ในช่วงตลาดนักเตะหนาวที่ผ่านมา ลีกอังกฤษนั้นดูแปลกตาไม่คึกคักเหมือนปีก่อนๆที่มักจะดีลช็อคโลกโผล่มาให้เห็นในช่วงวันสุดท้ายเป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆที่นยุโรปก็การซื้อขายที่น่าสนใจหลายรายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วสโมสรจากอังกฤษหรือทีมดังทั่วยุโปรจะไม่ได้เสริมทัพมากมายเท่าช่วงซัมเมอร์ แต่บางคนก็พวกเขาดึงตัวมาร่วมทีมก็นับว่าเป็นการเสริมทัพที่เหมาะสมและคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง
และนี่คือ 9 ดีลสุดคุ้มจาก 5 ลีกใหญ่ในยุโรป ที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสร้างผลกระทบด้านบวกต่อต้นสังกัดใหม่ในทันที
อัลบาโร่ โมราต้า – แอตเลติโก้ มาดริด
ดาวยิงหน้าหล่อชาวสแปนิชตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดแบบชั่วคราวกับทีมในสมัยเยาวชนอย่าง แอตเลติโก้ มาดริด เพื่อต้องการเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง หลังจากกลายร่างเป็นกองหน้าปืนฝืดนับตั้งแต่ย้ายไปเล่นในแดนผู้ดีในปี 2017
ดีลนี้ดูเหมือนจะวินๆทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโมราต้าที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้ไฉไลอีกครั้ง และประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิงไปแล้ว 6 ประตูจาการลงเล่นในลาลีก้า 13 นัด ส่วนทีมตราหมีก็แก้ไขปัญหาในแนวรุกได้ เนื่องจาก ดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าขาโหดของทีมได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้งแถมโดนแบนยาวถึง 8 นัด
แม้จะย้ายมาเล่นกับทีมด้วยสัญญายืมตัวในช่วงตลาดหน้าหนาว แต่ด้วยฟอร์มเช่นนี้ก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่ยอดทีมจากเมืองมาดริดจะยื่นข้อเสนอซื้อขาดโมราต้าจากเชลซีในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้
หวู เล่ย – เอสปันญ่อล
มีรายงานว่าแฟนบอลในจีนกว่า 50 ล้านคนตั้งหน้าตั้งตารอชมเกม ดาร์บี้แคว้นกาตาลันที่ เอสปันญ่อล พบกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าคนดูเกม เอล กลาซิโก้ ถึง 2 เท่า และสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเอสปันญ่อลมีนักเตะที่ชื่อว่า หวู เล่ย อยู่ในทีมนั่นเอง
เมสซี่แห่งแดนมังกร ได้ย้ายมาเป็นนักเตะใหม่ของทีมนกแก้วในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และไม่แปลกใจนักที่หลายคนจะมองว่าดีลนี้เป็นเรื่องของการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มแฟนบอลชาวเอเชียแบบเพียวๆ แต่ตัวของ หวู เล่ย ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขามีดีมากกว่านั้น เมื่อปีกหน้าตี๋กดไปแล้ว 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 13 นัดในลีกแดนกระทิง พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้เข้าตาแฟนบอลต่างแดนพอตัวเลย
บิเซนเต้ อิบอร์ร่า – บียาร์เรอัล
กองกลางมากประสบการณ์ชาวสเปนไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้เลสเตอร์ได้เลยนับตั้งแต่ย้ายไปในปี 2017 ทำให้เขาตัดสินใจหวนกลับมาเล่นในลาลีก้าอีกครั้ง โดยเลือกย้ายมาเล่นให้กับ บียาร์เรอัล ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ในทีมเรือดำน้ำสีเหลือง อิบอร์ร่า ได้จับคู่กับ ซานติ กาซอร์ล่า ในแดนกลาง ซึ่งการเข้ามาของแข้งวัย 31 ปี ทำให้อดีตกองกลางอาร์เซน่อลไม่จำเป็นต้องแบกทีมเพียงลำพังอีกต่อไป และช่วยให้ทีมหนีจากโซนตกชั้นได้ด้วยในปัจจุบัน แม้ว่าจะยังไม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ก็ตาม
คริสตอฟ เปียเท็ค – เอซี มิลาน
หนึ่งในแข้งที่พุ่งพรวดและเฉิดฉายไปทั่ววงการลูกหนังยุโรป, คริสตอฟ เปียเท็คได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมในอิตาลีถึง 2 ทีมแล้วและยังคงความร้อนแรงต่อเนื่อง หลังลุ้นแย่งดาวซัลโวเซเรียอากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดูวาน ซาปาต้า และ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า อยู่ในตอนนี้
หัวหอกชาวโปลซัดไปถึง 13 ประตูกับการลงเล่นให้เจนัว 8 นัดแรก ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงดำในช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาวด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร และกลายเป็นตัวหลักของทีมทันที โดยตอนนี้ซัดไปแล้ว 21 ลูก จากลงเล่น 33 นัดในลีก (ทั้งเจนัวและมิลาน)
ลูคัส ปาเกต้า – เอซี มิลาน
เปียเท็คไม่ใช่นักเตะหน้าใหม่คนเดียวเท่านั้นที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เพราะลูคัส ปาเกต้า ดาวรุ่งมากพรสวรรค์ชาวบราซิลก็สามารถปรับตัวเข้ากับลีกใหม่ได้ทันที และประสานงานกับกองหน้าวัย 23 ปีได้อย่างเข้าขารู้ใจ จนอดไม่ได้ที่ทำให้แฟนบอลมิลานนึกถึงการเล่น กาก้าและเชฟเชนโก้ แบบรางๆ
นอกจากโชว์ฝีเท้าได้อย่างโดดเด่นในสโมสรแล้ว ในช่วงพักเบรคทีมชาติ แข้งวัย 21 ปีก็สามารถเบิกสกอร์แรกในทัพเซเลเซาได้อีกด้วยในเกมที่พบกับ ปานามา ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าฤดูกาลหน้า ปาเกต้าจะเฉิดฉายกับมิลานมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ไทเลอร์ อดัมส์ – ไลป์ซิก
ช่วงเดือนที่ผ่านมาเขาอาจจะหายหน้าหายตาไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ไทเลอร์ อดัมส์พิสูจน์แล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุดในแดนมะกัน หลังจากโบกมือลานิวยอร์ก เร้ด บลูส์ ทีมในบ้านเกิดและย้ายมาร่วมทีม อาร์บี ไลป์ซิก ในตลาดนักเตะเดือนมกราคม
กองกลางตัวรับวัย 20 ปีลงเล่นในบุนเดสลีก้าไปแล้ว 9 นัด และยังไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้เลย แต่นัดที่อดัมส์โดดเด่นมากที่สุดคือเกมที่ช่วยต้นสังกัดถล่ม แฮร์ธ่า เบอร์ลินไป 5-0 ที่โชว์การจ่ายบอลฉีกแนวรับคู่แข่งจากแดนตัวเอง กอ่นที่ ยูซุฟ โพลเซ่น จะทำแฮตทริกสุดสวยให้เกมนั้น
หลุยส์ มูเรียล – ฟิออเรนติน่า
ลาลีก้าดูท่าจะไม่เหมาะกับมูเรียลซะแล้ว เมื่อเขามีสถิติทำประตูในอิตาลีได้ในทุกๆการลงเล่น 3 เกม ซึ่งดีกว่าตอนอยู่สเปนพอสมควรที่ทำประตูได้ทุกๆ 5 เกมหลังจากอยู่กับเซบีย่ามานานเกือบ 2 ปี
ในตอนแรกนั้นไม่ได้มีแค่ ฟิออเรนติน่าที่สนใจในตัว มูเรียล เท่านั้น เพราะ เอซี มิลาน ก็เป็นอีกทีมที่สนใจในฝีเท้าของแข้งวัย 28 ปีคนนี้ แต่เจ้าตัวเลือกที่จะย้ายมาเล่นให้ทีมวิโอล่ามากกว่าและนั่นเป็นการตัดสินที่ถูกต้องมากๆเลยล่ะ
กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียย้ายมาอยู่กับฟิออเรนติน่าแบบยืมตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และระเบิดฟอร์มเก่งทันที หลังยิงได้ 4 ประตูจากการลงเล่น 4 นัดแรก ก่อนจะซัดอีก 4 นัดติดต่อกันให้กับทีมม่วงมหากาฬในเวลาต่อมา
มาริโอ บาโลเตลลี่ – มาร์กเซย
นีซเป็นอีกทีมที่เห็นความยอดเยี่ยมและความห่วยแตกในตัวของ มาริโอ บาร์โลเตลลี่ โดยใน 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ เขาซัดไปถึง 33 ประตูในลีก แต่ต่อมาฟอร์มเขาก็ตกลงไปดื้อๆ ก่อนที่ปาทริค วิเอร่า กุนซือของทีมจะขับไสไล่ส่งให้พ้นทีมในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลังจากยกเลิกสัญญากับทีม กองหน้าชาวอิตาเลี่ยนก็ไม่รอช้าย้ายไปร่วมทีมมาร์กเซยทันที ซึ่งประจวบเหมาะพอดีกับโอเอ็มประสบปัญหาแนวรุกไร้ประสิทธืภาพในการจบสกอร์มาตั้งแต่ต้นฤดูกาล เขาได้ขจัดปัญหากวนใจเหล่านั้นให้หมดสิ้นจากทีมด้วยการซัดไป 8 ประตูจากลงเล่น 12 นัด และหนึ่งในนั้นคือลูกวอลลเลย์สุดสวยกับแซงต์ เอเตียน ที่บาโลเตลลี่ฉลองประตูด้วยการเซลฟี่ลงในอินสตราแกรมด้วย
เกลสัน มาร์ตินส์ – โมนาโก
การตัดสินย้ายไปร่วมทัพตราหมีของมาร์ตินส์ในซัมเมอร์ที่ผ่านมาดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ เพราะตัวเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่นัดเดียวของเท่านั้นภายใต้การคุมทีมของดีเอโก้ ซีเมโอเน่
แข้งชาวโปรตุเกสจึงย้ายไปหลบเลียแผลใจกับโมนาโกแบบยืมตัว หลังจากที่เธียร์รี่ อองรี ถูกปลดจากการเป็นกุนซือของทีม เนื่องจากพาทีมสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นอย่างมากในปีนี้
ผลที่ได้คือปีกวัย 23 ปีกลับมาโชว์ฟอร์มที่แฟนบอลคุ้นเคยเหมือนสมัยค้าแข้งกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกครั้ง และช่วยให้โมนาโกเขยิบหนีขึ้นมาโซนอันตรายได้สำเร็จ แม้จะมีแต้มห่างจากทีมที่หนีตกชั้นไม่มากก็ตาม
