การบาดเจ็บในสนามถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล แต่ในบางครั้งมันก็ดูรุนแรงและสาหัสเกินกว่าใครจะทนรับไหว
เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งแบบที่คู่แข่งไม่ได้ตั้งใจ, เจ็บเอง หรือแม้กระทั่งโดนฝ่ายตรงข้ามนอกเกม จนทำให้บาดเจ็บขั้นรุนแรงแบบต้องจนนักเตะหายหน้าไปนานหลายเดือน ก่อนจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และบางคนก็ไม่ได้โชคดีอย่างนั้นจนต้องแขวนสตั๊ดไปเลยก็มี
ทาง UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปย้อนดู 10 แข้งดังที่บาดเจ็บขั้นรุนแรงแบบที่หลายคนร้องกรี๊ดสิครับเลยทีเดียว
ลุค ชอว์ (พีเอสวี พบ แมนฯ ยูไนเต็ด, 2015)
ฤดูกาล 2015-16 คือปีที่ ลุค ชอว์ เริ่มกลับมาเจอฟอร์มเก่งของตัวเองอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาต้องปิดเทอมยาวก่อนใครหลังเริ่มซีซั่นได้เดือนเศษๆ เมื่อเข้าปะทะกับ เฮคเตอร์ โมเรโน่ กองหลังของพีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น จนขาขวาหัก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบงกลุ่ม
ซึ่งแบ็คซ้ายปีศาจแดงต้องพักยาวไปกว่า 10 เดือน จากเกมนัดนั้น และยอมรับว่าตนเองกลัวว่าจะไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก แต่ในที่สุดเขาจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะวีแกน 2-0 ในช่วงพรีซีซั่นเดือนกรกฏาคมปี 2016 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีม
อลัน สมิธ (ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด, 2006)
อาการบาดเจ็บในครั้งนี้ทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกับเอ่ยปากออกมาว่านี่เป็นหนึ่งในการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ตนเคยเห็นเลย เมื่อ อลัน สมิธ กองหน้าเลือดร้อนของยูไนเต็ด ขาซ้ายหักและข้อเท้าซ้ายหลุด หลังพยายามบล็อคลูกยิงฟรีคิกของ ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่
แฟน ‘หงส์แดง’ ในสนามวันนั้นอาจไม่ได้ร้องกรี๊ดสิครับออกมา แต่ก็รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บว่ารุนแรงแค่ไหน พวกเขาจึงทำการรุกขึ้นยืนปรบมือเป็นกำลังใจให้แก่ ‘สมัดเจอร์’ แม้เขาจะเป็นนักเตะจากทีมคู่อริก็ตาม
โดยอดีตแข้งลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลากว่า 7 เดือนในการพักรักษาตัว และแม้แขวนสตั๊ดมานานหลายปีแล้ว เขาเผยว่าอาการบาดเจ็บในครั้งนั้นส่งผลมาจนถึงทุกวันนี้อยู่ดี
คีรอน ดายเออร์ (บริสตอล โรเวอร์ส พบ เวสต์แฮม, 2007)
ดายเออร์ ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับบรรดาแพทย์ในสโมสรที่เขาเคยอยู่ เนื่องจากเขามักจะมีอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ แต่เหตุการณ์ในเดือนสิงหาคมปี 2007 กลับกลายเป็นการบาดเจ็บที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับเขาและส่งผลต่ออาชีพค้าแข้งโดยตรง
หลังจากที่กองกลางชาวอังกฤษ ย้ายจากนิวคาสเซิล มาซบ เวสต์แฮมได้แค่ 3 อาทิตย์ ขาขวาของเขาก็มาหักเป็น 2 ท่อน หลังเข้าปะทะกับ โจ ยาค็อบสัน แบ็คซ้ายของโรเวอร์ส ในช่วง 10 นาทีแรกของเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 2
นับตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บมา ดายเออร์ลงเล่นให้ ‘ขุนค้อน’ แค่ 16 นัดเท่านั้น และต้องจำใจแขวนสตั๊ดในเวลาต่อมา
ฌิบริล ซิสเซ่ (แบล็คเบิร์น พบ ลิเวอร์พูล, 2004)
การบาดเจ็บแบบชวนสยองเกือบๆกลายเป็นสิ่งที่คู่กับ กองหน้าชาวฝรั่งเศสอย่าง ฌิบริล ซิสเซ่ พอๆกับทรงผมสุดขัดใจแม่ของเขา และหลายๆครั้งก็ต้องอุทานร้องกรี๊ดสิครับแบบไม่รู้ตัว
โดยครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในสนามอีวู๊ด ปาร์ค ขณะลงเล่นให้กับ ‘หงส์แดง’ ซึ่งขาซ้ายหักเป็น 2 ท่อน หลังเขาปะทะกับ เจมส์ แม็คอีฟลีย์ แบ็กซ้ายแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แต่หากดูกันดีๆแล้ว การบาดเจ็บน่าจะมาจากที่เขาลงพื้นผิดท่ามากกว่า
แต่อีก 2 ปีต่อมา เขาก็ต้องพบกับการบาดเจ็บแบบเดิมเป็นครั้งที่ 2 ในเกมอุ่นเครื่องกับจีน ซึ่งทำให้เขาอดไปเล่นฟุตบอลโลกกับ ‘เลอ เบลอส์’ ในปี 2006 ที่เยอรมันแบบน่าเจ็บใจ
แม้จะกลับมาเล่นได้ในอีก 7 เดือนต่อมา แต่อดีตกองหน้าขวัญใจ ‘เดอะ ค็อป’ ก็มีมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังตลอดนับตั้งแต่นั้นจนกระทั่งประกาศแขวนสตั๊ดทั้งน้ำตาในปี 2015
ลุค นิลิส (แอสตัน วิลล่า พบ อิปสวิช, 2000)
แฟนบอล ‘สิงห์ผงาด’ คาดหวังกับ ลุค นิลิส ไว้สูงมาก หลังกองหน้าชาวเบลเยี่ยม อดีตคู่หูในแดนหน้าที่ โรนัลโด้ เคยยกย่องว่าดีที่สุด ย้ายจากพีเอสวี ไอนโอเฟ่น มาร่วมทีมแอสตัน วิลล่า แบบไร้ค่าตัว ไม่นานก่อนที่ฤดูกาล 2000-01 จะเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังที่มีอาจจะสูงเกินไป เพราะนิลิส ลงสนามแค่ 3 นัดในเกมลีกให้กับ วิลล่า เท่านั้น ซึ่งนัดสุดท้ายคือเกมที่เขาได้รับบาดเจ็บจนขาซ้ายหักงอแบบสุดสยอง หลังเข้าปะทะกับ ริชาร์ด ไรท์ นายทวารของอิปสวิช ในแบบที่หลายคนคงต้องร้องกรี๊ดสิครับออกมาแน่นอน หากได้เห็นตรงหน้า
และผลที่ตามมา คือ นิลิส ประกาศแขวนสตั๊ดในอีก 4 เดือนต่อมา ด้วยวัย 34 ปี
เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (เบอร์มิ่งแฮม พบ อาร์เซน่อล, 2008)
ก่อนหน้าที่ อารอน แรมซี่ย์จะขาหัก 2 ท่อน เพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง เอดูอาร์โด้ ก็เจอกับเหตุการณ์สุดช็อกแบบนั้นมาก่อน เมื่อ กระดูกน่องซ้ายหักและข้อเท้าเคลื่อน หลังโดน มาร์ติน เทย์เลอร์ แข้งเบอร์มิ่งแฮม เสียบเปิดปุ่มเข้ามาใส่แบบไม่มียั้ง
ณ ตอนนั้น อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือ ‘ปืนใหญ่’ เรียกร้องให้ กองหลังทีม ‘ลูกโลก’ เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพจากการกระทำครั้งนั้นด้วย ก่อนจะถอนคำพูดเหล่านี้ในภายหลัง
อดีตหัวหอกชาวโครแอตต้องหายหน้าจากฟลอร์หญ้าไปนานกว่า 1 ปีเต็มๆ และกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมเอฟเอ คัพ ที่พบกับ คาร์ดิฟฟ์ ทว่าในเกมวันนั้น เขาก็บาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายอีกซะอย่างนั้น
สารัช อยู่เย็น (เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ สุโขทัย, 2017)
เหตุการณ์หักสยองจนหน้าถอดสีก็มีให้เห็นในวงการฟุตบอลไทยเช่นกัน กับเคสของ สารัช อยู่เย็น กองกลางสมัยเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยพบกับ สุโขทัย เอฟซี ช่วงต้นปี 2017
ในจังหวะที่ “เจ้าตังค์” กำลังครองบอลอยู่ก็โดน พิชิตย์ ใจบุญ พุ่งเข้ามาเสียบเข้าที่ข้อเท้าอย่างจังเบอร์ ก่อนจะลงไปนอนกองด้วยความเจ็บปวด ซึ่งกองกลางจากสุโขทัยก็โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ
ที่แย่ไปกว่านั้น สารัช ถูกหามออกนอกสนามในเวลาต่อมา ก่อนที่แพทย์ระบุว่าในภายหลังว่า เจ้าตัวกระดูกข้อเท้าหัก 3 ส่วน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดและพักนานมากกว่า 6 เดือน
‘เจ้ากอล์ฟ’ รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเจ็บหนัก และเข้าไปเยี่ยมเพื่อขอโทษ สารัช ถึงโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์วัย 30 ปี ก็ไม่ถือโทษอะไรกับคู่กรณี เพราะเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุของฟุตบอล
โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ (เชลซี พบ เซนต์ กัลเลน, 2000)
หากใครเจอแบบที่ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ เผชิญมาคงต้องร้องกรี๊ดสิครับออกมาแน่ๆ เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2000-01 กองกลางของ เชลซี ขาหักถึง 3 ส่วน แถมเส้นประสาทถูกทำลาย ในเกมที่พบกับ เซนต์ กัลเลน สโมสรจากสวิตเซอร์แลนด์ ในศึกยูฟ่า คัพ รอบแบ่งกลุ่ม และไม่ได้ลงเล่นอีกเป็นเวลากว่า 18 เดือนหลังจากนั้น
จากนั้นในเดือน กุมภาพันธ์ปี 2002 กองกลางชาวอิตาเลี่ยนต้องจำใจบอกลาอาชีพค้าแข้งอย่างเป็นทางการด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น
เดวิด บุสท์ (แมนฯ ยูไนเต็ด พบ โคเวนทรี่, 1996)
หนึ่งในการบาดเจ็บที่ชวนสยองที่สุดในพรีเมียร์ลีกยุคแรกๆ เมื่อ เดวิด บุสท์ กองหลังของ โควนทรี่ เข้าปะทะกับ เดนนิส เออร์วิน แบ็คซ้าย ‘ปีศาจแดง’ จนขาหัก และการที่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ถึงกับอาเจียนลงบนพื้นสนามก็บ่งบอกถึงความรุนแรงของการบาดเจ็บได้โดยไม่ต้องเห็นภาพ หรือร้องกรี๊ดสิครับออกมาเลย
นั่นกลับกลายเป็นจุดจบในอาชีพค้าแข้งของปราการหลังสกายบลูส์ ซึ่งอาการบาดเจ็บนั้นยังทิ้งร่องรอยจนทุกวันนี้ จากการกระดูกน่องแตก แต่โชคยังดีที่ไม่ต้องถึงกับตัดขาทิ้ง และสามารถกลับมาเดินได้เป็นอย่างน้อย
เฮนริค ลาร์สสัน (ลียง พบ เซลติก, 1999)
ยอดกองหน้าระดับตำนานของสวีเดน เฮนริค ลาร์สสัน ก็เคยเจ็บหนักถึงขั้นกระดูกขาซ้าย 2 ท่อน ในเกมที่ลียงพบเซลติกในศึกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1999-2000 หลังปะทะะกับ แซร์จ บล็องก์ กองหลังของโอแอล
แม้หัวหอกแดนไวกิ้งต้องพักยาวกกว่า 8 เดือนหลังจากนั้น แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวการกลับมาลงสนามแม้แต่น้อย ก่อนจะกลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของสโมสรดังจากสก็อตแลนด์ โดยทำไปทั้งสิ้น 242 ประตู จากการลงเล่น 315 นัด
อังเดร โกเมส (เอฟเวอร์ตัน พบ สปอร์ส, 2019)
เกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน พบกับ สเปอร์ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2019 ได้เกิดเหตุการณ์ชวนสยองขึ้น เมื่อ ซอน เฮือง มิน พุ่งสกัดใส่ อังเดร โกเมส เสียจังหวะก่อนล้มไปโดน แซร์จ ออริเย่ร์ อัดอีกรอบทำให้ข้อเท้าขวาของกองกลาง ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ หักจนผิดรูป
กองหน้าชาวเกาหลีใต้อาจไม่ได้ร้องกรี๊ดสิครับออกมา และโดนใบแดงไปแบบไม่ต้องสงสัย แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคู่แข่งแต่อย่างใด อีกทั้งยังหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเห็นเพื่อนร่วมอาชีพต้องเจ็บหนักเพราะตน
อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกส ก็ได้รับกำลังใจจากทั้งแฟนบอล ท็อฟฟี่ หรือแฟนบอลทีมอื่นๆ จนฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และหายกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในช่วงเกือบ 4 เดือนต่อมา
บทความที่เกี่ยวข้อง
