ก่อนถึงป็อกบา : 8 นักเตะที่เคยงอแงย้ายหนีปีศาจแดง

 

“ผมสามารถบอกได้ว่ามันจบแล้วสำหรับ ปอล ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปอล ไม่มีความสุขกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะเขาไม่ได้โชว์ผลงานแบบที่เขาต้องการ และในแบบที่เขาคาดหวังเอาไว้ ปอล ต้องการทีมใหม่ , สูดอากาศใหม่ๆ”

 

นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ มิโน่ ไรโอล่า ทิ้งบอมเอาไว้ในสัปดาห์นี้ และเมื่อมองจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับว่าถึงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องปล่อยมือ ปอล ป็อกบา แล้วจริงๆ

 

แน่นอนว่ากองกลางทีมชาติฝรั่งเศสไม่ใช่คนแรกที่ออกตัวว่าอยากอำลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีนักเตะจำนวนไม่น้อยที่เคยแสดงออกว่าหมดรักปีศาจแดงเช่นเดียวกัน ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูว่าพวกเขาเหล่านั้นมีใครบ้าง และผลที่ตามมาหลังจากขอย้ายทีมเป็นอย่างไร

 

กาเบรียล ไฮน์เซ่

 

 

จากที่เคยเป็นนักเตะขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดง ไฮน์เซ่ กลับเปลี่ยนสถานะตัวเองให้กลายเป็นศัตรูกับผู้คนที่เคยหนุนหลังเขา หลังจากออกมาเรียกร้องโอกาสที่จะได้ย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2007

 

แนวรับชาวอาร์เจนไตน์ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “กูอยากไปลิเวอร์พูล” เนื่องจากต้องการทำแสบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ยอมขึ้นค่าเหนื่อยให้ ก่อนที่สุดท้ายเรื่องจะต้องไปจบที่ศาล เพราะเร้ด เดวิลส์ก็ยืนยันว่า “กูไม่ขายเหมือนกัน” ทั้งที่มีค่าฉีกสัญญาจำนวน 6.8 ล้านปอนด์ถูกใส่เอาไว้ในสัญญา

 

อย่างไรก็ตาม ตัวนักเตะและเอเยนต์ดันไม่รู้ถึงเงื่อนไขที่ระบุว่าต้องเป็นสโมสรจากต่างแดนเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ออปชั่นนี้ได้ นั่นทำให้ชัยชนะครั้งนี้ตกเป็นของ ยูไนเต็ด อย่างเป็นเอกฉันท์

 

บทสรุปจบลงด้วยการที่ ไฮน์เซ่ ได้ย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นั้น โดยเป็นยักษ์ใหญ่จากลาลีก้าอย่าง เรอัล มาดริด ที่เดินเข้ามารับกองหลังรายนี้ไปดูแลต่อ

 

มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน

 

 

ในฤดูกาลแรกภายใต้ หลุยส์ ฟาน กัล – ชไนเดอร์ลิน ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 39 นัดรวมทุกรายการ ทว่าการมาถึงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในปีต่อมา ได้ทำให้อนาคตของพ่อหนุ่มจากแดนน้ำหอมมืดมนลงทันที

 

อดีตกองกลางเซาแธมป์ตันได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 3 นัดเท่านั้นหลังจากผ่านไปครึ่งฤดูกาล และนั่นทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินไปเคาะห้องทำงานของกุนซือชาวโปรตุกีสเพื่อขอย้ายทีม

 

“เขาเปิดใจกับผม 2-3 ครั้ง และคำตอบของผมก็ง่ายๆ” มูรินโญ่ กล่าว “ถ้าเขาลงเล่นเป็นประจำกับผม ผมก็มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าไม่มีทาง แต่ถ้าเขาไม่ได้ลงเล่น ผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะถามว่านายกำลังจะไปไหน”

 

“คำตอบของผมคือหากข้อเสนอเหมาะสม และบอร์ดบริหารมองว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดีเมื่อเทียบกับฝีเท้าที่ดีมากของนักเตะอย่าง มอร์แกน ผมก็จะไม่ขวางทางเขา”

 

ท้ายที่สุด ชไนเดอร์ลิน ได้หวนกลับไปร่วมงานกับนายเก่าอย่าง โรนัลด์ คูมัน ที่ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนมกราคมปี 2017 ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ โดยเจ้าตัวถือเป็นแข้งหลักของท็อฟฟี่สีน้ำเงินในช่วงแรก ก่อนที่จะโดนลดบทบาทลงในช่วงหลัง และเพิ่งย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ นีซ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

 

อองโตนี่ มาร์กซิยาล

 

 

โชเซ่ มูรินโญ่ ถือเป็นฝันร้ายของ มาร์กซิยาล ในโรงละครแห่งความฝันอย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะไม่ได้ลงสนามเป็นประจำแล้ว เขายังมาโดนนายใหญ่คนปัจจุบันของสเปอร์สเชือดออกสื่ออีกต่างหาก และมันได้นำไปสู่ความต้องการที่จะอำลาสโมสรเพื่อค้นหาโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง

 

“หลังจากคิดเกี่ยวกับปัจจัยและความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้ว อองโตนี่ อยากย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ฟิลิปเป้ แลมโบลี่ย์ เอเยนต์ส่วนตัวของมาร์กซิยาล บอกกับ RMC Sport

 

“มันมีหลายปัจจัย และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากต่อสัญญากับ อองโตนี่ และไม่อยากให้เขาย้ายออกจากทีม แต่เราไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว”

 

ยูไนเต็ด พยายามรั้ง มาร์กซิยาล เอาไว้ทุกวิถีทาง และในที่สุดเป็นทาง มูรินโญ่ ที่ถูกเตะพ้นเก้าอี้หลังจากพาทีมทำผลงานในฤดูกาล 2018-19 ได้อย่างย่ำแย่

 

นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้แข้งวัย 25 ปีหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับเร้ด เดวิลส์ พร้อมพาตัวเองกลับมาอยู่ในฟอร์มที่น่าประทับใจอีกครั้งภายใต้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หลังจากซัดไป 23 ประตู จากการลงสนาม 48 นัดในซีซั่นที่แล้ว

 

เวย์น รูนี่ย์

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ในเวลานั้น รูนี่ย์ เหลือสัญญาค้าแข้งบนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกเพียง 18 เดือนเท่านั้น และเจ้าตัวก็ได้ทำในสิ่งที่ช็อคสาวกปีศาจแดงทั้งโลกด้วยการประกาศว่าจะย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด

 

โดยเหตุผลหลักที่อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษได้ให้ไว้นั้น เป็นเพราะสโมสรไม่สามารถตอบสนองต่อความทะเยอทะยานของเขาได้

 

“ผมได้เข้าพบกับ เดวิด กิลล์ (ซีอีโอของยูไนเต็ด) เมื่อสัปดาห์ก่อน และเขาไม่ได้ให้คำรับรองใดใดกับผมเกี่ยวกับอนาคตของทีม” รูนี่ย์ กล่าว “จากนั้นผมจึงบอกเขาไปว่าผมจะไม่เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีม”

 

สองวันต่อมา รูนี่ย์ ตอบตกลงสัญญาฉบับใหม่ระยะเวลา 5 ปีจากทาง ยูไนเต็ด พร้อมรับค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และคงไม่ต้องบอกว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้หัวหอกรายนี้เปลี่ยนใจ

 

รุด ฟาน นิสเตลรอย

 

 

หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก และหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ด ถูกโละออกจากทีมหลังจบฤดูกาล 2005-06 แบบที่ไม่ได้รับการอาลัยอาวรณ์นักจากแฟนบอลปีศาจแดง

 

อดีตจอมถล่มประตูทีมชาติเนเธอร์แลนด์สร้างปัญหามากมายในซีซั่นดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความบาดหมางกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เจ้าตัวได้พาดพิงไปถึงพ่อของสตาร์ฝอยทองที่เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน

 

ขณะที่ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างดาวยิงดัตช์แมนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในเกมลีกคัพ นัดชิงชนะเลิศกับ วีแกน หลังจากเขาถึงขั้นสบถคำหยาบใส่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อรู้ว่าตัวเองจะไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมดังกล่าวแน่นอนแล้ว

 

สุดท้ายเป็น เรอัล มาดริด เจ้าเก่าที่มาพาตัว ฟาน นิสเตลรอย ไปลุยต่อที่สเปน ด้วยค่าตัวสุดถูก 11 ล้านปอนด์ ส่วนชีวิตการค้าแข้งบนถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิว เจ้าตัวจัดการสังหารไปถึง 64 ประตู จากการลงสนาม 96 นัด พร้อมช่วยให้ราชันชุดขาวคว้าแชมป์ลาลีก้าได้ 2 สมัย

 

เมมฟิส เดปาย

 

 

เดปาย ถูกดึงเข้ามาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด โดยคนบ้านเดียวกันอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ก่อนที่จะถูกปล่อยออกจากทีมในยุคสมัยของ โชเซ่ มูรินโญ่ เนื่องจากล้มเหลวในการปรับตัวกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

 

หลังจากได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 4 ครั้ง ในครึ่งแรกของฤดูกาล 2016-17 ปีกชาวดัตช์ก็ถูกขายไปให้กับ โอลิมปิก ลียง ด้วยค่าตัว 21.6 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคมปี 2017

 

“ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา การตัดสินใจของผมเกี่ยวกับ เมมฟิส ได้รับอิทธิพลจากความรู้สึก และข้อมูลที่บอกว่าเขาอยากย้ายออกจากทีมในเดือนมกราคม เรากำลังจะได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม ซึ่งเรายินดีที่จะยอมรับข้อเสนอนั้น” มูรินโญ่ กล่าว

 

แนวรุกวัย 26 ปีได้ค้นพบฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองหลังจากอำลาโรงละครแห่งความฝัน และทำไปแล้ว 60 ประตู 47 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 151 นัดให้กับ ลียง

 

โรเมลู ลูกากู

 

 

ด้วยสไตล์การเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปลี่ยนไปหลังการมาถึงของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา บวกกับการต้องตกเป็นแพะของแฟนบอลตัวเอง ทำให้ ลูกากู รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องโบกมือลาแมนเชสเตอร์

 

“โซลชา จะได้รับความเคารพจากผมตลอดไป เขาเข้าใจผม เมื่อผมบอกกับเขาในเดือนมีนาคมว่าถึงเวลาที่ผมจะอำลาอังกฤษแล้ว” ลูกากู บอกกับ Het Belang van Limburg ในปี 2019

 

“ผมมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กอายุ 18 ปี และตอนนี้ผมอายุ 26 แล้ว โซลชา อยากเก็บผมไว้ แต่ผมพร้อมสำหรับสิ่งใหม่ๆแล้ว”

 

หัวหอกทีมชาติเบลเยี่ยมเคยถูก ยูไนเต็ด สั่งปรับเงินในช่วงปรีซีซั่น เนื่องจากไม่ยอมมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมร่วมกับทีม แต่ดันไปโผล่ที่สนามซ้อมของอดีตต้นสังกัดอย่าง อันเดอร์เลชท์ ซะอย่างนั้น

 

สุดท้ายปีศาจแดงขาย ลูกากู ไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 74 ล้านปอนด์ และเขาก็จัดการยิงไปถึง 34 ประตู จากการลงสนาม 51 นัดในฤดูกาลเปิดตัวกับทีมงูใหญ่

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

 

ดาวเตะเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยเคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด จนกลายเป็นมหากาพย์ ก่อนที่จะได้ไปยืนฉีกยิ้มในสนามซานติอาโก้ เบร์นาบิวสมใจในปี 2009 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติโลกในเวลานั้น

 

ทว่าหนึ่งปีก่อนที่การย้ายทีมจะเกิดขึ้น เซปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานฟีฟ่า ได้ออกมากล่าวโจมตี ยูไนเต็ด ว่า “เป็นการค้าทาสยุคใหม่” หลังจาก เฟอร์กี้ ยืนกรานที่จะไม่ขาย โรนัลโด้ เพราะไม่พอใจที่ตอนนั้นราชันชุดขาวใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อพาลูกทีมของเขาไปอยู่ด้วย

 

“ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด” โรนัลโด้ ตามน้ำคำพูดของ แบล็ตเตอร์ “มันเป็นเรื่องจริง ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่ประธานฟีฟ่าพูด ผมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เราต้องมาดูสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะได้เริ่มต้นที่ไหนในฤดูกาลหน้า”

 

ท้ายที่สุดความพยายามของแข้งทีมชาติโปรตุเกสก็ไม่เป็นผล และจำใจต้องอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปอีก 1 ฤดูกาล แต่ถึงกระนั้น เจ้าตัวก็ยังสามารถพาปีศาจแดงป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ทั้งยังนำต้นสังกัดไปถึงรอบชิงแชมเปียนส์ ลีกด้วยในซีซั่นสุดท้ายบนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด