เพราะระดับความรุนแรงของ โคโรน่าไวรัส ที่ไม่เท่ากันในแต่ละประเทศ ทำให้แนวทางของฟุตบอลแต่ละลีกจึงแตกต่างกันออกไป และเป็นที่น่าเสียดายมากๆ ที่ลีกชั้นนำของโลกอย่าง ลีก เอิง ฝรั่งเศส ต้องถูกตัดจบเอาแบบดื้อๆ
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่นำห่าง 12 คะแนนถูกยกให้เป็นแชมป์ไปโดยปริยาย มาร์กเซย และ แรนส์ กลายเป็นผู้โชคดีได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนผู้โชคร้ายคือ อาเมียงส์ ที่ต้องตกชั้นทั้งๆ ที่ห่างโซนปลอดภัยแค่ 4 คะแนน
เรื่องนี้บอกได้ว่าทั้ง เห็นใจ และ เข้าใจ ปนๆ กันไป ไม่มีใครอยากให้ลีกถูกโมฆะ แต่ยังไงความปลอดภัยของคนในชาติก็ต้องมาเป็นอันดับแรก
ตามปกติแล้วเมื่อลีกจบฤดูกาลตามทำเนียบต้องมีการจัดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นของธรรมดา งานนี้แม้จะหวดกันไม่ครบโปรแกรม แต่ ณ จำนวน 28-29 ก็มากพอที่จะวัดได้ว่าใครเล่นดี ใครเล่นแย่
ดังนั้น 11 นักเตะยอดเยี่ยมที่เราเลือกมาวันนี้โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บสถิติชื่อดังอย่าง Whoscored เชื่อว่าน่าจะตรงใจใครหลายคนทีเดียว
ผู้รักษาประตู
เปรแดร็ก รายโควิช (แร็งส์)
เหตุผลที่ทำให้ แร็งส์ บินสูงจบท็อปไฟว์ได้ในฤดูกาลนี้ เครดิตเต็มๆ ต้องชมไปที่เกมรับของทีม เพราะเสียไปเพียง 21 ประตู เฉลี่ยแล้วนัดละไม่ถึงลูก ที่สำคัญน้อยที่สุดในลีก เอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาลนี้อีกด้วย
รายโควิช ปีนี้ถือว่าฟอร์มเฉียบมากๆ ลงสนามไปทั้งหมด 27 แมตช์ เก็บคลีนชีตไป 12 นัด และเสียไปเพียง 18 ประตู ที่สำคัญเจ้าตัวเซฟจุดโทษฤดูกาลนี้ได้ถึง 3 จาก 4 หนหลังสุด ด้วยวัยเพียง 24 ปี บอกเลยเนื้อหอมแน่ๆ ซัมเมอร์นี้
แบ็กขวา
ฟาเบียน เซนตอนซ์ (เม็ตซ์)
ตำแหน่งแบ็กขวาน่าจะเป็นตำแหน่งที่เสียงแตกที่สุดแล้ว โดยคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ฮามารี่ ตราโอเร่ ของ แรนส์ ที่เป็นแบ็กจอมบุกมีถึง 5 แอสซิสต์เป็นอาวุธสำคัญที่ดูดีมีเหตุมีผลไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เซนตอนซ์ แบ็กจาก เม็ตซ์ ก็ไม่ได้เป็นรองเลย เขามี 3 แอสซิสต์ในเกมรุก ขณะที่เกมรับก็กินขาดทั้งเข้าสกัด (2.7 ต่อ 2) ตัดบอล (2.1 ต่อ 1.8) และเคลียร์บอล (3 ต่อ 1.8)
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ยูนิส อับเดลฮามิด (แร็งส์)
ปราการหลังจอมเก๋าดีกรีทีมชาติโมร็อกโก อยู่ค้าแข้งกับ แร็งส์ ปีนี้เป็นซีซั่นที่ 3 นับตั้งแต่ย้ายจาก ดิฌง มาเป็นปี 2017 ซึ่งปีนี้เจ้าตัวทำผลงานได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเรื่องของเกมรุกที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดวัดจาก 3 ประตูที่ทำได้ ทั้งๆ ที่ 2 ปีก่อนหน้านี้ยิงได้แค่เม็ดเดียว
อับเดลฮามิด เป็นหัวใจเกมรับที่ทำให้ทีมมีสถิติเกมรับที่เหนียวแน่น อัตราการแย่งบอล ตัดบอล เจ้าตัวติดท็อป 10 กองหลังของ ลีก เอิง แบบชิวๆ ไม่แปลกที่สื่อฝรั่งเศส แทบทุกสำคัญจะเลือกเขาติดทีมยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้
มาร์กินญอส (ปารีสฯ)
เอาจริงๆ สื่อส่วนใหญ่มักจะมองข้ามผลงานของ มาร์กินญอส มาตลอด เวลาเลือกนักเตะยอดเยี่ยมที่ไร เขามักจะเป็นลูกไล่ของ ธิอาโก้ ซิลวา ดาวเตะรุ่นพี่ร่วมชาติและร่วมสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
แต่ถ้าดูจากตัวเลขในฤดูกาลนี้ มาร์กินญอส กินขาด เกมรับมีสถิติการตัดบอล แย่งบอลชนะที่สูงกว่า ขณะที่เกมรุกก็มีประโยชน์มากกว่า เพราะเขายิงไป 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ขณะที่ ธิอาโก้ ซิลวา ไม่มีเลย
แบ็กซ้าย
ฮัสซาเน่ กามาร่า (แร็งส์)
ไม่แปลกใจแต่อย่างใดที่แบ็กซ้ายชาวแกมเบีย จะติดโผทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ เลกิ๊ป สื่อดังของฝรั่งเศส เพราะวัดกันในตำแหน่งนี้พูดตรงๆ หาใครมาเปรียบมวยกับเจ้าตัวได้ยากจริงๆ
อย่างที่รู้ๆ กันคือ แร็งส์ เป็นทีมที่เกมรับดีที่สุดในลีก จุดเด่นของ กามาร่า อยู่ที่การอ่านเกมเจ้าตัวมีสถิติดักตัดบอลได้สูงถึง 2.6 ครั้งต่อเกม นอกจากนี้ยังเติมเกมรุกดียิงได้ถึง 2 ประตู
ปีกขวา
อังเคล ดิ มาเรีย (ปารีสฯ)
แม้วัยจะเข้าสู่เลข 3 แต่ผลงานของ ดิ มาเรีย ก็ยังอยู่ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมเหมือนเคย ฤดูกาลนี้ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า คือลูกรักของ โธมัส ทูเคิ่ล หลังลงเล่นมากถึง 23 เกม สูงที่สุดในทีมเปแอสเช
อดีตดาวเตะของ เรอัล มาดริด คือตัวรุกที่ทรงประสิทธิภาพมากๆ มีส่วนถึง 22 ประตูในซีซั่นนี้ ที่สำคัญยังเป็นท็อปแอสซิสต์ของลีกที่ 14 แอสซิสต์ มากกว่าอันดับสองถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
มิดฟิลด์คู่กลาง
อิดริสซ่า เกเย่ (ปารีสฯ)
แม้ชื่อจะโนเนมไปนิดหากเทียบกับสตาร์รรายอื่นๆ ในทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทว่าอดีตดาวเตะของ เอฟเวอร์ตัน พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของจริง ด้วยการยึดตำแหน่งจริงและลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ
สถิติเวลา อิดริสซ่า เกเย่ ลงสนาม เปแอสเช แพ้แค่ 2 จากทั้งหมด 32 นัดที่เจ้าตัวลงสนามในทุกรายการ ที่สำคัญนี่คือมิดฟิลด์ที่จ่ายบอลได้แม่นยำที่สุดในลีกด้วย หลังส่งบอลเข้าเป้าเฉลี่ยต่อเกมสูงถึง 92.7%
เตชี่ ซาวานิเย่ร์ (มงต์เปลลิเยร์)
ห้องเครื่องวัย 28 ปีเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่มีความครบเครื่อง สมัยอยู่ นีมส์ เมื่อฤดูกาลก่อนก็เคยคว้ารางวัลท็อปแอสซิสต์ของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส หลังทำได้ถึง 14 แอสซิสต์
แม้ปีนี้จำนวนแอสซิสต์จะตกไปเยอะ หลังทำได้แค่ 2 แอสซิสต์ แต่ก็ยังยิงได้ถึง 6 ประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสทองในการลุ้นประตูเฉลี่ย 2 ครั้งต่อนัด สูงเป็นเบอร์ต้นๆ ในตำแหน่งนี้เช่นเดียวกัน
ปีกซ้าย
ดิมิทรี ปาเยต (มาร์กเซย)
จริงๆ ในตำแหน่งปีกซ้าย เนย์มาร์ สตาร์คนดังของ ปารีส ก็เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่น่าสนใจ เพราะมีส่วนถึง 19 ประตู (13 ประตู 6 แอสซิสต์) ทว่าที่ต้องตัดออกเพราะเจ้าตัวลงสนามน้อยไปนิดเพียงแค่ 15 นัด
และคนที่ถูกเลือกมาแทนก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย ดิมิทรี ปาเยต สตาร์วัย 33 ปี ยังคงเป็นขิงแก่ที่จัดจ้าน เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ มาร์กเซย จบรองแชมป์ในซีซั่นนี้ ด้วยจำนวน 9 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ รวมถึงเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึง 8 นัดเลยทีเดียว
กองหน้า
คีลิยัน เอ็มบับเป้ (ปารีสฯ)
ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความสำหรับหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส รายนี้ ที่นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับ โมนาโก เมื่อปี 2015 ก็พัฒนาตัวเองดีขึ้นแทบทุกฤดูกาล อย่างซีซั่นนี้ก็ยิงไปเบาะ 18 ประตูคว้าดาวซัลโวลีก เอิง ไปได้อีกสมัย
วัดค่าสัมประสิทธิ์ เอ็มบับเป้ คือคนที่มีส่วนในการทำประตูมากที่สุดในลีก หลังจัดไปทั้งหมด 23 ประตู (ยิง 18 แอสซิสต์ 5) ไม่แปลกใจแต่อย่างใดเลยที่ เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลา ลีกา สเปน จะมีข่าวว่าอยากได้แทบทุำกฤดูกาล
วิสซัม เบน เยดแดร์ (โมนาโก)
แม้ผลงานของ โมนาโก จะยังอยู่ในนิยามของ “ยักษ์หลับ” เพราะตัดโมฆะหนนี้ก็จบเพียงอันดับ 9 เท่านั้น แต่ถ้าวัดผลงานเฉพาะบุคคลต้องบอกว่า วิสซัม เบน เยดแดร์ คือ “เดอะ แบก” ตัวจริง เสียงจริง
อดีตกองหน้าของ เซบีญ่า มีปีที่ดีมากๆ หลังคัมแบ็กกลับมาเล่นในลีกบ้านเกิด โดยซัดไปทั้งหมด 18 ประตู คิดเป็น 41% ของจำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมยิงได้ เขาพลาดรางวัลดาวซัลโวปีนี้เพียงเพราะยิงจุดโทษมากกว่า เอ็มบับเป้ เท่านั้นเอง