บุนเดสลีก้า เยอรมัน เป็นแหล่งปลุกปั้นดาวรุ่งมากมายในวงการลูกหนัง เช่น ไค ฮาเวิร์ต์ซ หรือ ติโม่่ แวร์เนอร์ 2 แข้งหนุ่มรายล่าสุดที่ย้ายไปโชว์ฝีเท้าด้วยค่าตัวสุดแพงในพรีเมียร์ลีก และไม่แน่ว่า กองกลางจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค นามว่า เดนิส ซากาเรีย อาจเดินตามรอยพวกเขาก็เป็นได้
จากการรายงานของสื่อหลายสำนักต่างระบุว่า มิดฟิลด์ดาวรุ่งจากทีมสิงห์หนุ่ม ได้รับความสนใจจาก เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก่อนหน้านี้ แข้งวัย 23 ปี ยังตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ทีมเบอร์ต้นๆในลีกผู้ดีอีกด้วย
เชื่อว่าหลายคนยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตากับ กองกลางชาวสวิตเซอร์แลนด์เท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปแนะนำและทำความรู้จักกับทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ ซากาเรีย ผ่านบทความชิ้นนี้กัน
กองกลางอนาคตไกล
ซากาเรีย เกิดและเติบโตใน เจนีวา เมืองดังแดนนาฬิกา และฝึกฝนทักษะลูกหนังกับ เซอร์เว็ตต์ สโมสรท้องถิ่น หลังจากนั้นเขาได้สร้างชื่อกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ชุด U-19 ก่อนจะเข้าตาแมวมองของ ยัง บอยส์ สโมสรดังในบ้านเกิด จนได้ย้ายไปร่วมทีมในวัย 18 ปี เมื่อปี 2015
เขากลายเป็นกองกลางคนสำคัญของทีมอย่างรวดเร็ว โดยได้ลงสนามถึง 67 นัดตลอดช่วง 2 ฤดูกาล คว้าอันดับ 2 ของลีก เป็นรองแค่ เอฟซี บาเซิล ผู้คว้าแชมป์ลีกได้ 8 สมัยติดเท่านั้น
ในปี 2017 ซากาเรีย ได้ย้ายไปเล่นนอกบ้านเกิดครั้งแรกกับ กลัดบัค ซึ่งเป็นที่ที่มีสร้างชื่อเสียงในฐานะดาวรุ่งน่าจับตามองของบุนเดสลีก้า เยอรมัน มายกมาย ไม่ว่าจะเป็น มาร์ค อังเดร แตร์ สเตเก้น, มิคาเอล กุยซองส์, มาห์มูด ดาฮูด หรือ มาร์คัส ตูราม ที่กำลังเนื้อหอมในช่วงปีที่ผ่านมา
ในเส้นทางทีมชาติ เขาประเดิมชุดใหญ่ทีมนาฬิกาด้วยวัยเพียง 19 ปี ซึ่งเป็นเวลาไม่นานหลังจากที่เขาย้ายไปค้าแข้งในเมืองเบียร์ พร้อมกับลงเล่นไป 61 ในลีกจาก 2 ฤดูกาลแรกกับทีมสิงห์หนุ่ม
ซากาเรีย พัฒนาขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และน่าประทับใจมากๆในปีที่ผ่านมา เมื่อพา กลัดบัค กลายเป็นทีมม้ามืดที่ก้าวขึ้นมารั้งอันดับบนหัวตารางลีกสูงสุดของเยอรมันตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึง กลางเดือนธันวาคม แม้จะฟอร์มแผ่วไป แต่ท้ายที่สุดก็สามารถจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ได้
ขณะที่ชื่อของเขาเป็นซุบซิบในข่าวตลาดนักเตะ แข้งวัย 23 ปี ยังไม่ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลใหม่นี้เลย และอาจหายหน้าไปอีกซักพัก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
มากกว่าแค่ตัวรับ
เขาถูกเปรียบเทียบกับ ซีเนดีน ซีดาน, โทนี่ โครส หรือ มิเชล พลาตินี่ รวมถึง พอล ป็อกบา และ พาทริค วิเอร่า ซึ่งเขายินดีกับ 2 รายหลังมากๆ แต่ก็ยากที่จะชี้ชัดว่า ซากาเรีย เป็นกองกลางประเภทไหนกันแน่ เมื่อดูจากรายชื่อแข้งดังๆที่นำมาเปรียบเทียบกับเขา
“ผมเคยถูกเปรียบเทียบกับ วิเอร่า และ ป็อกบา 2 นักเตะที่ผมเคารพมากๆ และเห็นเขาเป็นต้นแบบด้วย เมื่อผมเห็นวีดีโอของเขา ผมก็คิดว่าผมอยากทำให้ได้แบบนั้น” ซากาเรีย กล่าว
บ่อยครั้งที่แข้งแดนนาฬิกาถูกมองว่าเป็น กองกลางตัวรับ ซึ่งจะยืนตำแหน่งต่ำทั้งในสโมสรและทีมชาติ โดยบ่อยครั้งเขามักจะเล่นร่วมกับ กรานิต ชาก้า ในทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ของ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช
แต่ในขณะที่หลายคนมองถึงนั้น เขากลับมีความคล่องตัวและทักษะไหวพริบมากกว่าตัวตัดเกมทั่วๆไป และมีการอ่านเกมที่ดี คล้ายคลึงกับกองกลางชั้นยอดหลายๆคน
นอกจากนี้ ซากาเรีย ยังมีความคล่องแคล่วและร่างกายที่แข็งแกร่งสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการคุมแดนกลาง และจุดนี้ทำให้บางคนมองว่าเขาดูคล้ายกับ วิเอร่า มากที่สุด
ซากาเรีย มีค่าเฉลี่ยการเข้าปะทะ 2.1 ครั้ง และ แย่งบอล 1.6 ครั้ง ต่อเกมในบุนเดสลีก้าฤดูกาลที่แล้ว ร่วมกับค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลสำเร็จ 2 ครั้ง และการจ่ายบอล 38 ครั้ง ด้วยเปอร์เซนต์สำเร็จ 86.7% ถือเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยม ซึ่งบ่งบอกความสามารถที่ครบเครื่อง โดยเขาทำไป 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ ในฤดูกาล 2019-20
คนวงการลูกหนังเมืองเบียร์ซูฮก
ครั้งหนึ่ง ตำนานสวีปเปอร์ทีมชาติเยอรมันอย่าง โลธาร์ มัธเทอุส เปรียบเทียบ ซากาเรีย กองกลางแชมป์โลกทัพอินทรีเหล็กอย่าง โทนี่ โครส ไว้อย่างน่าสนใจ
“ผมดีใจที่ กลัดบัค ค้นพบแข้งฝีเท้าดีอีกคน ด้วยวัยของเขา ตอนนั้นผมเพิ่งได้เล่นนัดแรกกับ โบรุสเซีย เท่านั้นเอง เขาทำให้ผมนึกถึง โทนี่ โครส ในวัยนั้นเลย”
ขณะที่ มาร์โก โรเซ่ กุนซือของทีมสิงหนุ่ม ก็กล่าวถึงดาวรุ่งคนเก่งกับ สกาย เยอรมัน ว่า “เขาเป็นนักเตะที่ครบเครื่องที่ยังสามารถพัฒนาศักยภาพได้อีก เขามีการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยม, ความเข้าใจเกม และยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดกับการพัฒนาฝีเท้าของเขาอีกด้วย”
ทางด้าน กุนเตอร์ เน็ตเซอร์ ตำนานเพลย์เมกเกอร์ของ กลัดบัค ยุค 60 มองว่า ซากาเรีย เป็นมากกว่ากองกลางตัวรับ และมีความสำคัญกับทีมมากกว่าที่หลายคนคาดคิด
“มันเป็นการดูถูก ซากาเรีย เลยนะ (เรียกเขาเป็นกองกลางตัวรับ) เขามีค่าอย่างมากเพราะเขาเล่นเพื่อทีม ผู้เล่นอย่างเขามีส่วนร่วมในความสำเร็จของหลายๆทีม พวกเขาทำงานสกปรกให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ” อดีตแข้งวัย 76 ปีกล่าวกับ บิลด์ สื่อดังเมืองเบียร์
ปิดท้ายด้วย ยานน์ ซอมเมอร์ นายด่านเบอร์หนึ่งของทีมชุดปัจจุบัน ผู้เห็นพัฒนาการของ ซากาเรีย ตั้งแต่วันแรกในถิ่น โบรุสเซีย ปาร์ค ได้อ้างอิง 2 แข้งแห่งยุคเพื่ออธิบายสไตล์การเล่นของ กองกลางชาวสวิต เลยทีเดียว
“ไม่ง่ายเลยนะที่เทียบเขากับยอดแข้งในอดีต แต่เขาก็รวบรวมความสามารถหลายๆอย่างที่ มิเชล พลาตินี่ และ ซีเนอดีน ซีดาน มีไว้ในตัวเอง”
ด้วยความสามารถที่แสดงให้เห็นในช่วง 2-3 ปีทีผ่านมา เชื่อว่า ซากาเรีย จะได้โอกาสย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก หรือทีมใหญ่ในยุโรปแน่นอน ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน หรือ เมื่อไหร่
