ก่อนถึงเบล : จัดอันดับหอกเบอร์ 9 ไก่ยุคพรีเมียร์

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สเปอร์ส คือหนึ่งในทีมที่เต็มไปด้วยยอดกองหน้ามากมาย แต่มีไม่กี่คนที่ได้สวมใส่หมายเลข 9 เบอร์สุดคลาสสิคของดาวยิงในวงการลูกหนัง

 

หลังจากลาทีมไป 7 ปี แกเร็ธ เบล ก็ย้ายกลับมาค้าแข้งกับ ไก่เดือยทอง อีกครั้ง และกลายเป็นนักเตะคนที่ 9 ที่สวมใส่เบอร์นี้ นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกมีการบรรจุเบอร์เสื้อเข้ามาอย่างเป็นทางการในฤดูกาล 1993-94

 

ทาง UFA ARENA จึงขอจัดอันดับแข้งเบอร์ 9 ของสเปอร์สในยุคพรีเมียร์ลีกผ่านบทความนี้ โดยไล่ตั้งแต่แย่ที่สุดไปยอดเยี่ยมที่สุด

 

 

8.เกอร์เซกอร์ซ ราเซี๊ยค

 

 

เชื่อว่าแฟนบอลสเปอร์สส่วนใหญ่ มองว่า ดีลของ เกอร์เซกอร์ซ ราเซี๊ยค เป็นการคว้ามาร่วมทีมแบบตื่นตระหนกที่สโมสรไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วนก่อนจ่ายเงินไปเลย

 

ไก่เดือยทองคว้าตัวแข้งชาวโปล จาก ดาร์บี้ ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ในปี 2005 และเขาก็ไม่สามารถทำประตูได้เลยตลอด 8 นัดในพรีเมียร์ลีก ก่อนจะถูกขายให้กับ เซาแธมป์ตัน ในไม่กี่เดือนต่อมา  

 

 

7.วินเซนต์ แยนส์เซ่น

 

 

ด้วยดีกรีดาวซัลโว เอเรดิวิซี่ กับ อาแซด อัลค์มาร์ ในฤดูกาล 2015-16 ทำให้ วินเซนต์ แยนส์เซ่น ได้รับการคาดหวังค่อนข้างสูงหลังย้ายมาร่วมทีมสเปอร์สด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์

 

อย่างไรก็ตาม กองหน้าชาวดัตช์ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งในแดนผู้ดีได้เลย เขายิงไปเพียง 6 ประตูจาก 42 นัดที่ลงเล่นให้ไก่เดือยทอง โดย 4 ลูกจากประตูทั้งหมดมาจากการยิงจุดโทษด้วย

 

แยนส์เซ่น ใช้เวลาในฤดูกาล 2017-18 กับการเล่นแบบยืมตัวกับ เฟเนร์บาห์เช่ ก่อนที่สเปอร์จะขายขาดให้กับ มอนเตร์เรย์ สโมสรในเม็กซิโกในปี 2019 ด้วยราคาที่ขาดทุนกว่า 11 ล้านปอนด์

 

 

6.โรแบร์โต้ โซลดาโด้

 

 

โซลดาโด้ ย้ายจากบาเลนเซียด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ในปี 2013 ด้วยผลงานที่ไม่ธรรมดาหลังกดไป 81 ประตู จาก 141 นัดให้ไอ้ค้างคาว

 

แม้ว่าจะยิงได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม แต่กองหน้าชาวสแปนิช ก็ไม่สามารถยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากมายเหมือนที่ทำได้ใน ลาลีก้า และการแจ้งเกิดของ แฮร์รี่ เคน ยิ่งทำให้โอกาสกลับมาของเขาน้อยลงไปอีก

 

ท้ายที่สุด โซลดาโด้ ถูกปล่อยให้กับ บียาร์เรอัล ในปี 2015 หลังยิงให้ไก่เดือยทองเพียง 16 ประตูจาก 76 นัดในทุกรายการ

 

 

5.เฟรเดริก กานูเต้

 

 

กานูเต้ ย้ายจาก เวสต์แฮม มาซบ สเปอร์ส ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ในปี 2003 และทำผลงานสุดปังตั้งแต่เริ่มด้วยการกดไป 4 ตุงจาก 5 นัดแรกกับทีมใหม่

 

แต่หลังจาก ดาวยิงทีมชาติมาลีก็ฟอร์มตกลงไปเรื่อยๆ และกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆในแดนหน้าต่อจาก ร็อบบี้ คีน และ เจอร์เมน เดโฟ

 

สุดท้าย กานูเต้ ก็ลาถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ไปเซบีย่าด้วยค่าตัว 4.4 ล้านปอนด์ในปี 2005 แต่ที่นั่นเองทำให้เขากลับมาโชว์เก่งอีกครั้งพร้อมกับคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ถึง 2 สมัยในปี 2006 และ 2007 ที่เขี่ย สเปอร์ส ตกรอบในปีนั้นด้วย

 

 

4.เลส เฟอร์ดินานด์

 

 

หลังจากส่วมเบอร์ 10 ในช่วง 2 ปีแรกกับสโมสร เลส เฟอร์ดินานด์ ก็เปลี่ยนมาใส่เบอร์ 9 ให้สเปอร์ส ตั้งแต่ฤดูกาล 1999-00 เป็นต้นมา

 

กองหน้าชาวอังกฤษถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างโอเค แต่อาการบาดเจ็บ ทำให้เขายิงไปเพียง 29 ประตู ตลอดช่วง 3 ปีครึ่งก่อนจะถูกปล่อยออกจากทีมในเดือนมกราคมปี 2003

 

 

3.โรมัน พาฟลูเชนโก้

 

 

พาฟลูเชนโก้ ย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโก มาร่วมทีมดังจากลอนดอนเหนือด้วยค่าตัว 13.8 ล้านปอนด์ในปี 2008 แต่เขาก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้เท่าไหร่ในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน

 

ถึงอย่างนั้น กองหน้าชาวรัสเซีย ก็ยิงให้ทีมไป  42 ประตูจาก 113 นัดในทุกรายการ น่าเสียดายที่ไม่ว่า พาฟลูเชนโก้ จะทุ่มเททำงานหนักมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถสร้างความประทับใจหรือความเชื่อมั่นให้กับ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือของไกเดือยทอง ที่มักใช้งาน เดโฟ หรือ ร็อบบี้ คี ก่อนเสมอ

 

 

2.ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน

 

 

แม้ว่าจะเล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่ ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน ก็เป็นนักเตะคนแรกของ สเปอร์ส ที่ได้สวมเสื้อเบอร์ 9 อย่างเป็นทางการในพรีเมียร์ลีก

 

ในขณะที่อาชีพค้าแข้งจะถูกขัดจังหวะบ่อยครั้งจากอาการบาดเจ็บที่รุนแรง แต่แข้งชาวอังกฤษยังลงสนามให้สเปอร์สมากกว่า 300 นัดและเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกคัพในปี 1999 ด้วย

 

 

1.ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

 

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ คือเบอร์ 9 ของสเปอร์สที่ยอดเยี่ยมที่สุดและมาดเท่ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก

 

หัวหอกลีลาศิลปิน กลายเป็นที่รักของแฟนบอลไก่เดือยทอง หลังย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2006 และคงไม่มีใครลืมช่วงเวลาที่เขาประสานงานกับ ร็อบบี้ คีน จนสร้างความหวาดหวั่นให้กับกองหลังหลายคนในยุคนั้น

 

ดาวเตะชาวบัลแกเรีย กดไปทั้งสิ้น 46 ประตูจาก 102 นัดให้สเปอร์ส และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ เหนือเชลซีได้ในปี 2008 ก่อนจะหักอกยิด อาร์มี่ ด้วยการย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา