นาโปลี นับว่าเป็นทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงแกนหลักบ่อยครั้ง แต่ก็ยังสามารถรักษาฟอร์มของตัวเองอยู่ในระดับหัวตารางกัลโช่ เซเรีย อา แม้จะไม่เคยไปถึงแชมป์ลีก แต่พวกเขาก็ไม่เคยขาดนักเตะคุณภาพที่เข้ามาทดแทนคนที่ย้ายออกไป
วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูดีลที่เข้ามาอุดช่องว่าง และยกระดับของนักเตะที่ นาโปลี นำเข้ามาแทนนักเตะที่พวกเขาปล่อยออกไป
เสีย: เอดิสัน คาวานี่| ได้: กอนซาโล่ อิกวาอิน| 2012/13
ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับนาโปลีจากจำนวน 104 ประตูจาก 138 เกม ทาง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็มาดึงตัวไปด้วยราคา 55 ล้านปอนด์ ซึ่งนับเป็นสถิติสโมสรในเวลานั้น แน่นอนว่านับเป็นความเสียหายอย่างหนักสำหรับทาง อัซซูร่า แต่นายใหญ่ของทีมอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ก็หาตัวแทนมาได้ แถมชื่อชั้นก็ไม่ธรรมดาก็คือ กอนซาโล่ อิกวาอิน จาก เรอัล มาดริด ที่ไม่สามารถเบียดแย่งตัวจริงกับ คาริม เบนเซม่า ได้
หัวหอกอาร์เจนไตน์ สามารถมาทดแทนช่องว่างของ เอล มาธาดอร์ ที่ย้ายออกไปได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยการกดไปทั้งหมด 91 ประตูจาก 146 เกมรวมทุกรายการ นอกจากนี้ยังทำสถิติยิงประตูมากสุดภายใน 1 ฤดูกาลของกัลโช่ เซเรียอา นับตั้งแต่ปี 1928/29 ด้วยจำนวน 36 ประตูเมื่อฤดูกาล 2015/16 และนอกจาก อิกวาอิน แล้วยังมี โฆเซ่ กาเญฆอน และ ดรีส์ เมอร์เท่ส์ ที่ย้ายเข้ามาด้วยเงินก้อนที่ขาย คาวานี่ ออกไปได้ ซึ่งนักเตะทุกรายที่ย้ายเข้ามากลายเป็นดีลสุดคุ้มค่า ที่ทำผลงานให้ทีมได้มากมาย
เสีย: เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ | ได้: คาลิดู คูลิบาลี่ | 2014/15
ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ที่ นาโปลี ให้ความไว้วางใจให้มาประจำการเกมรับของทีมนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้ใจอย่างดีจนกระทั่งในปี 2014 ทีมจากพรีเมียร์ลีกอย่าง สวอนซี ก็มาให้ความสนใจและดึงตัวไปร่วมทีม แต่การเสียแนวรับตัวหลักไปหนนี้ไม่ได้สะเทือน นาโปลี มากนัก เมื่อพวกเขาได้ คาลิดู คูลิบาลี่ มาจาก เกงค์ ด้วยราคาแสนถูกที่ 7 ล้านยูโรเท่านั้น และกลายเป็นตัวหลักของทีมมาตลอดจนถึงขั้นที่ว่า ค่าตัวของแนวรับชาวเซเนกัล พุ่งสูงไปถึง 100 ล้านยูโร นับว่าในดีลนี้ นาโปลี คุ้มค่าทั้งในแง่ของฟอร์มการเล่น และในแง่ของธุรกิจ แม้ในภายหลัง คูลิบาลี่ จะถูกขายให้กับ เชลซี ด้วยราคาเพียง 38 ล้านยูโรเมื่อปี 2022 แต่ก็ถือว่าพวกเขาได้ใช้งานอย่างเต็มที่แล้ว
เสีย: โกคาน อินแลร์ | ได้: อัลลัน | 2015/16
อดีตกัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ นับเป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ ที่ช่วยทีมได้อย่างมาก โดยลงสนามให้ยอดทีมประจำเมืองเนเปิ้ลส์ไปทั้งหมด 166 นัดรวมทุกรายการ แถมยังเป็นส่วนนึงของทีมในการคว้าแชมป์ โคปา อิตาเลีย 2 สมัย และ ซูเปอร์ โคปา อิตาเลีย 1 สมัย ก่อนย้ายออกไปในปี 2015 ไปอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ส่วนคนที่เข้ามาแทนที่ก็เป็น อัลลัน กองกลางชาวบราซิเลี่ยน ที่เรียกได้ว่าความสารพัดประโยชน์มีเหมือนกันไม่พอ ยังดูเหนือกว่า อินแลร์ ด้วยซ้ำไป และเช่นเดียวกับกรณีของ คูลิบาลี่ แข้งแซมบ้าก็ตกเป็นความสนใจของหลายทีมมาตลอด แต่กว่าจะได้ย้ายจริงๆ ก็ปาเข้าไปปี 2018 หลังใช้งานอย่างเต็มที่ ทีมตัดสินใจขายไปให้กับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยราคา 24 ล้านยูโร คุ้มทั้งผลงาน คุ้มทั้งเงินจริงๆ
เสีย: เปเป้ เรน่า | ได้: อเล็กซ์ เมเร็ท / ดาวิด ออสปิน่า | 2018/19
ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ชาวสเปน อยู่กับทาง นาโปลี ถึงสองหนครั้งแรกสมัยถูกยืมตัวมาจาก ลิเวอร์พูลเมื่อปี 2013/14 ก่อนจะได้กลับมาอีกครั้งในปี 2015 ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เป็นตัวหลักของทีม ยืนระยะมาเรื่อยๆ แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นทาง อัซซูร่า เลือกปล่อยให้สัญญาหมดลง ก่อนที่ เรน่า จะย้ายไปอยู่กับคู่แข่งร่วมลีกอย่าง เอซี มิลาน ทำให้ตอนนั้นพวกเขาแทบไม่เหลือใครที่พอจะไว้ใจได้แล้ว เลยมีการไปดึงเอา ดาวิด ออสปิน่า และ อเล็กซ์ เมเร็ท มาแบบยืมตัวทั้งคู่ ซึ่งก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง 2 คน จนสุดท้ายทีมตัดสินใจซื้อขาด ทั้งคู่สลับกันลงสนามจนกระทั่ง ออสปิน่า ย้ายออกไปในปี 2022 นี้เอง ส่งไม้ต่อให้กับ เมเร็ท ทำหน้าที่ต่อในฤดูกาลปัจจุบัน
เสีย: จอร์จินโญ่ | ได้: ฟาเบียน รุยซ์ | 2018/19
กองกลางชาวอิตาเลี่ยน ตัดสินใจอำลาทีมไปร่วมงานกับผู้จัดการทีมคู่บุญอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่โยกไปคุม เชลซี ทำเอา อัซซูร่า เสียหายไม่น้อยและต้องลงทุนเพื่อหาตัวแทน ซึ่งคนที่ถูกดึงเข้ามาคือ ฟาเบียน รุยซ์ จากเรอัล เบติส ในราคา 30 ล้านยูโรที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนาม 166 นัดยิง 22 ประตู 15 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ที่ผ่านมาห้องเครื่องสแปนิช มักได้รับความสนใจของหลายทีมมาตลอด ก่อนที่จะเป็น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เพิ่งมาคว้าตัวเขาไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้เอง
เสีย: อัลลัน | ได้: ติมูเอ้ บากาโยโก้ | 2020/21
การมาของ อัลลัน เป็นการยกระดับแดนกลางของทีมได้อย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนเมื่อเจ้าตัวย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2020 เป็นการทิ้งช่องว่างให้กับทีมไม่น้อย ทาง อัซซูร่า เลือกที่จะยืมตัว ติมูเอ้ บากาโยโก้ กองกลางส่วนเกินจาก เชลซี มาสู่ทีม แน่นอนว่าความสำเร็จอาจไม่ดีเท่า แต่ก็สามารถเข้าเติมเต็มได้ โดยได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามไปทั้งหมด 44 นัดทำได้ 2 ประตู 2 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ถ้าพูดตามตรงแล้ว จัดว่าไม่ได้ดีเด่อะไรนักสำหรับผลงานข้างต้น แต่ก็ถือเป็นการมาชุบตัวที่ดีของ กองกลางชาวฝรั่งเศส ที่ได้ไปต่อกับ เอซี มิลาน ในซีซั่นต่อมา ส่วน นาโปลี คุ้มค่าแล้วกับดีลแก้ขัดนี้
เสีย: อาร์คาดิอุซ มิลิค | ได้: วิคเตอร์ โอซิมเฮน | 2020/21
แม้ว่า มิลิค จะไม่ใช่กองหน้าที่โดดเด่นนัก เมื่อเทียบกับคนที่ นาโปลี เคยมีมา แต่ก็จัดเป็นกองหน้าจมูกไวเบอร์ต้นๆ ฝากผลงานไว้ 48 ประตู จาก 122 นัดรวมทุกรายการ ก่อนถูกปล่อยไปให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ยืมตัวพ่วงออปชั่นซื้อขาดในเวลาต่อมา ซึ่งคนที่เข้ามาทดแทนอย่าง โอซิมเฮน ไม่ใช่แค่อุดช่องว่างที่หายไป แต่เป็นการเสริมความแกร่งเข้าไปอีกด้วย แค่ฤดูกาลแรกก็กดไป 10 ประตู จาก 30 นัดรวมทุกรายการ แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน หอกชาวไนจีเรีย กลายเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ และกำลังตกเป็นความสนใจของหลายทีมทั่วยุโรป ซึ่งราคาก็ถูกประเมิณไว้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านยูโร และมีโอกาสสูงที่อาจจะได้ย้ายทีมในซัมเมอร์นี้
เสีย:ฟาเบียน รุยซ์ | ได้: อังเดร อองกิสซ่า | 2022/23
หลังจากเป็นเสาหลักของทีม และตกเป็นข่าวการย้ายทีมมานาน ในที่สุดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมากองกลางชาวสเปน ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ขณะที่ นาโปลี เลือกดัน แฟรงค์ อังเดร อองกิสซ่า ที่จริงๆ ยืมตัวมาจาก ฟูแล่ม ด้วยตั้งแต่ปี 2021 ก่อนจะมาเซ็นถาวรในซีซั่นถัดมา การมาของเจ้าตัวก็ถูกตั้งคำถามไม่น้อย เนื่องจากมาจากทีมที่ตกชั้น และไม่มีใครมั่นใจเลยว่าจะสามารถมาทดแทนการหายไปของตัวหลักได้ แต่เมื่อฤดูกาลเริ่มขึ้น คำถามทั้งหมดก็ถูกปัดทิ้งไปจากฟอร์มลงสนามไปทั้งหมด 37 นัดยิง 3 ประตู 7 แอสซิสต์ ที่นอกจากเกมรับที่ช่วยได้เยอะแล้วยังสามารถทำเกมรุกได้ดีอีกด้วย
เสีย: คาลิดู คูลิบาลี่ | ได้: คิม มิน แจ | 2022/23
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนเอเชีย ที่จะได้รับการยอมรับในประเทศอิตาลี โดยเฉพาะกับชาวเกาหลีใต้ ที่เคยมีประเด็นกันมาก่อนก็ยิ่งแล้วใหญ่ แถมต้องเข้ามาแทนที่ปราการหลังขวัญใจชาวเนเปิ้ลส์ อย่าง คูลิบาลี่ ที่สร้างมาตรฐานไปสูงลิบ ทว่าแข้งจากแดนกิมจิ สามารถตอบทุกข้อสงสัย โดยตอนนี้ลงสนามไปแล้วกว่า 39 นัดจากทุกรายการ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมมีลุ้นคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี เรียกว่าไม่ใช่แค่เข้ามาอุดรอยรั่ว แต่นับว่าเป็นการเข้ามายกระดับทีมแบบไม่ต้องปรับตัวมากมายเลยสักนิด ทั้งที่ไม่เคยเล่นในลีกใหญ่ยุโรปมาก่อนเลยก็ตาม ที่สำคัญได้มาในราคาแสนถูกเพียง 18 ล้านยูโรเท่านั้น
เสีย: ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ | ได้: ควิชช่า ควารัตสเคเรีย | 2022/23
ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทัพ อัซซูร่า มีการปรับทีมครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกับแผนกเกมรุกที่สตาร์ลูกหม้ออย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ที่อยู่ค้าแข้งกับทีมมานานถึง 13 ปี ทว่าด้วยอายุอานามที่มากขึ้นเลยไม่ได้เป็น “เดอะแบก” เหมือนวันวาน อย่างไรก็ตามการเสียตัวหลักก็สร้างปัญหาให้ทีมเสมอ ยิ่งตัวแทนที่ทีมไปหามาเป็นแค่เด็กจอร์เจีย โนเนม ยิ่งทำให้แฟนบอลรู้สึกกังวลใจ แต่ ควารัตสเคเรีย คลายทุกข์ของแฟนบอลด้วยผลงานในสนาม การถล่มไปถึง 14 ประตูกับอีก 16 แอสซิสต์จาก 35 นัดรวมทุกรายการ ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอล นาโปลี และเป็นนักเตะที่ถูกจับตามากที่สุดในเวลานี้
ถึงเวลาอัซซูร่า! เจาะ 5 ปัจจัยพานาโปลีลุ้นแชมป์เต็มตัว
