ก่อนเอ็มเวปู : 5 แข้งจำใจแขวนสตั๊ดหลังตรวจพบโรคหัวใจ

ก่อนเอ็มเวปู : 5 แข้งจำใจแขวนสตั๊ดหลังตรวจพบโรคหัวใจ

โรคภัยมักจะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์อย่างเราเสมอ ขนาดนักกีฬาที่มีการขยับร่างกายบริหารปลอดและหัวใจอยู่ยังมีโอกาสเสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคหัวใจ

นับประสาทอะไรกับคนธรรมดาทั่วไปที่ทำงานหนักไม่ได้ออกกำลังกาย ในวงการลูกหนังมีผู้เล่นที่เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวหลาย ๆ ต่อหลายคน

กรณีที่โด่งดังที่สุดเชื่อว่าน่าจะยังจำกันได้คือ มาร์ค วิเวียน โฟเอ้ อดีตมิดฟิลด์ของที่เสียชีวิตแบบกะทันหัน หลังหมดสติคาสนามจากการลงรับใช้ทีมชาติแคเมอรูน ในศึกฟีฟ่า คอนเฟดเดเรชั่นส์ คัพ เมื่อปี 2003 ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส

เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าในวงการลูกหนัง มีนักฟุตบอลน้อยคนที่จะสามารถต่อสู้กับโรคเหล่านี้และกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง แบบ เอ็นวานโก้ คานู หรือคริสเตียน เอริคเซ่น

ล่าสุดก็เกิดขึ้นกับ อีน็อค เอ็มเวปู มิดฟิลด์อนาคตไกลของ “นกนางนวล” ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่จำเป็นต้องเลิกเล่นฟุตบอลเพราะถูกตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด

ซึ่งมาจากพันธุกรรม หากฝีนเล่นฟุตบอลต่อไปอาการจะแย่ลงเรื่อย ๆ ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ๆ คือต้องยุติเส้นทางอาชีพด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น

วันนี้พาไปย้อนรอยกับ 5 ผู้เล่นที่จำใจต้องยุติเส้นทางการค้าแข้งอาชีพ เมื่อถูกตรวจพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจก่อน เอ็มเวปู ว่ามีใครกันบ้าง

๐ ลิลิยอง ตูราม (2008)

กองหลังระดับตำนานของทัพ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ผู้ที่ประสบความสำเร็จคว้าคว้าทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2000 ฟอร์มพีคสุด ๆ กับ ปาร์ม่า ก่อนจะย้ายมาประสบความสำเร็จกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส และแพแตกจากกรณีอื้อฉาว “กัลโช่โปลี” จนได้ย้ายมาค้าแข้งกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 เขาตอบข้อตกลงเตรียมย้ายจาก บาร์เซโลน่า กลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น หลังจากที่เขาเดินทางมาตรวจร่างกายและถูกวินิจฉัยว่ากำลังปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ทุกอย่างถูกยกเลิกทันที หลังจากนั้นเข้ารับการรักษาใช้เวลาในการทบทวนหลาย ๆ อย่าง ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม

อาการของตูรามนั้นเกี่ยวกับภาวะหัวใจโตเกินปกติ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ อันโตนิโอ น้องชายของเขาที่เสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายขณะที่กำลังเล่นบาสเกตบอลเมื่อปี 1990

“ผมเสียใจที่ต้องยุติทุกอย่างลง ผมถูกตรวจพบว่ามีความผิดปกติของหัวใจ มันเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจยิ่ง ภายใน 1 เดือนผมใช้เวลาทบทวนหลายอย่าง และรู้ว่าควรจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ มันดูเหมือนว่าจะเป็นโรคเดียวกันกับน้องชายของทีม มันเป็นกรรมพันธุ์สมาชิกในครอบครัวของผมก็ประสบปัญหาเดียวกัน” ตูราม กล่าวไว้เมื่อปี 2008

สำหรับ ลิลิยอง ตูราม นับว่าโชคดีในช่วงเวลาที่โลดแล่นบนเวทีลูกหนัง เขาไม่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเกิดขึ้น มาถูกตรวจพบอีกทีก็อายุ 36 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงท้ายปลายทางของการค้าแข้งอาชีพ เจ้าตัวประสบความสำเร็จฝากผลงานไว้มากมาย และยังคงเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ลงเล่นใช้ทีมชาติฝรั่งเศสมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 142 เกม

๐ รูเบน เด ลา เรด (2010)

มิดฟิลด์หน้าคมผู้ที่เคยได้รับฉายา “เจอร์ราร์ดแห่งสเปน” อีกหนึ่งผู้เล่นจากอคาเดมี่ของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่ไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ได้ จนต้องย้ายออกไปสร้างชื่อกับ เคตาเฟ่ ในฤดูกาล 2007 ด้วยฟอร์มที่โดดเด่น ทำให้เขาถูก “ขรัวเฒ่า” หลุยส์ อราโกเนส ผู้ล่วงลับ เรียกติดทัพ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ ไปคว้าแชมป์ยูโร 2008

เส้นทางของเขากำลังดูสดใส เพราะเรอัล มาดริด สโมสรที่เชียร์มาตั้งแต่เด็ก ตามตัวกลับไปร่วมทีมอีกครั้ง แต่ลงเล่นกับทีมไปเพียงแค่ 7 นัด ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ในเกมโกปา เดล เรย์ ที่ต้นสังกัดของเขาพบกับ เรอัล ยูนิออน เขาหมดสติคาสนามล้มลงไปแบบดื้อ ๆ ชนิดที่ว่าตายังค้างอยู่ โชคดีที่ทีมแพทย์สามารถเข้าไปชวนได้ทันเวลา เรียกสติเขากลับมา

หลังจากนั้น เด ลา เรด ได้รับการรักษาพยายามต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กลับมาเล่นฟุตบอลที่เขารักอีกครั้ง โดยใช้เวลารักษาตัว 2 ปี จนในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2010 เขาได้แถลงข่าวประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพทั้งน้ำตา โดยมี ฆอร์เก้ วัลดาโด้ ผู้อำนวยการฟุตบอลในเวลานั้นอยู่ข้าง ๆ น่าเสียดายที่เขาต้องยุติเส้นทางค้าแข้งด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น

๐ ฟาบริซ มูอัมบ้า (2012)

มิดฟิลด์เชื้อสายซาอีร์ หรือดีอาร์ คองโก ในปัจจุบัน ผู้ติดทีมชาติอังกฤษทีมเยาวชนมาทุกชุด เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แต่ไม่สามารถเบียดขึ้นชุดใหญ่ได้ จนต้องไปค้าแข้งกับ “ลูกโลก” เบอร์มิ่งแฮม และย้ายมาสร้างชื่อกับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ในเวลาต่อมา เป็นกองกลางที่มีความคล่องแคล่ว

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2012 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อ มูอัมบ้า หมดสติคาสนามลงไปกองบนหญ้าสีเขียว พร้อมด้วยอาการชัก ในเกมเอฟเอ คัพ อังกฤษรอบก่อนรองชนะเลิศที่ โบลตัน ต้นสังกัดของเขาพบกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน โดยมีการถ่ายทอดสดมาที่ประเทศไทยด้วย ต้องใช้เวลาในการปฐมพยาบาลนานพอสมควร

มูอัมบ้า ถูกส่งนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลด้วยสภาพด้วยร่างอันไร้สติ อาการของเขาเป็นตายเท่ากัน ผู้ตัดสินในเกมนั้น ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ได้ปรึกษากับนักเตะทั้งสองทีมก่อนจะยกเลิกเกมดังกล่าว มีการเปิดเผยว่าเขาหยุดหายใจนานถึง 78 นาที ซึ่งหมายความว่าเขาได้ลาโลกใบนี้ไปแล้ว แต่เขาก็รอดกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้แบบปาฎิหาริย์

“เป็นเวลา 48 นาที ในสนาม และอีก 30 นาที ที่โรงพยาบาลที่เขาไม่หายใจ เราคิดว่าเขาคงจากไปแล้ว แต่มันเหลือเชื่อเขาสามารถกลับมาได้” นายแพทย์ โจนาธาน โทบิน กล่าว

หลังจากฟื้นมาจากความตาย อาการของเขาค่อยดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ต้องแลกมาด้วยการยุติเส้นทางอาชีพค้าแข้งด้วยวัย 23 ปี เพราะไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการมีชีวิตต่อไป พร้อมกับผันตัวไปเป็นโค้ชทีมเยาวชนของโบลตัน

“ขอบคุณพระเจ้าที่ยังให้ผมมีชีวิตอยู่ รวมไปถึงทีมแพทย์ของสโมสรและโรงพยาบาลที่ไม่เคยย่อท้อกับการรักษาอาการป่วยของผม และขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เอาใจช่วยเสมอมา” ฟาบริซ มูอัมบ้า

๐ อีเกร์ กาซียาส (2020)

นายทวารรูปหล่อทีมชาติสเปนขวัญใจของสาว ๆ เป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่ต้องจำใจแขวนถุงมือหลังถูกวินิจฉัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนนี้เขาลงซ้อมกับต้นสังกัด เอฟซี ปอร์โต้ อยู่ ๆ ก็เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาทันที และไม่ได้ลงเฝ้าเสาเลยนับตั้งแต่ตอนนั้น

จนวันที่ 4 สิงหาคม 2020 กาสซียาส ประกาศอำลาวงการฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการด้วยวัย 39 ปี หลังจากที่ใช้เวลาในการต่อสู้รักษาตัวมาเกือบปี ทิ้งเอาไว้คือความสำเร็จมากมายทั้งในเวทีระดับสโมสรและทีมชาติ

กรณีของ กาซียาส นั้นคล้ายกับ ลิลิยอง ตูราม ที่ได้ทำตามความฝันสำเร็จ เพราะเขาประสบความสำเร็จในทุกรายการที่ลงเล่น และอยู่ในช่วงท้ายปลายทางของการค้าแข้งแล้ว

๐ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ (2021)

หัวหอกจอมถล่มประตูชาวอาร์เจนไตน์ สร้างชื่อจารึกว่าแข้งระดับตำนานของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขากลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ถูกตรวจพบว่ามีปัญหาที่หัวใจ หลังย้ายไปอยู่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 โดยได้ลงสนามไปเพียง 5 เกม ยิงได้ 1 ประตู ในการพบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด

จากนั้นอีก 7 วันต่อมา ในเกมลาลีกา สเปน ที่พบกับ อลาเบส เจ้าตัวเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และแพทย์ก็ได้วินิจฉัยว่าเขามีภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เขาใช้เวลาพักประมาณ เดือนเศษ ก่อนจะตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยวัย 33 ปี ท่ามกลางเพื่อนฝูงรวมไปถึงกุนซืออย่าง เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ก็ไปร่วมงานแถลงอำลา

“ผมตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมก็มีความสุขในการเลือกเส้นทางครั้งนี้ สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่ดีที่สุดที่จะหยุดยั้งโรคร้ายนี้คือการเลิกเล่นฟุตบอล ผมภูมิใจกับที่ทำได้ทำตลอดมา” อเกวโร กล่าว