“กระทิงดุ” สเปน ดวลจุดโทษเอาชนะ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย 5-4 หลังจากเสมอกันในเวลา 0-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022-23
โดยในเกมนัดชิงชนะเลิศเล่นกันที่ เฟเยนูร์ด อารีน่า ในเมืองร็อตเธอร์ดัม โครเอเชีย ที่ปราบเจ้าภาพเนเธอร์แลนด์ มาได้ยังยึดแกนหลักชุดเดิมเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวคือ มาร์ติน เออร์ลิช ลงแทน โดมากอย วีด้า ส่วน “กระทิงดุ” สเปนก็ปรับเล็กน้อยให้ ฟาเบี่ยน รุยซ์ และมาร์โก อเซนซิโอ้ สตาร์ทตัวจริง
เริ่มเกมครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเข้าใส่กัน แต่เป็น สเปน ที่ครองบอลได้มากกว่าตามทรง พวกเขาสร้างโอกาสได้ดีพอสมควร แต่ปัญหาคือการเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายที่ยังไม่เฉียบคม
โครเอเชีย ก็ขึ้นมาได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน ทั้งการหลุดเข้าไปเปิดของ มาร์เซโล่ โบรโซวิช รวมไปถึงจังหวะได้โขกของ อีวาน เปริซิซ แต่ก็ยังไม่อันตรายเท่าไหร่ ทำให้จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง โครเอเชีย ได้เสียวจากจังหวะขึ้นเกมทางซ้าย อีวาน เปริซิซ ลากไปสุดเส้นก่อนจะเปิดไปเสาสองให้ โยซิป ยูราโนวิช พักอกก่อนจะซัดด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย
ส่วน สเปน ก็ตอบโต้เช่นกันจากจังหวะที่ ฆอร์ดี้ อัลบา ได้หลุดไปเปิดเข้ากลางให้กับ มาร์โก อเซนซิโอ้ ได้โขกโล่ง ๆ แต่บอลหลุดข้ามคานออกไป
รูปเกมออกตึง ๆ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างเล่นกันแบบระมัดระวังกันสุด ๆ ทำให้จบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องไปลุ้นในช่วงการต่อเวลาพิเศษ
ในช่วงการต่อเวลาพิเศษทั้งสองทีมก็ยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ เสมอกันไป 0-0 ต้องไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษปรากฏว่า สเปน แม่นกว่าเอาชนะไปได้ 5-4 ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022-23 ไปครองได้สำเร็จ
11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
โครเอเชีย (4-3-3): โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, โยซิป ซูตาโล่, มาร์ติน เออร์ลิช, อีวาน เปริซิซ, ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิซ, มาริโอ ปาซาลิช, อันเดรย์ ครามาริช และลูก้า อีวานูเซค
สเปน (4-2-3-1): อูไน ซิม่อน, เฆซุส นาบาส, โรบิน เลอ นอร์มองด์, อายเมริค ลาปอร์ก, ฆอร์ดี้ อัลบา, โรดรี้, ฟาเบี่ยน รุยซ์, มาร์โก อเซนซิโอ้, กาบี้, เยเรมี่ ปีโน่ และอัลบาโร่ โมราต้า