ก่อนดวลมาดริด : 5เหตุผล “หงส์แดง” คืนฟอร์ม

 

 

 

พลันจบเกมที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มสุดยอดบุกถล่มเอาชนะ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล 3-0 พร้อมไล่จี้อันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เหลือเพียง 2 คะแนน 

 

 

เริ่มจาก เอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม ก่อนจะบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 และเกมล่าสุดที่บุกถล่ม ไอ้ปืนใหญ่ แบบเอาท์คลาส 3-0 นั่นทำให้ชัยชนะตลอด 3 เกมที่ผ่านมา เยอร์เก้น คล็อปป์ พาลูกทีมคว้าชัยแบบเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมดด้วย 

 

 

ก่อนจะถึงนัดสำคัญในวันอังคารนี้ ที่พวกเขาจะต้องรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2018 ดวลกับราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย  นี่คือเหตุผลที่เราคิดว่าทำไมเวลานี้ขุนพลแข้ง หงส์แดง ถึงกลับมาสู่ฟอร์มเก่งของพวกเขาได้อีกครั้งเรียบร้อยแล้ว

 

 

ฟาบินโญ่ คืนความสมดุล 

 

 

ห้องเครื่องทีมชาติบราซิล เหมือนได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง หลังฤดูกาลนี้เขาต้องรับบทเป็นกองหลังจำเป็นมาตลอดทั้งซีซั่น เนื่องจากแนวรับตัวจริงและสำรองของ “หงส์แดง” เดี้ยงกันแบบยกแผง แต่แล้วตลอด 3 เกมหลังสุดที่ ฟาบินโญ่ ได้กลับมายืนเป็นแกนหลักในแดนกลางเขาแสดงให้เห็นแล้วว่านี่และคือตำแหน่งที่ใช่ที่สุดของตัวเอง เกมล่าสุดที่เอาชนะ ไอ้ปืนใหญ่ ดาวเตะแซมบ้า แทบจะเก็บกวาดเกมรุกของ ไอ้ปืนใหญ่ ได้หมด  และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกมรับและเกมรุกของ หงส์แดง ผสมผสานกันได้อย่างหนักแน่นและลงตัว นอกจากนี้ยังครอสบอลแม่นให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไปทำประตูอีกต่างหาก

 

 

จากแผงมิดฟิลด์ที่เหมือนจะดูงงๆในช่วงที่ต้นฤดูกาล ซึ่งแม้เวลานี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมจะยังเจ็บยาว แต่การทีได้ ฟาบินโญ่ มาช่วยคุมเกมร่วมกับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ จอร์จินโย ไวนัลดุม ก็เชื่อว่าเวลาที่เหลือ “หงส์แเดง” จะมีแดนกลางที่ไม่เป็นรองใครในยุโรปเวลานี้แน่นอน   

 

 

ดีโอโก้ โชต้า การเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาล

 

นับตั้งแต่ย้ายจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงซัมเมอร์ ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ดาวเตะรายนี้ไม่เคยทำให้เหล่า “เดอะค็อป” ต้องผิดหวัง นอกจากอาการบาดเจ็บหัวเข่าเมื่อเดือน ธ.ค. ที่พรากการลงสนามของเขาไปกว่า 3 เดือนเต็ม   

 

 

จากฟอร์มร้อนแรงกับทีมชาติโปรตุเกส ต่อเนื่องยาวมาถึงเกมล่าสุดที่แม้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะให้เขาเป็นตัวสำรอง แต่เมื่อได้รับโอกาสลงมาในครึ่งหลัง ดาวเตะวัย 24 ปีก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อโขกประตูขึ้ันนำให้ทีมทันที ก่อนที่เกมจะไหลและมายิงประตูปิดกล่อง ซึ่งนับเป็นประตูที่ 8 ของเขาในพรีเมียร์ลีก และเป็น 12 ประตูในทุกรายการ พร้อมพาทีมคว้าชัยได้แบบที่ต้องมอบแมนออฟเดอะแมตช์ให้ไปเลย  และนั่นทำให้เห็นว่าฤดูกาลนี้ ทีมไม่จำเป็นต้องฝากความหวังแนวรุกเอาไว้ที่ ฟีร์มิโน่ ,มาเน่ หรือ ซาลาห์ แค่ 3 คนอีกต่อไป 

 

 

เกมรับที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอย

 

 

จากการที่แนวรับตัวจริงของทีมเดี้ยงยาวทั้งหมด จนทำให้ต้องดัน ฟาบินโญ่ ลงมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก แต่เวลานี้เมื่อห้องเครื่องบราซิล กลับไปเล่นกองกลางก็ทำให้เวลานี้เหมือน เยอร์เก้น คล็อปป์ จะได้คู่เซ็นเตอร์แบ็กที่พอจะไว้ใจได้แล้วในฤดูกาลที่เหลืออยู่นั่นก็คือ โอซาน คาบัค กองหลังตุรกี ที่ยืมตัวมาจาก ชาลเก้04 รวมไปถึง นาธาเนี่ยล ฟิลลิปป์ กองหลังลูกหม้อของทีม  ที่เวลานี้นับเป็นนัดที่ 4 แล้วที่เมื่อทั้งคู่เล่นด้วยกันแล้วไม่เสียประตู  การอ่านเกม ,ลูกกลางอากาศ  และความดุดัน ทั้งสองทำได้ยอดเยี่ยมเอามากๆ จากที่เหมือนจะเป็นบ่อตอนนี้เริ่มเห็นแววมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

 

และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ แบ็กขวาของทีมที่ฟอร์มหลุดยาวมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดออกจากทีมชาติอังกฤษ ชุดคัดบอลโลก 3 เกมล่าสุด แต่เกมที่ดวล อาร์เซน่อล แบ็กขวารายนี้แสดงให้เห็นว่าเขานั้นยังดีพอที่จะกลับไปติดทัพ สิงโตคำราม อีกครั้ง ด้วยการเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น บวกกับลูกครอสสุดแม่นให้ โชต้า โขกประตูนำ นั่นทำให้น่าจะเรียกความมั่นใจให้ดาวเตะวัย 22 ปีกลับมาแน่นอน

 

 

 

แอนฟิลด์ ไม่เวิร์ค แต่เกมเยือนยังยอดเยี่ยม

 

 

หากจะบอกว่าฤดูกาลนี้ สังเวียนเหย้าอย่าง แอนฟิลด์ ที่เคยสร้างสถิติไร้พ่ายไม่พบกับความปราชัยจากการลงเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมานานถึง 68 นัด หรือตั้งตั้งแต่ปี 2017 และเป็นสถิติดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรได้ถูกพังทลายลงไปแล้ว แถมยังแย่ขนาดแพ้ในบ้านติดต่อกันถึง 5 นัดด้วย

 

 

แต่บอกเลยว่าเวลานี้เกมเยือนของ หงส์แดง ก็ยอดเยี่ยมไม่เป็นรองใครเช่นกัน โดนเฉพาะตอนนี้พวกเขาคว้าชัยไปได้แล้วถึง 6 จาก 7 นัดหลังสุด นั่นทำให้การบุกไปเยือนแดนกระทิงดุดวลกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมเลกแรก วันอังคารนี้น่าสนใจว่าพวกเขาจะยังรักษาความมั่นใจตรงนี้เอาไว้ได้ต่อไปหรือไม่ 

 

เกมทีมชาติช่วยให้ได้พักฟื้นร่างกายและจิตใจ  

 

หลังจากที่ต้องกรำศึกหนักมาตลอดฤดูกาลท่ามกลางปัญหามากมาย ทั้งอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่น แต่ในช่วงพักเบรคฟีฟ่าเดย์ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทำให้ คล็อปป์ คงได้คิดทบทวนแผนการเล่นของเขา ว่าที่ผ่านมานั้นฝืนมากเกินไปหรือไม่ และมีจุดไหนควรปรับปรุง นอกจากนั้นยังได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจลงบ้างหลังก่อนหน้านี้เพิ่งสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักไป  

 

ขณะที่นักเตะในทีมแม้จะมีหลายคนที่ต้องเล่นให้กับทีมชาติ แต่เมื่อได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เล่นให้ ลิเวอร์พูล ด้วยฟอร์มที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นก็น่าจะเรียกความมั่นใจให้นักเตะหลายรายเช่นกัน อาทิ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่หลังกลับมาจากทีมชาติอียิปต์ เห็นได้ชัดเลยว่าเกมนี้เขาเหมือนกลับมาเป็นยอดแข้งคนเดิมอีกครั้ง พร้อมยิงเพิ่ม 1 ประตู งรั้งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเอาไว้ด้วยที่ 18 ประตู

 

 

 

                                                     DaboyG