ห้องเครื่องชาวอิตาเลี่ยน ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ หลังจากทำได้แค่เสมอกับทีมปืนใหญ่ 10 คน 2-2 ใน เดอะ บริดจ์
เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์เสมอกับ อาร์เซน่อล ไปอย่างสนุก 2-2 ในศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยสิงห์บลูส์ได้ประตูออกนำไปก่อนจากลูกจุดโทษของ จอร์จินโญ่ ในนาทีที่ 28 ก่อนที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จะมาตีเสมอให้กับ เดอะ กันเนอร์ส เป็น 1-1 ในนาทีที่ 63
จนมาถึงนาทีที่ 84 เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มาซัดประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 แต่อีกเพียง 3 นาทีให้หลัง เอคตอร์ เบเยริน มาไล่ตามตีเสมอให้กับทีมเยือนได้อีกครั้งเป็น 2-2 ก่อนที่สุดท้ายเกมจะจบลงด้วยสกอร์นี้
โดยในเกมดังกล่าว สิงโตน้ำเงินครามต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 26 ของการแข่งขัน หลังจาก ดาวิด ลุยซ์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และ จอร์จินโญ่ ก็รู้สึกว่าผลเสมอในนัดนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากความปราชัยสำหรับเขา
“เรารู้สึกเหมือนแพ้เกม” จอร์จินโญ่ บอกกับ BT Sport
“เราครองเกมได้อยู่หมัด แต่กลับมาเสียประตูในนาทีสุดท้ายในแบบที่ไม่สมควรจะเสีย มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ แต่เราต้องก้าวต่อไป”
“ผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับความมั่นใจ เพราะเราเล่นได้ดี และคุมเกมได้แล้ว บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับสมาธิ ในเกมแบบนี้ คุณแพ้ที่จังหวะ”
“เราสร้างความผิดพลาด นี่คือสิ่งที่มันเป็น เกมใหญ่แบบนี้ คุณสามารถชนะและแพ้ได้ที่รายละเอียด”
สำหรับ เชลซี รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 ของตาราง มีแต้มนำหน้าทีมอันดับ 5 อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 6 คะแนน ส่วน อาร์เซน่อล รั้งอยู่ในอันดับที่ 10 ของตาราง มีแต้มตามหลังพื้นที่ท็อปโฟร์อยู่ 10 คะแนน