กำเนิดใหม่ “กาบิโกล”

นับตั้งแต่เกมลูกหนังกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้ คงไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่า บราซิล คือหนึ่งในชาติมหาอำนาจที่ผลิตยอดนักเตะระดับเกรดพรีเมี่ยมขึ้นมาอย่างมากมาย

 

ไล่เรียงตั้งแต่ การ์รินชา, เปเล่, ซิโก้, โรมาริโอ, โรนัลโด้, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า รวมถึง เนย์มาร์ ในปัจจุบัน พวกเขาสานต่อตำนาน “สุดยอดนักเตะ” จากรุ่นสู่รุ่นได้แบบไม่ขาดสาย

 

ในปี 2013 ชื่อของ กาเบรียล บาร์โบซ่า กลายเป็น “วันเดอร์คิด” บทใหม่ของฟุตบอลแซมบ้า หลังประเดิมฟุตบอลลีกนัดแรกด้วยวัยเพียง 16 ปี

 

ตลอดเวลา 4 ปีกับ ซานโต๊ส เจ้าของฉายา “กาบิโกล” ยิงไป 57 ประตูจากการลงสนาม 157 นัดในทุกรายการ เรียกว่า “ฉายแสง” จนเป็นที่ต้องตาต้องใจของบรรดาบิ๊กทีมในยุโรป

 

ทว่าทัวร์นาเมนต์สร้างชื่อจริงๆ คงหนีไม่พ้นฟุตบอลชายในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ซึ่ง กาเบรียล บาร์โบซ่า เป็นหนึ่งในขุนพลชุดเหรียญทองประวัติศาสตร์สมัยแรกของ บราซิล โดยเป็น 3 ผสานร่วมกับดาวดังอย่าง กาเบรียล เชซุส และ เนย์มาร์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Gabriel Barbosa medal

อย่างไรก็ตามกราฟชีวิตของดาวยิงรายนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด การยกระดับฝีเท้าด้วยการย้ายมาเล่นในยุโรป กลายเป็น “ฝันร้าย” ที่เกือบจะปิดเส้นทางอันรุ่งโรจน์เลยก็ว่าได้

 

อินเตอร์ มิลาน ทีมยักษ์หลับของ เซเรีย อา อิตาลี ยอมทุ่มเงิน 26 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2016 โดยหมายมั่นปั่นมือว่าจะกลายเป็นสุดยอดดาวยิงได้เหมือนตำนานรุ่นพี่อย่าง โรนัลโด้ และ อาเดรียโน่ ที่เคยสร้างชื่อในถิ่นซาน ซีโร่ มาก่อน

 

ทุกอย่างกลับตาลปัตร “กาบิโกล” แจ้งเกิดไม่ได้ แถมกลายเป็นนักเตะมีปัญหา ที่ยังหลงระเริงกับความสำเร็จในบ้านเกิด ชนิดที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ กุนซือในตอนนั้นถึงขั้นกล้าให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าตัวจะไม่ประสบความสำเร็จกับทีม “งูใหญ่”

 

“หลังจากย้ายมาเล่นให้ อินเตอร์ แล้ว กาบิโกล ยังหลงระเริงกับช่วงเวลาดี ๆ ที่ บราซิล อยู่ตลอดเวลา จนทำให้ไม่กระตือรือร้น แต่ละเกมลงสนามไปแล้วก็เอาแต่เดินรอบอลจากเพื่อน วิ่งน้อยมากจริงๆ”

 

“เขาแทบไม่เคยช่วยเพื่อนหาช่องงามๆ เลย ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมตัวเองต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก และด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้ผมกล้ายืนยันว่าเขาจะไม่มีวันได้แจ้งเกิดกับ อินเตอร์ มิลาน แน่” กุนซือชาวดัตช์กล่าว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Gabriel Barbosa frank

และแม้ว่า แฟรงค์ เดอ บัวร์ จะถูกปลดออกในช่วงกลางฤดูกาล ทว่าเส้นทางของ กาเบรียล บาร์โบซ่า ก็ไมได้ดีขึ้นแต่อย่างใด สุดท้ายเจ้าตัวได้ลงเล่นเพียง 10 นัดและยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น

 

การปล่อยยืมน่าจะเป็น “ผลดี” ที่สุดกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่เอาเข้าจริงดาวยิงจอมอีโก้ยิ่งดำดิ่งลงเหวลึก หลังได้ลงเล่นเพียง 165 นาทีและยิงได้ลูกเดียวกับทีมดังระดับแชมปลีกโปรตุเกส อย่าง เบนฟิก้า

 

“กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง” หนึ่งในประโยคเพลงดังของ “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ คือหวงเวลาของดาวยิงวัย 23 ปีในตอนนั้น เพราะจะกลับต้นสังกัดจริง อินเตอร์ ก็ไม่ต้อนรับ หรือจะทนเล่นกับ “เหยี่ยวลิสบอน” ต่อก็ดูเหมือนจะไม่มีอนาคต

 

หนทางรอดทางเดียวคือการ “กัดก้อนเกลือกิน” ยอมแบกหน้ากลับไปเล่นในลีกบ้านเกิดแบบหมาขี้แพ้ เพราะ 2 ประตูจาก 2 ปีในลีกยุโรปกับนักเตะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น “วันเดอร์คิด” ที่ทั่วโลกให้การจับตามอง มันคือความ “ล้มเหลว” ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ซานโต๊ส ทีมเก่าคือสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่คุ้นเคย และกลายเป็นแรงผลักดันที่อบอุ่นที่ทำให้ “กาบิโกล” ฟื้นคืนชีพ และแม้จะพาทีมจบเพียงอันดับ 10 แต่การยิงไปถึง 18 ประตูจนเป็นดาวซัลโวของ เซรี เอ บราซิล ก็ดีพอที่จะกอบกู้ชื่อเสียงได้อยู่ไม่น้อย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gabriel barbosa santos

ในสภาวะนักเตะสัญญาเช่าที่ต้นสังกัดจริงไม่ใยดี กาเบรียล บาร์โบซ่า ต้องชีพจรลงเท้าอีกครั้ง โดยปีนี้ถูกทาง ฟลาเมงโก้ ทีมรองแชมป์เก่าจากฤดูกาลที่ผ่านมายืมตัวมาใช้งาน

 

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจ ในวันที่หัวใจของเด็กหนุ่มที่เกิดในเมือง เซา เปาโล กลับมาพบกับความสุข ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกอย่างจะราบรื่น และเจ้าตัวสามารถระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

 

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาชื่อของ “กาบิโกล” กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกครั้ง หลังสวมบท “ฮีโร่” ซัด 2 ประตูในช่วงท้ายเกมพา ฟลาเมงโก้ โกงความตายพลิกชนะ ริเวอร์เพลท 2-1 ผงาดแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส คัพ เป็นสมัยที่สองของสโมสร และเป็นสมัยแรกในรอบ 38 ปี

 

และให้หลังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ขบวนพาเหรดฉลองแชมป์ระดับทวีปยังไม่สิ้นกลิ่นแห่งความสุข จากความพ่ายแพ้คาบ้านของ พัลไมรัส ต่อ เกรมิโอ 1-2 ทำให้แต้มในลีกขาดเกินจะไล่ทัน เท่ากับว่า ฟลาเมงโก้ การันตีคว้าแชมป์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ เพราะมันคือแชมป์ลีกครั้งแรกหลังห่างหายความสำเร็จนี้มายาวนานกว่า 10 ปี

 

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าผลงานของดาวยิงวัย 23 ปีคือส่วนสำคัญในความสำเร็จนี้ เพราะเจ้าตัวตะบันไปแล้วถึง 22 ประตูและมีลุ้นที่จะเป็นนักเตะคนที่ 3 ที่คว้าดาวซัลโวของลีกสูงสุดบราซิล 2 สมัยติดต่อกันเช่นเดียวกับ ดาด้า มาราวิลญ่า และ ตูลิโอ มาราวิลญ่า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ gabriel barbosa

ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามที่กำลังดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ทัศนคติของ กาเบรียล บาร์โบซ่า ก็โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วัดจากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน แม้จะก้าวข้ามสถิติของ อาเดรียโน่ ที่ยิง 19 ประตูในปี 2019 รวมถึงทำลายสถิตินักเตะ ฟลาเมงโก้ ที่ยิงประตูสูงสุดต่อฤดูกาลของ ซิโก้ ได้ก็ตามที (ยิง 21 ประตู)

 

“มันเป็นเกียรติที่ยอดเยี่ยม แต่ผมไม่สมควรจะถูกกล่าวถึงเคียงข้าง อาเดรียโน่ และ ซิโก้ พวกเขาคือตำนานของ ฟลาเมงโก้ และทีมชาติบราซิล พวกเขาคว้าแชมป์มากมายกับสโมสรนี้ ผมยังไม่ได้อะไรเลยและยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำเพื่อคว้าแชมป์ บราซิเลเรา และ ลิเบอร์ตาโดเรส คัพ”

 

“นอกจากนี้สถิติของผมมาจากผลการทำงานร่วมกับทั้งทีม ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ผมรู้สึกขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและโค้ชของผม ผมยอมรับว่าผมไม่ได้มุ่งมั่นแค่การเป็นแชมป์กับ ฟลาเมงโก้ ถ้าผมสามารถจบด้วยการเป็นดาวซัลโวอีกครั้ง ผมจะรู้สึกมีความสุขมากๆ” กาบิโกล ให้สัมภาษณ์กับ ฟีฟ่า ก่อนนัดชิงกับ ริเวอร์เพลท

 

ภารกิจของ บาร์โบซ่า กับ ฟลาเมงโก้ ยังไม่จบเพียงแค่นี้ นอกจากเกมลีกอีก 4 นัดที่ต้องลงไปยิงเพื่อการันตีดาวซัลโวสมัยที่ 2 ปลายปีนี้ก็มีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ที่มี ลิเวอร์พูล เป็นเสี้ยนหนามสำคัญ

 

การเจอกับทีม “หงส์แดง” ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายส่วนตัวของ กาบิโกล ว่าเขาดีพอหรือยังที่จะกลับไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในยุโรป

 

ไม่ว่า อินเตอร์ จะว่ายังไง ฟลาเมงโก้ จะยอมทุ่มเงินซื้อขาดหรือไม่ แต่ในวัยเพียง 23 ปี กาเบรียล บารฺ์โบซ่า ยังมีเวลาอีกเยอะที่จะพาตัวเองก้าวขึ้นไปเป็นสุดยอดนักเตะเหมือนกับยอดแข้งแซมบ้ารายอื่นๆ

 

ในวันที่ฟอร์มเก่งคัมแบ็กกลับมา พร้อมกับสภาพจิตใจที่แกร่งขึ้นกว่าเดิม วันนี้การเกิดใหม่อีกครั้งของ “กาบิโกล” เขาพร้อมแล้วที่จะสั่นสะเทือนโลกลูกหนังแบบที่ควรจะเป็นเสียที