กลุ่มเพื่อนหงส์ : 6 ทีมพรีเมียร์ลีกที่เสียประโยชน์จาก VAR มากสุดในซีซั่นนี้

 

การนำ VAR เข้ามาใช้ในพรีเมียร์ลีกยังคงก่อให้เกิดการถกเถียงกันจนถึงปัจจุบัน แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าสโมสรไหนที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีช่วยตัดสินนี้มากที่สุดนับตั้งแต่เปิดฉากฤดูกาล 2020-21

 

หลังจบสัปดาห์ที่ 10 ของฤดูกาล VAR กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกโซเชี่ยลอีกครั้ง เมื่อ ลิเวอร์พูล ต้องเสียประโยชน์จากการใช้งานมากถึง 3 ครั้งในเกมเดียว ชนิดที่โดนครบทั้งริบประตูและเสียจุดโทษ ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะทำได้แค่เสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1

 

หงส์แดงโดน VAR เล่นงานไปทั้งหมดเท่าไหร่? แล้วมีทีมไหนอีกบ้างที่ต้องหัวร้อนเพราะ VAR? วันนี้เราจะพาคุณไปหาคำตอบเหล่านั้นกัน

 

ปล. นับเฉพาะเหตุการณ์ที่ VAR เปลี่ยนคำตัดสินของผู้ตัดสินเท่านั้น

 

เชลซี -1

 

ในเกมกับ ลิเวอร์พูล ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อันเดรส คริสเตนเซ่น โดนเพียงใบเหลืองเท่านั้นในตอนแรก จากจังหวะที่ไปคว้า ซาดิโอ มาเน่ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยว แต่มันได้ถูกเปลี่ยนเป็นใบแดงหลังจากผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ เช็ค VAR แล้ว และผลสุดท้ายเป็นหงส์แดงที่บุกมาคว้าชัยได้ 2-0

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -1

 

VAR ได้มอบจุดโทษให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมที่พวกเขาเปิดรังเอติฮัต สเตเดียมเสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 หลังจาก โจ โกเมซ ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ทว่ามือปืนอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ กลับสังหารหลุดกรอบไปซะอย่างนั้น

 

แต่บุคคลโชคร้ายที่ทำให้ ซิตี้ เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้คือ กาเบรียล เฆซุส เมื่อทั้ง 2 ครั้งที่ ซิตี้ เสียประโยชน์เกิดขึ้นกับกองหน้าทีมชาติบราซิล โดยหนแรกมาจากจังหวะที่ เฆซุส ทำแฮนด์บอลก่อนที่จะแอสซิสต์ให้ อายเมริค ลาปอร์ต ยิงประตู ในเกมที่พ่ายให้กับ สเปอร์ส 0-2 ส่วนอีกครั้งมาจากจังหวะที่เจ้าตัวถูกจับล้ำหน้า ในเกมที่ยำใหญ่ เบิร์นลีย์ 5-0

 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ -1

 

ไม่น่าแปลกใจที่ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเป็นหนึ่งในคนที่ออกตัวว่าไม่ปลื้มกับ VAR หลังจากทีมของเขาต้องเสียประโยชน์เพราะเทคโนโลยีนี้ไป 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกเกิดขึ้นในเกมที่ สเปอร์ส ถล่ม เซาแธมป์ตัน 5-2 เมื่อ VAR จัดการริบประตูของ แฮร์รี่ เคน คืนจากข้อหาล้ำหน้า และมามอบจุดโทษให้กับทีมนักบุญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจังหวะทำแฮนด์บอลของ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้

 

ไก่เดือยทองยิ่งเซ็งคูณสองในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา เมื่อ VAR มาแจกจุดโทษให้กับ นิวคาสเซิ่ล ในนาทีที่ 90+7 โดยคราวนี้เป็นการทำแฮนด์บอลของ เอริค ดายเออร์ และสุดท้ายเกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1

 

แต่หลังจากนั้นก็เป็นทีของ สเปอร์ส ที่ได้รับความคุ้มครองจาก VAR บ้าง เมื่อพวกเขามาได้จุดโทษจากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน โดนทำฟาวล์ ในเกมที่ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 และอีกครั้งจากจังหวะที่ เฆซุส โดนจับแฮนด์บอล ในเกมที่คว้าชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ 2-0

 

ฟูแล่ม -2

 

นอกจาก ฟูแล่ม จะต้องเผชิญกับการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่อันแสนยากลำบากแล้ว พวกเขายังต้องทนกับการตัดสินของ VAR ที่ไม่เป็นใจอีกต่างหาก

 

โดย 3 ครั้งที่เจ้าสัวน้อยต้องเจ็บเพราะ VAR นั้น เริ่มต้นจากเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า 0-3 หลังจาก บ็อบบี้ รีด ถูกยึดประตูคืนเพราะ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ไปทำฟาวล์คู่แข่งก่อน ต่อมาเป็นเกมที่เสมอกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อน้องใหม่มาโดนจุดโทษจากจังหวะที่ มิโตรวิช เจ้าเก่าไปเตะโฉ่งฉ่างใส่ แจ็ค โรบินสัน

 

ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นในเกมที่แพ้ให้กับ คริสตัล พาเลซ 1-2 โดย อาบูบาการ์ กามาร่า ที่ลุกมาจากม้านั่งสำรอง ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามหลังจากไปเหยียบเข้าที่เอ็นร้อยหวายของ เอเบเรชี่ เอเซ่ ซึ่งในตอนแรกเจ้าตัวโดนเพียงใบเหลืองเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม VAR ได้มาช่วยให้ ฟูแล่ม ได้จุดโทษในเกมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ อเดโมล่า ลุคแมน กลับโยนโอกาสตีเสมออันล้ำค่าทิ้งไปแบบน่าตบกะโหลกซะอย่างนั้น ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-1 ของเจ้าสัวน้อย

 

 

เวสต์บรอมวิช -3

 

สลาเวน บิลิช ถึงกับเดินเข้าสนามไปประท้วงผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน อย่างดุเดือดหลังจบ 45 นาทีแรก จนทำให้ตัวเองไม่ได้กลับมาคุมทีมที่ข้างสนามต่อในครึ่งหลัง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับประตูของ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน และจังหวะใบแดงของ คีแรน กิ๊บส์ ในเกมที่พวกเขาแพ้ให้กับ เอฟเวอร์ตัน 2-5 เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งเหตุการณ์แรกเป็นคำตัดสินจากห้อง VAR

 

จากนั้นเดอะ แบ็กกี้ส์ก็มาถูก VAR เล่นงานอีก 2 ครั้ง ในเกมที่พ่ายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อพวกเขาโดนริบจุดโทษคืนจากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันเดส สะกิด คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ล้มลงในเขตโทษ และอีกครั้งกับการให้กองกลางทีมชาติโปรตุเกสได้ซัดจุดโทษใหม่ หลังจากเห็นว่าเท้าของ แซม จอห์นสโตน ไม่ได้เหยียบเส้นตอนเซฟลูกยิงได้

 

ลิเวอร์พูล -7

 

มาถึงพระเอกของเราในงานนี้ นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล ที่ครองแชมป์โดน VAR ทำพิษมากที่สุด และจำนวนที่พวกเขาเสียประโยชน์นั้นก็มากกว่ารองแชมป์ถึง 4 ครั้ง

 

หงส์แดงเริ่มต้นจากการได้ประโยชน์ก่อน ในเกมที่พวกเขาคว้าชัยเหนือ เชลซี 2-0 เมื่อผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ควักใบแดงไล่ อันเดรส คริสเตนเซ่น ออกจากสนามหลังดูจอ VAR แล้ว จากที่ตอนแรกแนวรับทีมชาติเดนมาร์กโดนเพียงใบเหลืองเท่านั้น

 

จากนั้นมหกรรมเสียประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล ก็เริ่มขึ้น เปิดฉากด้วยการเสียจุดโทษให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในจังหวะที่ ฟาบินโญ่ ทำฟาวล์ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ซึ่งมันก้ำกึ่งระหว่างในกรอบกับนอกกรอบ แต่สุดท้ายหงส์แดงก็ยังสามารถเอาชนะได้ 2-1

 

ต่อมา VAR ก็จัดการทำลายช่วงเวลาฉลองประตูของ ลิเวอร์พูล ไปอีก 3 ครั้ง โดยมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดิโอโก้ โชต้า เป็นผู้ที่ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย

 

และในเกมที่เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ 1-1 บนสังเวียนเอติฮัต หงส์แดงก็มาเสียจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ โจ โกเมซ แต่ยังดีที่ เควิน เดอ บรอยน์ สังหารพลาด

 

ปิดท้ายด้วยเกมที่อาจทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และเด็กๆของเขาเกลียด VAR ไปตลอดกาล เมื่อ ลิเวอร์พูล โดนยึดคืน 2 ประตู จากจังหวะล้ำหน้าของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ก่อนที่จะมาเสียจุดโทษในนาทีที่ 90+3 และเป็น ปาสคาล โกรสส์ ที่ซัดจุดโทษตีเสมอให้กับ ไบรท์ตัน เป็น 1-1

 

 

แถมท้าย

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด +1

 

แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทนัดแรกก็ถูก VAR เล่นงานไป 2 ครั้งซ้อนเลย เมื่อพวกเขาเสียจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ต่อด้วยการปฏิเสธลูกเซฟของ ดาบิด เด เคอา เนื่องจากจับได้ว่านายทวารเลือดกระทิงขยับออกมาจากเส้นก่อน และผลสุดท้ายเป็น คริสตัล พาเลซ ที่บุกมายัดเยียดความปราชัยให้ปีศาจแดงคาบ้าน 3-1

 

สัปดาห์ต่อมาในเกมที่เร้ด เดวิลส์เฉือน ไบรท์ตัน ไปแบบสุดดราม่า 3-2 แม้ VAR จะยึดประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด คืน แต่มันก็มาช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากการเสียจุดโทษ ทั้งยังมามอบจุดโทษให้กับทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาในช่วงเวลาที่ผู้ตัดสิน คริส คาวานาห์ เป่านกหวีดจบเกมไปแล้วด้วย

 

จากนั้นในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งได้และเสียประโยชน์ไปอย่างละครั้ง โดย VAR จัดการริบประตูของ บรูโน่ คืนเพราะ ฆวน มาต้า ล้ำหน้า ก่อนที่จะมาให้จุดโทษในจังหวะที่ แรชฟอร์ด โดนทำฟาวล์ และแม้เพลย์เมคเกอร์ฝอยทองจะยิงจุดโทษไม่เข้า แต่สุดท้ายเกมก็จบลงด้วยชัยชนะ 4-1 ของฝั่งปีศาจแดง

 

และในเกมที่ ยูไนเต็ด เชือด เวสต์บรอมวิช 1-0 VAR ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย บรูโน่ คนเดียว 2 ครั้ง จากจังหวะที่แข้งชาวโปรตุกีสเกือบทำให้ทีมเสียจุดโทษ และจังหวะที่ให้เจ้าตัวได้ซัดจุดโทษใหม่อีกครั้ง เนื่องจากนายด่านของเดอะ แบ็กกี้ส์อย่าง แซม จอห์นสโตน ขยับออกมาจากเส้นก่อน