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ลงโทษในเรื่องนี้หรือไม่