ก่อนจะถึงแวร์เนอร์ : 6 ดีลปาดหน้าของเชลซียุคเสี่ยหมี

 

แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่สื่อหลายๆเจ้าในอังกฤษได้รายงานว่า เชลซี ใกล้คว้า ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าฟอร์มแรงจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมทีมในเร็วๆนี้

 

ตลอดช่วงฤดูกาลล่าสุดที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีข่าวกับ แวร์เนอร์ มากที่สุด และถูกยกให้เป็นตัวเต็งในการคว้าหัวหอกชาวเยอรมันมาร่วมทีมเหนือสโมสรใดๆในยุโรป

 

ทว่าหากการพลิกโผนี้เกิดขึ้นจริงๆ นี่จะกลายเป็นอีกบิ๊กดีลที่ สิงห์บลู ตัดหน้าคู่แข่งคว้านักเตะดังมาร่วมทีม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววหรือข่าวคราวอะไรเลย

 

ด้วยเหตุนี้ ทาง UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปย้อนดู 6 ดีลที่เชลซีปฏิบัติการคว้าแข้งดังปาดหน้าคู่แข่งมาร่วมทีมนับตั้งแต่พวกเขากลายเป็นทีมมหาเศรษฐีในยุคของ โรมัน อับราโมวิช

 

 

อาร์เยน ร็อบเบน

 

 

ช่วงต้นยุค 2000 อาร์เยน ร็อบเบน แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น หลังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ในปี 2003 จนได้รับความสนใจจากทีมระดับท็อปทั่วยุโรป หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

ปีกชาวดัตช์เกือบย้ายไปค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2004 หลังได้รับเชิญให้ไปเยือนสโมสรจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เยี่ยมชมมสนามซ้อม แคร์ริ่งตัน และร่วมทานอาหารค่ำกับ เฟอร์กี้ ด้วย แต่ท้ายที่สุดกลับโยกย้ายไปอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ แทน

 

“ไม่มีสัญญาจริงๆ จังๆ และข้อตกลงก็ไม่เกิดขึ้น พีเอสวี ยังเจรจากับ เชลซี ด้วยในตอนนั้น ดังนั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเขาเสนอเงินให้ พีเอสวี มากกว่าก็ได้มั้ง? ผมไม่รู้เลยจริงๆ” อดีตแข้งบาเยิร์น มิวนิค เล่าผ่านโฟร์โฟร์ทูในปี 2018 

 

“ผมคุยกับ เชลซี และผมก็ชอบแผนงานของพวกเขา เราพบกันครั้งหนึ่ง และทุกอย่างก็ลงเอยรวดเร็วมากๆ ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นข้อตกลงให้ผมทันทีหลังจากที่ผมพบพวกเขา ผมก็จะเซ็นสัญญาไปเลย แต่มันไม่เกิดขึ้น และผมก็ไม่ได้เสียใจอะไร”

 

 

จอห์น โอบี มิเกล

 

 

หลังจากชวดคว้า ร็อบเบน ไปร่วมทีม อีก 2 ปีต่อมา ปีศาจแดงก็ยังโดน เชลซี ปาดหน้าคว้าเป้าหมายคนสำคัญในตอนนั้นอย่าง จอห์น โอบี มิเกล ไปร่วมทีมอีก ทั้งๆที่ตกลงเซ็นสัญญาแถมชูเสื้อเรียบร้อย 

 

เฟอร์กี้ จับตาดูดาวเตะชาวไนจีเรียตั้งแต่เล่นฟุตบอลโลกรุ่น ยู 17 จนไปถึงตอนที่อยู่กับ ลิน ออสโล สโมสรจากนอร์เวย์ที่ เฮนนิ่ง เบิร์ก อดีตแข้งปีศาจแดงคุมทีมอยู่ ก่อนจะเซ็นสัญญาร่วมทีมในเวลาต่อมา

 

แต่เรื่องราวกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อพบว่า เชลซี ได้ตกลงกับ ลิน ออสโล แล้วว่าจะไม่ปล่อย มิเกล ให้กับทีมอื่นนอกจากพวกเขา ทำให้ ทีมของเฟอร์กี้เตรียมดำเนินคดีฟ้องร้องในเรื่องนี้

 

อย่างไรก็ตาม ดีลก็จบลงที่ เชลซี ที่ได้ มิเกล ไปจาก ลิน ออสโล ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ และยอมจ่าย 12 ล้านปอนด์เป็นค่าเสียหายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด

  

 

วิลเลี่ยน 

 

 

สมัยที่ วิลเลี่ยน เล่นกับ อันชี มาคาชคาลา ในรัสเซียเมื่อปี 2013 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล คือ 2 สโมสรจากพรีเมียร์ลีกที่ตกเป็นข่าวพัวพันให้ความสนใจ และอยากได้ปีกชาวบราซิลเลี่ยนไปกระชากลากเลื้อยในทีมมากที่สุด 

 

ไก่เดือยทองกลายเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ เมื่อหลายสื่อๆในแดนผู้ดี รายงานตรงกันว่าพวกเขาตกลงรายละเอียดสัญญาและตรวจร่างกายกันเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวละครลับที่ไม่มีใครคาดคิดอย่าง เชลซี กลับโผล่มากระชากตัววิลเลี่ยนไปค้าแข้งใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบหน้าเฉย

 

“ใช่ มันเป็นเรื่องยากลำบากกับการปฏิเสธ สเปอร์ส ทั้งๆ ที่ตกลงกันได้เกือบหมดแล้ว แต่ผมก็ไม่เซ็น เพราะทันทีที่ เชลซี ยื่นข้อเสนอเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้าย ผมก็กล่าวคำขอโทษ สเปอร์ส และเลือกย้ายไป เชลซี แทน ผมจำเป็นต้องย้ายมาที่นี่ ผมไม่แคร์ ผมจะไปอยู่กับพวกเขาให้ได้” แข้งวัย 31 ปีกล่าว

 

 

เอเด็น อาซาร์

 

 

เอเด็น อาซาร์ กลายเป็นดาวรุ่งสุดเนื้อหอมในวงการทันที หลังพาลีลล์ คว้าแชมป์ลีกเอิงมาครองในปี 2011 แบบสุดเซอร์ไพรส์ รวมถึงแชมป์ เฟรนช์ ลีก คัพ ในปีเดียวกัน 

 

เป็นอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต้องแข่งขันกันเพื่อไล่ล่าคว้าลายเซ็นของ ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมมาครองให้ได้ ซึ่งในตอนแรกปีศาจแดงดูมีโอกาสมากกว่า แต่หลังจากที่ สิงห์บลู คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2012 สถาการณ์ต่างๆก็เปลี่ยนไปทันที

 

“ตอนที่พวกเขาคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ผมบอกกับตัวเอง ‘ทำไมจะเป็น เชลซี ไม่ได้ล่ะ’” อาซาร์ เผยผ่านแมนเชสเตอร์ อีฟเวนนิ่ง นิวส์ เมื่อหลายปีก่อน 

 

“มีการแก่งแย่งกันระหว่าง เชลซี และ ยูไนเต็ด แต่สำหรับผมแล้ว เชลซี มีโปรเจ็คที่ยอดเยี่ยม นี่คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม”

 

อาซาร์ ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ ในตอนนั้น ส่วนยูไนเต็ดที่อกหักอีกครั้ง ก็หันไปคว้าตัว ชินจิ คากาวะ จาก ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์แทน

 

 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 

 

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2017 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถือเป็นนักเตะตัวหลักในลิเวอร์พูลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ เดอะ ค็อป หลายคนคงทราบกันดีว่าจริงๆแล้ว เขามีโอกาสย้ายมาค้าแข้งในแอนฟิลด์ ตั้งแต่ปี 2014 แล้ว

 

เมื่อครั้งที่ยังเล่นให้ บาเซิ่ล ดาวเตะชาวอียิปต์ ได้รับความสนใจจากหงส์แดงอย่างมาก แต่เนื่องจากข้อเสนอที่ไม่มากพอทำให้ต้นสังกัดในสวิตเซอร์แลนด์ไม่ยอมปล่อย ซาลาห์ ออกไปง่ายๆ ก่อนที่ เชลซี จะโผล่มายื่นเงิน 11 ล้านปอนด์ แบบไม่คิดมาก กลายเป็นเหตุให้ เขาย้ายซบ สิงห์บลูในตอนนั้น

 

“ลิเวอร์พูล อยากได้ตัวผมมานานมากแล้ว พวกเขาเจรจามาหลายเดือน แต่บาเซิ่ล ปฏิเสธข้อเสนอหลายครั้ง เพราะคิดว่าตัวเลขยังไม่สูงพอ ผมก็ได้แต่รอ เพราะผมชอบลิเวอร์พูลมากจริงๆ และอยากย้ายไปเล่นให้พวกเขา” แข้งวัย 27 ปีกล่าว

 

“แต่แล้ว วันหนึ่งโชเซ่ มูรินโญ่ ก็โทรศัพท์เข้ามา และนั่นเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เขาอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด และ บอกว่า ต้องการผมที่เชลซี ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมย้ายไปเชลซี”

 

การย้ายไปเล่นในอังกฤษครั้งแรกของ ซาลาห์ ล้มเหลวไม่เป็นท่า หลังไม่สามารถแจ้งเกิดได้เลย แต่อีก 3 ปีต่อมา เขาก็กอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองในแดนผู้ดีได้อีกครั้ง และ กำลังพาต้นสังกัดเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกในรอบ 30 ปีอยู่

 

 

เปโดร โรดริเกซ

 

 

ดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะแพ้ทางเรื่องการแก่งแย่งนักเตะกับ เชลซี เป็นพิเศษ หลังพลาดคว้า เปโดร จาก บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีม ทั้งๆที่ตกเป็นข่าวอย่างหนักในช่วงปี 2015 

 

สื่อหลายสำนักในอังกฤษ มองถึงเหตุผลที่ แข้งชาวสแปนิช เลือกย้ายซบ สิงห์บลู มากกว่าปีศาจแดง เพราะการโน้มน้าวของ เชส ฟาเบรกาส เพื่อนร่วมทีม ร่วมถึง ดาเนียลลา ซีมาน ภรรยาของเชส ก็ช่วยโน้มน้าวใจ แคโรลินา มาร์ติน ภรรยาของเปโดร อีกแรง จนสุดท้ายอดีตดาวเตะอาซูลกรานายอมตอบตกลงย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 

 

นอกจากนี้ ชื่อของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่เป็นกุนซือปีศาจแดงในตอนนั้น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากย้ายมาเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากการปฏิบัติและสั่งดร็อป บิคตอร์ บัลเดส กับ ดาบิด เด เคอา 2 เพื่อนร่วมทีมชาติ

 

อย่างไรก็ตาม แฟนยูไนเต็ด ก็ลืมเรื่องเปโดรไปอย่างสนิทใจ หลังเห็น อองโทนี มาร์กซิยาล แข้งดาวรุ่งคนใหม่ ยิงประตูใส่ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม