เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้คนปัจจุบันมักจะชอบให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งหรือเด็กในอคาเดมี่ของสโมสรได้ลงสัมผัสเกมเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต แต่ก็มีนักเตะอายุน้อยในทีมซิตี้หลายคนที่ไม่ได้รับการเหลียวมองจากกุนซือชาวสเปนมากนักทำให้ต้องตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายออกจากทีมไปเพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และวันนี้ทีมงาน Gameover.club มีอดีต 5 เด็กเรือที่ย้ายออกไปเล่นกับทีมอื่นหลังไม่ได้โอกาสจากเป็ป
5.ปาโบล มาฟเฟโอ ( ขายให้กับ สตุ๊ดการ์ท ในราคา 8 ล้านปอนด์ในปี 2018)
ลิเวอร์พูลของ เจอเก้น คลอปป์ ได้ให้โอกาส เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โน ได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ขณะที่ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ ผลักดันดาวรุ่งอย่าง ไคล์ วอล์กเกอร์ ปีเตอร์ ขึ้นมาเป็นแบ็กอัพในชุดตัวจริง ส่วนทางด้าน เป็บ กวาดิโอล่า ลงทุนจ่ายเงิน 76.5 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับ ไคล์ วอล์กเกอร์ และ ดานิโล่ ในปี 2017
แทนที่ เป็บ จะให้โอกาสกับดาวรุ่งอย่าง ปาโบล มาฟเฟโอ ได้ลงเล่นแต่กับเสียเงินโดยใช่เหตุด้วยการเซ็นสัญญากับ วอล์กเกอร์ ทำให้โอกาสของเจ้าหนูรายนี้แทบปิดตายลงทันที
ซิตี้ปล่อยตัว มาฟเฟโอ ให้คิโรน่า ทีมในลาลีกา สเปน ยืมตัวไปใช้งานในปี 2017 และมีส่วนช่วยให้ทีมได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเมื่อปี 2017 หลังจากนั้นเจ้าตัวก็รับความยินยอมจากต้นสังกัดให้อยู่เล่นกับทีม คิโรน่าต่อในฤดูกาล 2017-2018 โดยลงสนามไปทั้งหมด 33 เกมในลีกนอกจากนี้เขายังได้รับคำชื่นชมฝีเท้าจาก เลโอเนล เมสซี่ ดาวยิงของบาร์เซโลน่าอีกด้วย
จนกระทั่งในปี 2018 เจ้าหนูชาวสเปนรายนี้ได้ถูกขายให้กับ สตุ๊ดการ์ท ทีมในศึกบุนเดสลีกา เยอรมันด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็ปเป็นคนแนะนำให้เจ้าตัวย้ายไปเล่นที่นั่น
4.อังเจลินโญ่ ( ขายให้กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในราคา 5 ล้านยูโรในปี 2018)
ปัญหาของเป็บในทีมชุดนี้ก็คือตำแหน่ง แบ็กซ้าย เมื่อ เบนจามิน เมนดี้ แบ็กชาวฝรั่งเศสที่ซื้อมาหวังจะให้เป็นตัวหลักในตำแหน่งนี้ กลับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานเป็นระยะ ทำให้ทีมขาดสมดุลเกมรับไปพอสมควรและต้องสลับให้คนอื่นลงเล่นแทนทั้ง ฟาเบียน เดลฟ์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ดานิโล่ และ แอเมริก ลาปอร์ต
ในตัวเลือกอื่นนั้นยังมี อังเจลินโญ่ แบ็กดาวรุ่งที่อยู่ในชุดเยาวชนของซิตี้สามารถเป็นตัวสแตนบายในตำแหน่งของ เมนดี้ ได้เช่นกันในยามขาดแบ็กซ้าย แต่เป็บเลือกที่จะไมใช่งานเขา
โดยเจ้าตัวนั้นได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น นอกนั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการถูกปล่อยยืมไปเล่นให้กับทั้ง นิวยอร์กซิตี้, คิโรน่า, เรอัล มายอร์ก้า และเอ็นเอซี เบรด้า
ช่วงที่เด็กหนุ่มชาวสแปนิชรายนี้ถูกยืมไปเล่นให้กับเอ็นเอซี เบรด้า เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ จนยอดทีมแดนกังหันอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ขอซื้อตัวไปร่วมทีมแบบถาวรเมื่อหน้าร้อนของปีที่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เขายังมีชื่อติดทีมชาติสเปนชุดอายุไม่เกิน 21 ปีอีกด้วย ถือว่าเป็นปีที่ดีทีเดียวสำหรับเจ้าตัว
3.แองกุส กันน์ (ขายให้กับ Southampton ในราคา 13.5 ล้านปอนด์ในปี 2018)
กวาดิโอล่า เป็นกุนซือที่ให้ความสำคัญมากกับตำแหน่งผู้รักษาประตู โดยเขาเลือกที่จะซื้อ เอเดอร์สัน นายด่านชาวบราซิลมาเป็นมือหนึ่งของทีมแทนที่ เคลาดิโอ บราโว่และโจ ฮาร์ท 2 นายทวารก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ค่อยเชื่อใจสักเท่าไร อย่างไรก็ดีโค้ชชาวสเปนรายนี้น่าจะให้โอกาสกับประตูดาวรุ่งอย่าง แองกุส กันน์ ที่เล่นอยู่ในชุดเยาวชนได้เป็นมือสองในทีมชุดใหญ่
กันน์ นั้นถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวตายตัวแทนของ โจ ฮาร์ท ในตำแหน่งมือหนึ่งของทีมในอนาคต แต่ความฝันของเขาก็หยุดลงทันที เมือ เป็ป ก้าวเข้ามาคุมทีม และเขาก็ถูกส่งให้กับ นอริช ซิตี้ ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2017/2018 โดยลงสนามให้เจ้านกขิ้นเหลืองอ่อนไปทั้งหมด 51 เกมรวมทุกรายการ จนได้รับความสนใจจากเซาแธมตันทีมร่วมลีกกระชากตัวเขาไปร่วมทีมแบบถาวรเมื่อช่วงหน้าร้อนปีก่อน
มือกาววัย 22 ปี ชาวอังกฤษเริ่มต้นฤดูกาลกับทีมนักบุญในฐานะมือสองของ อเล็ก แม็คคาร์ธี่ จนกระทั่งไม่นานมานี้เจ้าตัวได้ประเดิมสนามกับศึกพรีเมียร์ลีกไปแล้ว และในอนาคตข้างหน้าเขาอาจเป็นกำลังสำคัญให้กับทั้งสโมสรและทีมชาติ
2.บราฮิม ดิอาซ (ขายให้กับ Real Madrid ในราคา 15.5 ล้านปอนด์ในปี 2019)
ศูนย์ฝึกอคาเดมี่หรือระบบเยาวชนของแมนฯซิตี้เป็นหนึ่งในการปลุกปั้นดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมาย โดยเฉพาะ ฟิล โฟเด้น จาดอน ซานโชและบราฮิม ดิอาซ 3 ดาวรุ่งพุ่งแรงที่ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นกำลังหลักให้กับทีมชุดใหญ่ได้ในอนาคต แต่สุดท้ายแล้วเหลือแค่ โฟเด้น คนเดียวที่ยังจงรักภักดีกับต้นสังกัด แม้จะไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมากนักภายใต้การคุมทีมของ กวาดิโอล่า
ดิอาซได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกับเรือใบสีฟ้าเมื่อฤดูกาลที่แล้วแต่เจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นให้ซิตี้ไปแค่ 50 นาที โดยเป็นตัวสำรองถึง 5 ครั้งด้วยกัน แม้จะทำประตูได้ในเกมลีกคัพเมื่อต้นซีซั่นในการพบกับฟูแล่มได้แต่ก็ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากกุนซือชาวสแปนิชรายนี้เท่าสักเท่าไร
สัญญาของมิดฟิลด์ร่างเล็กจะหมดลงหน้าร้อนปี 2019 และแมนฯซิตี้ก็ได้ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับเจ้าตัวแต่ถูกปฎิเสธเพราะเขาต้องการย้ายออกไปเล่นกับเรอัล มาดริด ในเดือนมกราคมนี้และในที่สุดก็ได้ย้ายสมใจอยากไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้โอกาสลงสนามให้ต้นสังกัดใหม่ทันที โดยเขาลงเล่นไป 3 เกมในรอบ 10 วัน ซึ่งมากกว่าตอนที่เขาอยู่กับซิตี้ทั้งครึ่งซีซั่น
1.จาดอน ซานโช (ขายให้ Borussia Dortmund ในราคา 8 ล้านปอนด์ในปี 2017)
ความผิดพลาดที่น่าเจ็บปวดใจครั้งหนึ่งของ เป็ป กวาดิโอล่า คือการไม่สามารถรั้งตัว จาดอน ซานโช ให้อยู่กับทีมได้ต่อไป เพราะกุนซือรายนี้ไม่มีที่ว่างมากพอสำหรับดาวรุ่งชาวอังกฤษผู้นี้
ในช่วงหน้าร้อนของปี 2017 ซานโช ถูกตัดออกจากทีมเนื่องจากยึกยักเรื่องการต่อสัญญาใหม่กับแมนฯซิตี้ ทำให้ในที่สุดเจ้าตัวก็ถูกปล่อยตัวให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์แบบน่าเจ็บใจและได้สวมเสื้อหมายเลข 7 แทนที่ อุสมัน เดมเบเล่ ที่หนีเสือเหลืองไปอยู่กับบาร์เซโลน่าในสเปน
เขาใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับสไตล์บอลเยอรมันไปถึงครึ่งซีซั่น และยังไม่มีผลงานที่โดดเด่นมากนัก โดยลงสนามให้ดอร์ทมุนด์ในฤดูกาลนั้นไป 684 นาที ทำไปทั้งหมด 4 ลูก จนกระทั่งเริ่มฉายแววออกมาให้เห็นอย่างเต็มตาในปีนี้ด้วยการถูกเลือกให้เป็นตัวจริงก่อน คริสเตียน พูลิซิช จนทำให้ตัวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ต้องตัดสินใจเซ็นสัญญาย้ายไปอยู่กับเชลซีด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์
เจ้าหนูวัย 18 ปีรายนี้ลงเล่นให้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพปี 1997 ไปแล้ว 24เกม ทำไป 7 ประตูและส่งให้เพื่อนร่วมทีมยิงอีก 9 ลูก จนทำให้ก้าวขึ้นไปสู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเวลานี้
การโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในการย้ายไปเล่นในต่างแดนของ ซานโช นั้นทำให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันวาดฝันอยากจะเจริญรอยตามดาวเตะหนุ่มรายนี้ เพื่อโอกาสแสดงฝีเท้าในทีมชุดใหญ่ของสโมสรนั้นนั้น