สตีฟ บรูซ อดีตกุนซือ นิวคาสเซิ่ล ออกมายอมรับว่าเขาจะอำลาการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมนับจากนี้ หลังจากโดนผลกระทบอย่างหนัก จากแฟนบอลในโลกโซเชี่ยล จนทำให้สุขภาพจิตของเขาและครอบครัวต้องพบกับความหนักหน่วงอย่างมาก
โดย บรูซ ที่โดนปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล หลังจากทำหน้าที่คุมทัพในฐานะผู้จัดการทีมนัดที่ 1,000 ไปในเกมที่พ่าย ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ คารัง เซนต์เจมส์พาร์ค เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุด กุนซือวัย 60 ปี ออกมาเปิดใจกับ เดอะ เทเลการฟ ถึงอนาคตของตัวเองต่อจากนี้ โดยเขาชี้ว่าเตรียมจะอำลาวงการลูกหนังถาวรแล้ว
“ผมคิดว่านี่อาจเป็นงานสุดท้ายของผมน มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกี่ยวกับผม แต่มันได้ส่งผลกระทบถึงครอบครัวของผมด้วย เพราะพวกเขาคือชาวจอร์ดี้และผมเมินสิ่งนั้นไม่ได้”
“พวกเขาเป็นกังวลแทนผม โดยเฉพาะ แจน ภรรยาผม เธอคือคนที่สุดยอดมาก เป็นผู้หญิง, ภรรยา, แม่และย่าที่วิเศษ” ธอต้องพบกับเรื่องพ่อแม่ผมเสียชีวิต สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วจากนั้นยังมีเรื่องของผมให้เธอเป็นกังวลรวมถึงสิ่งที่ผมพบเจอในช่วงสองปีที่ผ่านมา”
“ในตอนที่ผมได้เข้าคุม นิวคาสเซิ่ล ผมคิดว่าผมรับมือกับทุกอย่างที่จะถาโถมเข้ามาได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ” ผมไม่เคยเป็นที่ต้องการเลย ผมรู้สึกว่ามีคนอยากให้ผมล้มเหลว ต้องอ่านสิ่งที่คนพูดกันว่าผมจะล้มเหลว บอกว่าผมไร้ค่า, เป็นไอ้อ้วนเปลืองพื้นที่, เป็นไอ้โง่, หัวกะหล่ำโง่เรื่องแท็คติกหรือะไรก็ตามแต่ แล้วก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่วันแรก”
ในตอนที่เราทำผลงานได้โอเค ก็ต้องเจอกับคำพูดว่า ‘ใช่แต่สไตล์ฟุตบอลมันกาก’ หรือบอกว่าผมแค่โชคดี มันไม่สมเหตุผลเลยและเป็นแบบนั้นตลอด แม้แต่ในตอนที่ผลการแข่งขันออกมาดี” บรูซ กล่าว
สำหรับปัจจุบัน นิวคาสเซิ่ล รั้งอันดับ 19 ของตารางในศึกพรีเมียร์ลีก และยังไม่ชนะใครหลังลงสนามไป 8 นัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : OFFICIAL : สาลิกาคอนเฟิร์มแยกทางบรูซ
