สโมสรชั้นนำของยุโรปหลายทีมในปัจจุบันล้วนมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขากล้าที่จะลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลเพื่อดึงแข้งฝีเท้าที่ดีที่สุดเข้ามาร่วมทีม อย่างไรก็ตามยังมีผู้เล่นศักยภาพสูงอีกหลายคนที่พวกเขาอาจจะมองข้ามไป โดยเฉพาะในแถบเอเชีย ซึ่งไม่แน่ว่านักเตะเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต เชกเช่น ซอน เฮือง มิน ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ที่แจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็เป็นได้ ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสเหมาะเลยทีเดียวกับช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองที่ใกล้จะเปิดอีกครั้งในเดือนมกราคมนี้ หากบรรดาบิ๊กทีมทั้งหลายต่างต้องการกำลังเสริมชั้นดีมาอยู่ในสังกัดของตัวเอง ซึ่งทีมงาน UFA Arena.com ก็ไม่รอช้ารีบเสาะหา 5 แข้งเอเชียที่มีขีดความสามารถมากพอที่สโมสรระดับท็อปของยุโรปควรจะคว้าตัวมาร่วมทีมว่ามีใครหน้าไหนกันบ้าง
ทีมงาน UFA Arena.com ได้ทำการยกเว้นนักเตะที่อยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปในเวลานี้อย่าง ซอน เฮือง มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) ,ทาเคฟุสะ คุโบะ ( เรอัล มาดริด), ฮิโรกิ อาเบะ (บาร์เซโลน่า)
5.อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ (อิหร่าน)
หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของทวีปเอเชีย ซึ่งได้การยอมรับทั้งในและต่างประเทศว่าดีพอที่จะไปเล่นบนแผ่นดินยุโรป อลิเรซ่า เบย์รันวานด์ ถือว่าเป็นดาวเตะที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงไม่กี่ปีผ่านมาแถมยังได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปีของอิหร่านในปี 2019
อลิเรซ่า ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของโลกในอันดับที่ 9 เมื่อปี 2017 อีกทั้งยังครองตำแหน่งนายด่านที่ดีที่สุดของ Persian Pro Gulf League 4 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 2014 ถึง 2019 รวมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมที่ดีที่สุดอีกด้วย
ในส่วนของการรับใช้ทีมชาติอิหร่าน บ้านเกิดเมืองนอนของเขา อลิเรซ่าถูกเรียกติดธงครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยโค้ชในยุคนั้นก็คือ คาร์ลอส เคยรอซ เขาเริ่มต้นเบียดตำแหน่งมือหนึ่งกับ เรซ่า ฮากีกี้ จอมหนึบมือดีอีกคนอย่างช้าๆ จนกระทั่งฟุตบอลโลกปี 2018 เจ้าตัวก็ยึดพื้นที่เป็นนายทวารหมายเลข 1 ของทีมในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าว
มือกาววัย 27 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในแมตช์ที่เจอกับเจ้าภาพรัสเซียแถมยังเป็นคีย์แมนคนสำคัญในการพาทีมจบอันดับที่ 3 ของกลุ่มตามหลังทีมแกร่งอย่างสเปนและโปรตุเกสเพียงคะแนนเดียว หน่ำซ้ำยังวาดลวดลายป้องกันลูกจุดโทษของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่ทั้งคู่เสมอกัน 1-1 อีกด้วย
สโมสรที่ควรคว้าตัวไปร่วมทีม ? เชลซี, ลิเวอร์พูล, เอซี มิลาน, อาร์เซน่อล ค่ายไหนที่กำลังมองหาผู้รักษาประตูสำรองดีๆไว้สักคนหนึ่ง ชื่อของ อลิเรซ่า น่าจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว เพราะความสามารถที่เหลือกินของเจ้าตัว คงพอที่จะทำให้กองหลังและโค้ชอุ่นใจได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
4.ฮวาง ฮี-ชาน (เกาหลีใต้)
ซัลซ์บวร์กรู้ซึ้งถึงพรสวรรค์ของฮวาง ฮี-ชาน ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้เล่นเยาวชนของ โพฮัง สตีลเลอส์ จึงรีบจัดการคว้าตัวเขามาร่วมทีมก่อนที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก ตัวรุกแดนกิมจิเดินทางมาถึงยุโรปเมื่อปี 2014 เพื่อจรดปากกาลงเล่นให้กับสโมสรจากลีกออสเตรียในทีมชุดใหญ่
ในตอนแรกเขาถูกส่งตัวไปให้กับทีมในระดับดิวิชั่น 2 อย่างเอฟซี ไลเฟอริง ยืมตัวไปใช้งาน จนกระทั่งสอดแทรกขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของซัลซ์บวร์กเมื่อปี 2015 ซึ่งฤดูกาลแรกของ ฮวาง เขายังไม่สามารถทำประตูให้กับต้นสังกัดในลีกได้ แต่ปีถัดมาเขาก็เริ่มออกลายด้วยการซัดไปถึง 16 ลูก จาก 35 เกม และในซีซั่น 2017/18 ดาวเตะพลังโสมก็เฉิดฉายอย่างไม่อายใคร ด้วยการพาทีมทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศในถ้วยยูโรป้าลีก ซึ่งถือว่าเป็นหน้าประวัติการณ์ของสโมสรเลยทีเดียว
ฮวางเดินตามรอย ซอน เฮือง มิน เพื่อนร่วมชาติของเขาด้วยการย้ายไปเล่นในลีกเยอรมันกับฮัมบูร์กแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาล 2018/19 และในซีซั่นนี้เขาก็กลับมายังออสเตรียอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่กับต้นสังกัดตัวจริง ซึ่งช่วงเวลาที่น่าจดจำของเขาบนแผ่นดินยุโรปเพิ่งจะเกิดขึ้นในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้ เมื่อเขากลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่เลี้ยงบอลผ่าน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คในรอบ 1 ปีก่อนจะยิงประตูได้
สโมสรที่ควรคว้าตัวไปร่วมทีม ? อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถ้าคุณกำลังมองหานักเตะที่มีความเร็วด้วยสปีดจัดจ้านแซ่บจี๊ดแถมมีทักษะการพาบอลไปกับตัวเองได้ ฮวาง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
3.ซาร์ดาร์ อัซมูน (อิหร่าน)
ซาร์ดาร์ อัซมูนวัย 24 ปีทำประตูให้กับทีมชาติอิหร่านไปแล้ว 32 ลูกจากทั้งหมด 50 นัด นอกจากนี้เขายังซัดได้อีก 23 ประตู ใน 40 เกมของฤดูกาลที่แล้วรวมทั้งอีกครึ่งซีซั่นนี้ เขาถูกนำไปเปรียบกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และอาลี ดาอี อีกหนึ่งตำนานของทีมชาติอิหร่าน อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมเขายังไม่ได้ไปค้าแข้งในยุโรป นอกเหนือจากที่รัสเซีย
รูบิน คาซานสโมสรในลีกรัสเซียเป็นผู้นำตัวอัซมุนจากเซปาฮานทีมในบ้านเกิดของเขาเข้ามาเล่นบนแผ่นดินยุโรปเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 จากนั้นด้วยวัยเพียง 17 ปีเขาก็กลายเป็นนักเตะอิหร่านคนแรกที่ได้ลงเล่นในระดับลีกสูงสุดของแดนหมีขาว นอกจากนี้เจ้าตัวยังปฏิเสธความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศตัวเองอย่างเอสเตกฮลัลและเปอร์เซโปลิส
อัซมุนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรปครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2013 หลังจากนั้นสโมสรร่วมลีกอย่างรอสตอฟ ก็ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงกลางฤดูกาล 2014/15 และขายเขากลับมายังเจ้าของเดิมเมื่อปี 2017 แต่ดีลการย้ายตัวครั้งใหญ่ที่สุดของเขาเกิดขึ้นในเดือนมกราคมปี 2019 เมื่อเซนิตเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก กระชากตัวเขาไปร่วมทัพ ต่อด้วยการลงเล่นในถ้วยเอเอฟซี เอเชียนคัพ
และนับตั้งแต่นั้นมากองหน้าวัย 24 ปีก็ยิงประตูอย่างสนุกสนาน เขาซัดไปถึง 12 ประตูจาก 16 เกมในลีกเพียงแค่ครึ่งฤดูกาลแรกของปี 2019 ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีบทบาทสำคัญสำหรับการยิงประตูในถ้วยยุโรปอย่างยูฟ่ายูโรป้าลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
สโมสรที่ควรคว้าตัวไปร่วมทีม ? อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, เชลซี ด้วยประสิทธิภาพการถล่มประตูแบบจับต้องได้ อัซมุนจึงเหมาะมากหากสโมสรใดต้องการกองหน้าเอาไว้เป็นตัวซัพพอร์ตสักคน เพราะเขาพิสูจน์แล้วว่าสามารถเล่นบนแผ่นดินยุโรปได้
2.โชยะ นากาจิมะ (ญี่ปุ่น)
สโมสรปอร์ติโมเนนเซ่ในลีกโปรตุเกสตัดสินใจคว้าตัวแข้งโนเนมอย่าง โชยะ นากาจิมะ เข้ามาร่วมทีมเมื่อปี 2017 โดยในช่วงแรกปีกจากแดนซามูไรถูกยืมตัวมาก่อนแต่หลังจากโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สโมสรจากแดนฝอยทองทีมนี้ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขาแบบถาวร
6 เดือนในการทำสัญญากันแบบผูกขาดกับปอร์ติโมเนนเซ่ นาคาจิมะได้รับการจับตามองจากสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและปารีสแซงต์แชร์กแมง อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคมปี 2019 แข้งแดนปลาดิบกลับย้ายไปอยู่กับเลคห์วิย่าสโมสรในลีกกาตาร์แบบมีเงื่อนงำ โดยมีข่าวตามหลังมาว่าเปแอสเชกำลังให้ความสนใจ
ทว่าไม่นานนากาจิม่าก็บินกลับมาเล่นในทวีปยุโรปอีกครั้งกับลีกโปรตุเกสเป็นคำรบสอง ซึ่งคราวนี้เจ้าตัวได้เซ็นสัญญากับสโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างเอฟซี ปอร์โต้ถึง 5 ปีเต็มโดยมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 80 ล้านยูโรหากมีการปล่อยตัวออกจากทีมในอนาคต
แม้จะเริ่มต้นอย่างช้าๆในถิ่นเอสตาดิโอ โด ดราเกา แต่ด้วยพรสรรค์ที่แฝงเร้นอยู่ในตัวของนากาจิม่า ดาวเตะยุ่นวัย 25 ปีเริ่มแสดงศักยภาพและทักษะอันเหลือร้ายออกมาทีละนิด โดยเขาสามารถเล่นได้ทั้งตัวรุกริมเส้นหรือแม้กระทั่งเพลย์เมกเกอร์อยู่ด้านหลังศูนย์หน้า นอกจากนี้เขายังยิงและจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้อีกด้วย ซึ่งเขาก็โชว์ให้เห็นมาแล้วระหว่างปีครึ่งกับปอร์ติโมเนนเซ่
สโมสรที่ควรคว้าตัวไปร่วมทีม ? แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์แชร์กแมง, เอซี มิลาน ความร้ายกาจของนากาจิม่าพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าเขาเป็นตัวสร้างสรรค์เกมชั้นยอดขนาดไหน ซึ่งหากสโมสรบิ๊กเนมรายใดกำลังมองหาตัวรุกที่เล่นได้หลากหลายแบบนี้อยู่ละก็ ดาวเตะจากแดนอาทิตย์อุทัยรายนี้คงจะตอบโจทย์ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามค่าฉีกสัญญาจำนวน 80 ล้านยูโรอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับการย้ายสังกัดของเจ้าตัว
1.ทาคุมิ มินามิโนะ (ญี่ปุ่น)
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 แชมป์เก่าลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเกมนี้หงส์แดงเกือบไม่ชนะ
แมตช์ดังกล่าวลูกทีมของเยอร์เก้นส์ คล็อปป์ เริ่มต้นได้อย่างร้อนแรงด้วยการนำไปก่อนถึง 3 ลูกภายในเวลา 36 นาทีของครึ่งแรก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้สาวกเดอะค็อปต้องตกตะลึงเมื่อสโมสรจากออสเตรียตีตื้นมาเป็น 3-3 แบบช็อคๆ แต่ท้ายที่สุดลิเวอร์พูลก็ชนะ 4-3 ซึ่งหลังจบเกมแฟนบอลคงออกจากสนามพร้อมตั้งคำถามกับชายที่ชื่อทาคูมิ มินามิโน่
การยิงประตูรวมไปถึงแอสซิสต์ในถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ของมินามิโน่ทำให้แข้งจากประเทศญี่ปุ่นถูกยกระดับขึ้นไปอยู่แถวหน้าแบบเต็มตัว อย่างไรก็ตามด้วยสถิติของปีกตัวรุกรายนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในทวีปยุโรปตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
มินามิโน่ทำประตูได้ 10 ลูกหรือมากกว่านั้นในการเล่นบนเวทียุโรปเกือบทุกฤดูกาลยกเว้นปี 2014/15 โดยคาดว่าซีซั่นนี้เขาคงจะทำมันได้อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็ซัดไปแล้ว 8 ประตูจาก 19 นัด นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นว่าทำอะไรได้มากกว่าการล่าตาข่าย เมื่อมีส่วนร่วมกับจำนวนประตูของทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่แอนฟิลด์ช่วงต้นเดือนตุลาคม หลังเขาจ่ายให้อาร์ลิง ฮอลันด์ ตีเสมอ 3-3
สโมสรที่ควรคว้าตัวไปร่วมทีม ? แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจและสายตาอันเฉียบแหลมเรื่องจบสกอร์ มินามิโน่ คงเข้ากันดีกับ 1 ใน 6 สโมสรจากพรีเมียร์ลีก
