แม้พ่ายในเกมเหย้าเลกสอง แต่ เปแอสเช ก็ควงแขน เชลซี ผ่านรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีกสำเร็จ
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สองในคืนวันที่ 13 เมษายน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิด พาร์ค เดส แพรงส์ ต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค โดยเกมแรกพวกเขากุมความได้เปรียบด้วยสกอร์ 3-2
เกมครึ่งแรก เปแอสเช มีโอกาสขึ้นนำแบบจะแจ้งถึง 2 ครั้ง จากลูกยิงของ เนย์มาร์ แต่ยิงแม่นเกินไป ชนเสาและคานอย่างละลูก ก่อนที่ บาเยิร์นมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 40 จากจังหวะที่ คิงสลี่ย์ โกม็อง เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โธมัส มุลเลอร์ ป้ายต่อให้ ดาวิด อลาบา แปด้วยซ้ายติดเซฟ เกย์ลอร์ นาบาส มาเข้าทาง ชูโป-โมติง โหม่งซ้ำระยะเผาขนไม่เหลือ ส่งให้เสือใต้บุกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ในครึ่งหลัง ทีมของ ฮันซี่ ฟลิค พยายามเร่งจังหวะหาโอกาสทำประตูเพื่อพลิกสถานการณ์เข้ารอบ แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของเจ้าบ้าน ขณะเดียวกัน เปแอสเช ก็อาศัยความเร็วของ เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ ในการโต้กลับ แต่ก็ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ ก่อนจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ และเป็นฝ่ายของ เปแอสเช ผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยกฏประตูทีมเยือน หลังเสมอกันด้วยสกอร์รวม 3-3
ขณะที่อีกคู่ในเวลากัน ระหว่าง เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ พบ ปอร์โต้ ที่แม้โดนยิงในช่วงนาทีสุดท้ายจาก เมห์ดี้ เตรามี่ และพ่ายไปคารังด้วยสกอร์ 1-0 แต่ก็เข้ารอบตัดเชือกตาม เปแอสเช ไป ด้วยสกอร์รวม 2-1
โดย เปแอสเช จะเข้ารอในรอบตัดเชือกกับผู้ชนะระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนเชลซี จะรอพบผู้ชนะระว่าง ลิเวอร์พูล หรือ เรอัล มาดริด ในรอบต่อไป