อดีตประธาน โลส บลังโกส เผยเรื่องสุดลับที่เป็นข้อผูกมัดให้ CR7 ย้ายมาร่วมทีมในปี 2009
รามอน กัลเดร่อน อดีตประธานสโมสรเรอัล มาดริด เผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาจต้องจ่ายให้ทีมของเขาถึง 30 ล้านยูโร หากไม่ตกลงย้ายมาค้าแข้งที่สเปนในปี 2009
ดาวยิงชาวโปรตุเกส กลายเป็นดาวเด่นของ ราชันชุดขาวนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปีดังกล่าว โดยคว้าดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมที่ 451 ประตูในทุกรายการ พร้อมกับคว้าแชมป์กับสโมสรมากมายทั้ง ลาลีก้า 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และ แชมป์สโมสรโลกอีก 3 สมัย ก่อนจะสิ้นสุด 9 ปีในซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยการย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส ในปี 2018
แต่จริงๆแล้ว ยอดทีมจากสเปน พยายามคว้าตัวแข้งวัย 34 ปี จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2008 แล้ว แต่จากคำบอกเล่าของ อดีตประธานสโมสรอย่าง กัลเดร่อน ได้เผยว่า พวกเขามีการทำข้อผูกมัดกับ โรนัลโด้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาจะย้ายมาค้าแข้งกับในแดนกระทิงจริงๆ
“เขาขยายสัญญากับ ยูไนเต็ด (ในปี 2008) ไปแล้วก็จริง แต่เขาทำข้อผูกมัดแล้วว่าจะย้ายมา เรอัล มาดริดในปีต่อมา เขาบอกว่า ‘ผมจะไป’ ซึ่งเรารู้ว่าเขาจะมา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเซ็นข้อผูกมัดที่มีค่าปรับ 30 ล้านยูโร เพื่อเล่นงานทั้ง 2 ฝ่าย” กัลเดร่อน กล่าวกับ The Athletic
“นี่หมายความว่าหากเราไม่ปฏิบัติตามสัญญา เราจะต้องจ่ายคริสเตียโน่ 30 ล้านยูโร และในทางกลับกัน เขาจะต้องจ่ายเงินให้เราเหมือนกัน หากเขาไม่ทำตามที่ตกลงไว้ เขามีความสุขมากๆที่ยูไนเต็ด เขาบอกผมหลายครั้งว่า เฟอร์กูสัน เป็นเหมือนพ่อของเขา ที่มอบโอกาสให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก เขารักแฟนมากแค่ไหน แต่เขาก็ต้องการเปลี่ยน และเราก็เริ่มพูดคุยกัน”
“บทลงโทษในสัญญาถือเป็นวิธีที่ทำให้ข้อผูกมัดมีความสำคัญมากขึ้น เฟอร์กูสัน ไม่ต้องการจะขายนักเตะหรอก แต่เขาก็รู้เรื่องนี้ดี”