ก่อนจะถึง เทรนต์ : ยอดแข้งผู้รับบทกัปตันตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง 

 

แม้ว่าเกมที่ ทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปเสมอ มิดทิลแลนด์ 1-1 ในเกมนัดสุดท้ายของ รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นจะไม่มีผลอะไรแล้วหลังพวกเขานั้นการันตีแชมป์กลุ่ม ดี

 

 

แต่เกมนี้ได้ถูกบันทึกเข้าไปอยู่ในความทรงจำของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาสเกาเซอร์ของทีมอย่างเต็มหัวใจ หลังยอดแข้งวัย 22 ปีได้รับเกียรติสวมปลอกแขนกัปตันทีม ถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นรุ่นพี่ชื่อดังอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ฟาบินโญ่ ลงสนามด้วยก็ตาม

 

 

มาวันนี้ เราจะพาไปดูกันว่ามีใครกันบ้างที่เคยได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง จนก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดแข้งหลังจากนั้น

 

มัทไธส์ เดอ ลิกต์  อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (18ปี)

 

 

หลังจากที่ อาแจ็กซ์ ขาย ดาวินซอน ซานเชซ ให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 เดอ ลิกต์ ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังตัวจริงของทีม และยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2018 ด้วยวัยเพียง 18 ปี   พร้อมกับเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังคนแรกและคนเดียวที่คว้ารางวัลโกลเดินบอยมาครองได้ในในปีเดียวกันนี้ 

 

 

พร้อมกันนี้ เดอ ลิกต์ ยังเป็นนักเตะอายุน้อยสุดด้วยวัย 17 ปี กับ 285 วัน ที่ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปเมื่อออกสตาร์รอบชิงชนะเลิศ ศึก ยูโรปาลีกกับ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมปี 2017 ก่อนที่ในปี 2019 ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รายนี้จะย้ายมาร่วมทัพ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 67.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเวลานั้นเขามีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น  

 

รูเบน เนเวส เอฟซี ปอร์โต้ (18 ปี)

 

 

เนเวส อยู่กับ ปอร์โต้ มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั่งในปี 2014  ด้วยพรสวรรค์ที่เปล่งปลั่ง เขาก็ได้รับโอกาสขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ พร้อมทุบสถิติเป็นผู้เล่นทีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในสังเวียน ลีกา ซาเกรส โปรตุเกส ที่อายุ 17 ปี 5 เดือน 2 วัน เท่านั้น 

 

 

จากนั้น เนเวส ก็ได้รับความไว้วางใจจาก ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือของทีมในสมัยนั้น จนกระทั่งในฤดูกาลต่อมาปี 2015 เขาก็ได้รับเกียรติสุดยิ่งใหญ่ เมื่อได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมในวัยเพียง 18 ปี 221 วัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นกัปตันทีมอายุน้อยที่สุดในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วย จนถูกจับตามองจากหลายทีมในยุโรป แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รบกวนทำให้เขาก็ได้อำลาสโมสรในปี 2017 ย้ายมาค้าแข้งกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แบบเซอร์ไพรส์

 

 

  ก่อนที่ในปัจจุบัน เนเวส จะกลายเป็นแกนหลักของทัพ หมาป่าพร้อมกับก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริงในทีมชาติโปรตุเกสเช่นกัน 

 

คริสเตียน พูลิซิช ทีมชาติสหรัฐอเมริกา (18 ปี)

 

 

พูลิซิช เป็นส่วนหนึ่งในทีมชาติสหรัฐฯ มาตั้งแต่รุ่น U15 และ U17 เขาได้เป็นกัปตันทีมรุ่น U17 ลงแข่งเวิลด์ คัพ แชมป์เปี้ยนชิพ รุ่น U17 ในปี 2015 ก่อนจะถูกเรียกให้ติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2016  ซึ่งจากผลงานอันสุดยอดของเขา ทำให้เขาใข้เวลาไม่นานในการสถาปนาตัวเองเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ด้วยอายุเพียงแค่ 20 ปี กับ 63 วัน หลังจากที่ได้นำทัพ “พญาอินทรี” ลงเตะเกมกระชับมิตรกับ อิตาลี ที่เมืองเกงค์ ประเทศเบลเยียม  

 

 

ซึ่งสถิติดังกล่าวของ พูลิซิช ถือเป็นการทุบสถิติเดิมของ แลนดอน โดโนแวน อดีตกองหน้าชื่อดัง ที่ได้เป็นกัปตันทีมชาติสหรัฐฯ ครั้งแรกด้วยวัย 22 ปี กับ 220 วัน ในเกมฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก นัดที่พบกับ เอล ซัลวาดอร์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ปี 2004

 

 

กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว  พูลิซิช นั้นได้ย้ายจาก โบรุสเซียร์ ดอร์ทมุนด์ มาค้าแข้งกับ เชลซี ด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์  ก่อนที่ในฤดูกาลนี้เขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ของทัพ สิงห์บูล์สด้วย 

 

เฟร์นานโด ตอร์เรส  แอตเลติโก  มาดริด (19 ปี)

 

 

เจ้าของฉายา เอลนิญโญ่  เล่นในทีมระดับเยาวชนของ แอต.มาดริด มาเป็นเวลายาวนานถึง 6 ปีเต็ม ก่อนจะได้เริ่มเล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2001/2002 ด้วยวัยเพียง 17 ปี  จนกระทั่ง ฤดูกาล 2002/2003 ตอร์เรส ก็ได้รับเกียรติครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมชุดใหญ่ของทีม แอต.มาดริด ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น 

 

 

จากนั้นในปี 2007 โชคชะตาก็พาเขามาเล่นให้ได้ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์  ซึ่งการย้ายมาค้าแข้งในแอนฟิลด์ทำให้ชื่อเสียงของเขาดังกระหึ่ม จนกระทั่งในปี 2011 เขาก็ทำช็อคอีกครั้งด้วยการ ย้ายไป เชลซี ด้วยค่าตัวถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งเรียกว่าแม้ผลงานส่วนตัวจะล้มเหลวแต่เขาก็สามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับทีมได้สำเร็จ ก่อนที่จะย้ายไป เอซี มิลาน และ ปิดท้ายด้วยการไปค้าแข้งในเจลีกกับ ซางัน โทสุ ก่อนจะแขวนสตั๊ดในแดนปลาดิบในที่สุด  

 

 

 

อารอน แรมซีย์ ทีมชาติ เวลส์ (20ปี)

 

 

แรมซีย์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลครั้งแรกปี 1999 ตั้งแต่เป็นเยาวชนกับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้   จากนั้นได้ย้ายมาค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ในปี 2008 ซึ่งแม้ว่าเวลานั้นเขาจะยังไม่ได้ยึดตัวหลักให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” แต่ก็ได้ก้าวขึ้นไปเล่นทีมชาติ เวลส์ ชุดใหญ่อย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 18 ปี ก่อนที่ในปี 2011 จะได้รับเกียรติสำคัญจาก แกรี่ สปีด กุนซือ นายใหญ่ทีมชาติเวลส์  ที่แต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ด้วยวัยเพียง 20 ปี 90 วัน ทำให้เขากลายเป็นกัปตันทีมชาติเวลส์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์  

 

 

ปัจจุบัน แรมซีย์ ย้ายจาก อาร์เซน่อล มาค้าแข้งกับ ยูเวนตุส  พร้อมรับค่าเหนื่อยสูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้

 

 

 

ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ โรม่า (20 ปี)

 

ต๊อตติ ลงเล่นในทีมเยาวชนของโรม่า อยู่ 3 ปี จึงได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรในปี 1992 และได้ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีมในปี 1994 ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในปี 1997 ด้วยวัยเพียง 20 ปี กลายเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม จากนั้นเขากลายเป็นคีย์แมนของทีม ชุดคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในปี 2001 และกลายเป็นแข้งวันแมนคลับ จนกระทั่งวันนี้ที่เขาแขวนสตั๊ด   

 

ต๊อตติ ลงสนามให้ โรม่า ทั้งสิ้น 786 นัดรวมทุกรายการทำไป 307 ประตูโดยได้แชมป์เซเรีย อา 1 สมัย, โคปป้า อิตาเลีย 2 สมัย และซูเปอร์โคปป้า อิตาเลียน่า 2 สมัย รวมถึงยังเคยเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติ อิตาลี ในปี 2006 ด้วย 

 

                                       DaboyG