กลับบ้านไว! 10 ทีมผลงานห่วยสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

บอลโลก

ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ ผ่านพ้นไปจนจะถึงรอบชิงชนะเลิศ ในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น แน่นอนว่ามีหลายทีมที่ทำผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมาย และบางที่กลับโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตราฐาน และต้องตกรอบไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้นฟุตบอลโลก หนนี้ ยังมีบางทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังสุดๆ โดยเฉพาะทีมชาติเจ้าภาพอย่าง กาตาร์ ซึ่งพวกเขาจบรอบแรกด้วยการแพ้รวดทั้ง 3 นัด และเสียไปถึง 7 ประตู นับเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปในอดีต มีหลายทีมเช่นกันที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับ กาตาร์ และบางทีมถึงขึ้นถูกบันทุกว่าทำผลงานย่ำแย่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เลยทีเดียว

เพราะฉะนั้นวันนี้ UFAARENA จะขอพาย้อนกลับไปดู 10 ทีม ทำผลงานย่ำแย่สุดในฟุตบอลโลก ว่าจะมีทีมไหนกันบ้าง และพวกเขาโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังมากแค่ไหน

 

หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ | ฟุตบอลโลก 1938

หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ หรือปัจจุบันคือประเทศอินโดนีเซีย คือหนึ่งในทีมที่มีสถิติย่ำแย่มากสุดสำหรับการลงเล่นฟุตบอลโลก ซึ่งพวกเขาผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายเมื่อปี 1938 แต่ลงเล่นทัวร์นาเมนต์นั้นแค่เพียงนัดเดียว ก่อนต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านอย่างรวดเร็ว

ย้อนกลับไปในฟุตบอลโลก ครั้งที่ 3 ที่ ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ ต้องลงเล่นรอบแรกซึ่งเป็นการเตะแบบน็อคเอ้าท์ และพบกับ ฮังการี ทีมระดับมหาอำนาจลูกหนังโลก ณ เวลานั้น

ผลสรุปจบลงด้วยชัยชนะของ ฮังการี ไปแบบขาดลอย 6-0 ซึ่งนั่นทำให้ หมู่เกาะอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ ลงเล่นฟุตบอลโลก ไปแค่เพียงเกมเดียวเท่านั้น และยังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอีกเลยนับตั้งแต่เปลี่ยนประเทศเป็น อินโดนีเซีย จนถึงทุกวันนี้

 

กาตาร์ | ฟุตบอลโลก 2022

เจ้าภาพฟุตบอลโลก ครั้งล่าสุดอย่าง กาตาร์ ถูกคาดหวังจากแฟนบอลอย่างมากที่จะได้เห็นผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขันครั้งนี้ หลังพวกเขามีการเตรียมทีมมาอย่างยาวนาน ภายใต้การนำทัพของกุนซืออย่าง เฟลิกซ์ ซานเชซ ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019 มาแล้ว

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ถูกคาดหมายไว้กลับตรงกันข้าม เมื่อ กาตาร์ ซึ่งลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการอยู่กลุ่มเดียวกับ เนเธอร์แลนด์, เอกวาดอร์ และ เซเนกัล แพ้รวดทั้ง 3 นัด และถึงเสีย 7 ประตู ยิงคือได้แค่ 1 ประตู เท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาถูกบันทึกสถิติว่าเป็นเจ้าภาพที่ทำผลงานย่ำแย่สุดในประติศาสตร์

แถมยังกลายเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ชาติที่ 2 ที่ต้องตกแค่พวกเพียงรอบแรก ต่อจาก แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2010 และตกรอบแรกเช่นกัน

 

เม็กซิโก | ฟุตบอลโลก 1978

ยอดทีมจากโซนคอนคาเคฟ อย่าง เม็กซิโก คือหนึ่งในทีมที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก มากสุดถึง 17 ครั้ง อย่างไรก็ตามสำหรับบอลโลก 1978 นับเป็นปีที่พวกเขาทำผลงานน่าผิดหวังสุดเลยก็ว่าได้

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว “จ้งโก้” ลงเล่นรอบแบงกลุ่มร่วมกับ โปแลนด์, ตูนิเซีย และ เยอรมันตะวันตก โดยพวกเขาเริ่มต้นด้วยการแพ้ม้ามืดจากแอฟริกา อย่าง ตูนิเซีย 3-1, ต่อด้วยการโดน เยอรมันตะวันตก ไล่ถล่ม 6-0 ปิดท้ายแพ้ โปแลนด์ 3-1

นั่นทำให้ตลอด 3 นัด เม็กซิโก โดนคู่แข่งยิงไปถึง 12 ประตู และยิงคือแค่เพียง 2 ประตู เท่านั้น

 

ฝรั่งเศส | ฟุตบอลโลก 2002

ทัพ “ตราไก่” ลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 ในฐานะแชมป์เก่าเมื่อปี 1998 ทว่าผลงานของพวกเขากับการลงเล่นฟุตบอลโลก บนแผ่นดินเอเชีย กลับทำได้อย่างน่าผิดหวัง และต้องแค่เพียงรอบแรกแบบช็อคแฟนบอลทั่วทั้งโลก

โดยหนึ่งในแมตช์สุดเซอร์ไพรส์ของฟุตบอลโลก 2002 เริ่มต้นตั้งแต่นัดแรก เมื่อ ฝรั่งเศส ของกุนซือ โรเชร์ เลอแมร์ ต้องมาเจอกับน้องใหม่ของทัวร์นาเมนต์อย่าง เซเนกัล ก่อนที่พวกเขาจะพลาดท่าแพ้ 1-0 แบบช็อคโลก

หลังจากนั้นเกมนัดถัดมาพวกเขาเสมอกับ อุรุกวัย 0-0 ก่อนลงเล่นนัดสุดท้ายด้วยการแพ้ เดนมาร์ก 3-1 นั่นทำให้พวกทีมที่นำทัพมาโดยสุดยอดนักเตะอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, มาร์กแซล เดอไซญี, ลิลิยอง ตูราม, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, ดาวิด เทรเซเก้ต์ และ เธียรรี่ อองรี ต้องตกรอบแรกฟุตบอลโลก หนนั้นแบบเหนือความคาดหมาย

 

ซาอุดิอาระเบีย | ฟุตบอลโลก 2002

นอกจากการตกรอบแรกแบบช็อคโลกของทีมชาติฝรั่งเศส ฟุตบอลโลก 2002 ยังอีกหลายเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งนั่นรวมถึงเป็นครั้งที่มีการบันทึกสถิติที่ทำผลงานย่ำแย่สุดของฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เอาไว้ตัว

ซาอุดิอาระเบีย คือเจ้าของสถิตินั้น โดยยอดทีมจากคาบสมุทรอาหรับ ลงเล่นนัดแรกในฟุตบอลโลก ครั้งนั้นด้วยการพ่ายทีมแกร่งอย่าง เยอรมัน แบบยับเยิน 8-0 ต่อด้วยแพ้ แคเมอรูน 1-0 และแพ้ ไอร์แลนด์ 3-0

นั่นทำให้ ซาอุดิอาระเบีย ลงเล่นฟุตบอลโลก 2002 ด้วยการแพ้ 3 นัดรวด โดนยิงถึง 12 ประตู และยิงไม่ได้แม้แต่ลูกเดียว นับเป็นหนึ่งในผลงานย่ำแย่สุดของบรรดาทีมที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก เลยก็ว่าได้

 

เกาหลีเหนือ | ฟุตบอลโลก 2010

สำหรับ เกาหลีเหนือ พวกเขาเคยผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลก ถึงสองครั้ง คือเมื่อปี 1966 ซึ่งพวกเขาทำผลงานไว้ได้อย่างน่าประทับใจ แถมสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ

กลับกันกับครั้งที่สองซึ่งพวกเขาผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเมื่อปี 2010 ที่ แอฟริกาใต้ เป็นเจ้าภาพ โดยครั้งนั้นทัพ “โสมแดง” ดันโชคร้ายเมื่อต้องลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มร่วมกับ ไอวอรี่โคสต์, โปรตุเกส และ บราซิล

ก่อนที่ผลการแข่นจะเป็นไปตามที่ทุกคนคาดหมาย เมื่อ เกาหลีเหนือ แพ้รวด 3 นัด แม้นัดแรกพวกเขาทำผลงานได้ดีเกินคาด และแพ้ บราซิล แค่เพียง 2-1 แต่นัดที่สองต้องมาทีมฟอร์มแรงอย่าง โปรตุเกส ขาดลอย 7-0 และนดสุดท้ายแพ้ ไอวอรี่โคสต์ 3-0 รวมทั้งสิ้นตลอดทัวร์นาเมนต์เสียไปถึง 12 ประตู

 

โบลิเวีย | ฟุตบอลโลก 1950

ฟุตบอลโลก 1950 ที่ บราซิล เป็นเจ้าภาพ ถือเป็นครั้งที่มีความแปลกประหลาดกว่าครั้งอื่น เนื่องจากมีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย 12 ทีม ลงเล่นรอบแรกแบบแบ่งกลุ่ม โดยกลุ่ม 1 และ 2 มี 4 ทีม ส่วนกลุ่ม 3 มี 3 ทีม และกลุ่ม 4 มีแค่เพียง 2 ทีม เท่านั้น เนื่องจาก ฝรั่งเศส ขอถอนตัวออกจากการแข่งขันก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น

โดยในกลุ่มสุดท้ายที่มี 2 ทีม นั่นคือ อุรุกวัย และ โบลิเวีย โดยทั้งสองทีมเจอกันแค่เพียงแมตช์เดียวเท่านั้น ซึ่งเกมดังกล่าวเล่นกันที่สนาม เอสสตาดิโอ อินดีเพเดนเซีย และผลงานการแข่งก็เป็นไปตามคาดเมื่อทีม “จอมโหด” ไล่ยิงคู่แข่งไปแบบยับเยิน 8-0  นั่นทำให้ โบลิเวีย  กลายเป็นทีมที่แพ้คู่แข่งมากสุดเป็นอันดับ 4 ของทัวร์นาเมนต์ รองจาก ซาอีร์  (แพ้ ยูโกสลาเวีย 9-0), เกาหลีใต้ (แพ้ ฮังการี 9-0) และ เอลซัลวาดอร์ (แพ้ ฮังการี 10-1)

 

เฮติ | ฟุตบอลโลก 1974

สำหรับฟุตบอลโลก 1974 ที่ เยอรมันตะวันตก นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของชาติเล็กๆ ในหมู่เกาะแคริบเบียน อย่าง เฮติ ที่สามารถผ่านรอบคัดเลือกโซนคอนคาเคฟ เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามพวกเขาดันโชคร้ายถูกจับไปอยู่ ‘กรุ๊ป ออฟ เดธ’ ร่วมกับ โปแลนด์, อิตาลี และ อาร์เจนติน่า ซึ่งนั่นทำให้ชะตากรรมของพวกเขาจบลงแบบน่าผิดหวัง โดยตลอดทั้ง 3 นัด เฮติ แพ้รวดและโดนยิงไปถึง 14 ประตู ด้วยการแพ้ อิตาลี 3-1, แพ้ โปแลนด์ 7-0 และแพ้ อาร์เจนติน่า 4-1

 

เอลซัลวาดอร์ | ฟุตบอลโลก 1982

เอลซัลวาดอร์ สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1970 ก่อนต้องตกรอบด้วยฟอร์มน่าผิดหวัง แพ้รวดทั้ง 3 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม และเสีย 9 ประตู ทว่าหลังจากนั้นอีก 12 ปี พวกเขาทะลุเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอีกครั้ง ซึ่งหนนี้นับเป็นฝันร้ายของพวกเขาเลยก็ว่าได้

โดยทีมจากทวีปอเมริกาเหนือ ลงเล่นฟุตบอลโลก 1982 ด้วยการอยู่กลุ่มเดียวกับ 3 ทีมแกร่ง เบลเยียม, ฮังการี และ อาร์เจนติน่า และต้องพบกับความพ่ายแพ้ทุกนัด

แต่น่าผิดหวังกว่านั้นคือพวกเขาโดนคู่แข่งยิงประตูแบบยับเยิน ทั้งการแพ้ เบลเยียม 1-0, แพ้ อาร์เจนติน่า 2-0 และแพ้ ฮังการี แบบเละเทะ 10-1 ซึ่งนี่ถือเป็นผลการแข่งขันที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก มาจนถึงทุกวันนี้

นั่นหมายความตลอด 2 ครั้ง ที่ เอลซัลวาดอร์ ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ลงสนามทั้งหมด 6 นัด แพ้รวด และเสีย 22 ประตู ยิงได้เพียง 1 ประตู เท่านั้น และจากบรรดา 80 ชาติ ที่เคยไปเล่นฟุตบอลโลก ตลอด 22 ครั้งที่ผ่านมา พวกเขาคือทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากที่สุดจนถึงตอนนี้

 

ซาอีร์ | ฟุตบอลโลก 1974

นี่คืออีกหนึ่งชาติที่ทำผลงานย่ำแย่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก สำหรับ ซาอีร์ หรือปัจจุบันกลายเป็นประเทศคองโก ซึ่งเคยผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายมาแล้วเมื่อปี 1974 ที่ เยอรมันตะวันตก เป็นเจ้าภาพ

โดยครั้งนั้นพวกเขาถูกจับไปอยู่กลุ่มเดียวกับแชมป์เต็งแชมป์อย่าง ยูโกสลาเวีย และ บราซิล ส่วนอีกหนึ่งคือทีมแกร่ง สกอตแลนด์

นอกจากจะต้องพบกับความพ่ายแพ้แบบยับเยินทั้ง 3 นัด และโดนยิงไปถึง 14 ประตู พวกเขาไม่สามารถยิงคู่แข่งคืนได้แม้แต่ลูกเดียว และต้องกระเด็นตกรอบแรกไปตามคาด

จากการลงเล่นฟุตบอลโลก แค่เพียงครั้งเดียวของ ซาอีร์ และโดนยิงไปถึง 14 ประตู ทำให้พวกเขาถูกบันทึกไว้หน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์จนถึงตอนนี้

 

จาก 1 ถึงครั้งที่ 53 : ประวัติศาสตร์แฮตทริกในฟุตบอลโลก