ของขวัญจากซานต้า : รวมทุกสิ่งที่ บิ๊กซิกส์ ต้องการเมื่อย่างเข้าปี 2022

ปี 2021 กำลังจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว หรือ เนิ่นนาน แล้วแต่สถานการณของใครคนนั้น และถึงเวลานี้หลังจบช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ฟาดแข้งผ่านพ้นครึ่งฤดูกาลเรียบร้อยแล้ว

 

 

ในสถานการณ์ของกลุ่มบิ๊กซิกส์ต้องบอกว่า การลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้เป็นการขับเคลื่อนของ 3 ทีมแกร่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ,ลิเวอร์พูล และ เชลซี ขณะที่  อาร์เซน่อล ,ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้ลุ้นตั๋วท็อปโฟร์ เพื่อคว้าตั๋วไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดุกาลหน้า

 

วันนี้ UfaArena จะพามาดูปัญหาที่เหล่าบิ๊กซิกส์จะต้องเผชิญและภาวนาให้ผ่านพ้นไปหลังจากเข้าสู่ปี 2022 กัน

 

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ไร้กองหน้าไร้ปัญหา ขอเพียงอย่ามีใครเจ็บเพิ่ม

 

 

 

จากครึ่งฤดูกาลที่ผ่านมา นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราได้เห็นคลาสการคุมทีมของ เปีป กวาดิโอล่า แม้พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการไร้กองหน้าที่สามารถฝากความหวังได้ หลังจากปล่อย เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ดาวยิงระดับตำนานออกจากทีมไป

 

แต่กุนซือชาวสแปนิช ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าบางทีกองหน้าอาจจะไม่จำเป็นเสมอไป เพราะด้วยแท็กติกที่ใช้ผู้เล่นในตำแหน่ง False9 นั้นก็มีศักยภาพทดแทนได้เพียงพอ และก็ทำให้ ซิตี้ นั้นยิงประตูในลีกได้มากที่สุดเทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล ถึง 50 ประตู  ซึ่งหากจะมีสิ่งเดียวที่ เป๊ป ต้องการก็คงเป็นการสวดภาวนาให้เขาไม่ต้องเจอปัญหาแข้งเจ็บร้ายแรงเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอให้พวกเขาเข้าป้ายคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

 

 

 

ลิเวอร์พูล

โควิดเล่นงาน และการขาดแข้งหลักไปเตะ แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ

 

 

การที่ทัพ “หงส์แดง” ได้แกนหลักคนสำคัญในเกมรับอย่าง เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่เดี้ยงหนักพักทั้งฤดูกาลก่อนกลับมาเต็มสูบอีกครั้งในฤดูกาลนี้ มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งไม่ต่างจากฤดูกาลที่คว้าแชมป์เลย ขณะที่้ในเกมรุกนี่คือปีทองของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อีกครั้งหลังแทบจะไม่มีเกมไหนที่เขาจะไม่มีส่วนร่วมในการทำประตูไม่ว่าจะยิงประตูหรือแอสซิสต์ ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ก็ยังมีฟอร์มที่อยู่ในมาตรฐาน ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ฟอร์มดร็อปไปก็ยังมี ดีโอโก้ โชต้า ที่เข้ามาทดแทนได้อย่างไร้ที่ติ

 

ปัญหาที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเฮฟวี่เมทัล กำลังเผชิญคือในตอนนี้พวกเขาต้องเจอกับการที่มีแข้งตัวหลักหลายรายต้องติดเชื้อโควิด-19 เล่นงานอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น  ฟาน ไดค์ ,  ฟาบินโญ , เคอร์ติส โจนส์ และ ติอาโก้ อัลคันทาร่า นอกจากนี้ในเดือน ม.ค.นี้ก็มีแข้งอีกหลายรายที่ต้องเดินทางไปเล่นศึก แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ ไม่ว่าจะเป็น ซาลาห์ ,มาเน่ และ นาบี เกอิต้า ซึ่งจะทำให้ทีมต้องขาดตัวหลักไปร่วมเดือนเลยทีเดียว

 

 

 

เขลซี

แผงหลังไม่ต่อสัญญาที่สะเทือนถึงปัจจุบัน

 

 

เจ้าของแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมล่าสุด ยังสร้างมาตรฐานการเล่นได้ยอดเยี่ยม แต่เวลานี้สิ่งที่ โธมัส ทูเคิล กุนซือขาวเยอรมนี ต้องเผชิญต่อจากนี้คือ การต่อสัญญาฉบับใหม่ของ ปราการหลังตัวหลักในทีม ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ,ติอาโก้ ซิลวา ,อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ เซซาร์ อัซปิลิกัวเอต้า นั่นทำให้ช่วงปีใหม่นี้พวกเขาอาจจำเป็นต้องทุ่มเงินเสริมทัพในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก โดยเวลานี้มีเป้าหมายอยู่ที่ ฌูลส์ กุนเด้ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ของเซบีญ่า

 

 

ขณะเดียวกันอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยคือแข้งตัวสำรองของทีมในแดนกลาง ไม่ว่าจะเป็น รูเบน ลอฟตัส ชีค ,รอสส์ บาร์คลีย์ หรือแข้งที่ยืมตัวมาอย่าง ซาอูล ญีเกซ ยังไม่สามารถทำผลงานทดแทนตัวจริงเมื่อมีอาการบาดเจ็บได้เลย และทุกครั้งที่ จอร์จินโญ่ ,เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หรือ มัตเตโอ โควาซิช บาดเจ็บ เรามักจะเห็นปัญหารอยต่อที่มากมายตรงนี้ทุกครั้ง

 

 

 

อาร์เซน่อล

ยุคยังบลัดถือกำเนิด แต่จะไปได้ไกลซักกี่น้ำ ?

 

ไม่น่าเชื่อว่าการตัดสินใจดร็อป ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวยิงกัปตันทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะส่งผลให้ผลงานของทีมพุ่งทะยานเป็นเหรียญบิทคับในเวลานี้ เมื่อทัพ ไอ้ปืนใหญ่ คว้าชัยได้ถึง 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ พร้อมยึดอันดับ 4 ได้อย่างเหนียวแน่นแบบเกินความคาดหมาย หากเรามองไปที่ผลงานในช่วงต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่สุดขีด

 

แนวรุกของทีมยุคใหม่ นำทัพโดย บูกาโย่ ซาก้า ,มาร์ติน โอเดการ์ด ,เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาติเนลลี่ ซึ่งเมื่อทั้งหมดได้เล่นด้วยกันและเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือความมั่นใจที่อยู่ในตัวนักเตะอย่างเต็มเปี่ยม ผนวกกับแข้งรายอื่นๆในทีมที่ทำผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูพลิกชีวิตอย่าง อารอน แรมส์เดล ,หรือแผงเกมรับอย่าง เบน ไวท์ ,ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ นั่นก็แสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ชุดนี้ไม่ได้เป็นรองใคร ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือเหล่าแข้งยังบลัดเหล่านี้จะสามารถรักษาฟอร์มไปจนจบฤดุูกาลได้หรือไม่  ซึ่งถ้าได้จริงต้องมอบเครดิตให้ อาร์เตต้า เต็มๆกับการกู้วิกฤติของทีมในครั้งนี้

 

 

ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์

ปลุกวิญญานเพชรฆาตของ เคน กลับมาให้ได้โดยด่วน

 

ในช่วงซัมเมอร์หลังจากอกหักทั้งชวดแชมป์ ยูโร รวมทั้งชวดย้ายทีมตามที่ต้องการ ก็ทำให้ เคน ฟอร์มหลุดไปดื้อๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดาวยิงกัปตันทีมชาติอังกฤษซัดให้ทีมไปกว่า 167 ประตู จนในช่วงต้นฤดูกาลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นของทัพ “ไก่เดือยทอง” เมื่อตัดสินใจปลด นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ออกจากตำแหน่ง พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยดึงตัว อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียนเข้ามากู้วิกฤติแทน ซึ่งนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจุดหนึ่งของทีมในฤดูกาลนี้

 

แม้เวลานี้ผลงานของทีมจะยังไม่เข้าฝัก แต่เราก็ได้เห็นเกมรุกที่กลับมาดุดันอีกครั้งของทัพ “ไก่เดือยทอง” ในช่วงหลายเกมหลัง และสิ่งสำคัญในช่วงหลังจากปีใหม่นี้ที่ คอนเต้ ต้องพยายามทำให้ได้คือการเรียกความมั่นใจและเฟ้นศักยภาพของ เคน ให้กลับมาเป็นยอดดาวยิงคนเดิมให้ได้อีกครั้งนั่นเอง

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“รังนิก” เร่งแก้ เร่งสร้าง เร่งพัฒนา

 

ฤดูกาลที่คล้ายรถไฟเหาะตีลังกาของ ยูไนเต็ดฤดูกาลนี้ หลังเปิดฉากด้วยการคว้า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ สุดยอดดาวยิงกลับบ้าน ท่ามกลางความหวังที่จะทวงบัลลังก์แชมป์กลับคืนมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายผลงานโดยรวมของทีมก็ดิ่งลงเหวแบบไม่น่าเชื่อ จนสโมสรต้องตัดใจปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือเปื้อนยิ้มพ้นตำแหน่ง พร้อมดึง “เดอะ โปรเฟสเซอร์” ราล์ฟ รังนิก เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพ

 

 

ถึงเวลานี้เชื่อว่ากุนซือชาวเยอรมนี น่าจะได้เห็นสิ่งที่เขาต้องการปรับปรุงแก้ไขภายในทีมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเฟ้นศักยภาพของแข้งที่มีอยู่ออกมา รวมทั้งการดันดาวรุ่งที่มีอนาคตขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่  หรือแม้กระทั่งการเสริมทัพในช่วงปีใหม่นี้ เพราะในช่วงที่ผ่านมาแผงห้องเครื่องของทีมยังมีช่องโหว่มากมายไม่ว่าจะทั้ง เฟร็ด ,สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือ เนมานญ่า มาติช ที่ดูแล้วยังไม่ดีพอกับทีมที่เขาต้องการ

 

นอกจากนี้ก็จำเป็นต้องเร่งเคลียร์แข้งที่ต้องการอำลาทีมให้เร็วที่สุด หลังจากที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล คือคนแรกที่แสดงความต้องการย้ายทีมในช่วงปีใหม่นี้  และบางทีความชัดเจนในอนาคตของ ปอล ป็อกบา ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน

 

 

อีกอย่างที่ทัพ “ปีศาจแดง” กังวลคือเวลานี้ทีมนั้นต้องเผชิญหน้ากับสถานการร์โควิด-19 เชื้อสาย โอมิครอน อย่างเต็มรูปแบบจนมีแข้งไม่เพียงพอที่จะลงสนามก่อนหน้านี้ ก็ได้แต่หวังว่าเชื้อโรคดังกล่าวจะผ่านพ้นไปเสียที

 

 

                                                     DaboyG

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :  สถิติใหม่! พรีเมียร์ลีกเผยมีผู้ติดเชื้อในพรีเมียร์ลีกถึง 103 ราย