ขอมโนแปป! หากฉันเป็น “เอเมรี่”

“เป็นแฟนปืนต้องอดทน!”

 

อารมณ์ของสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ในนาทีนี้คงไม่ต่างจาก วัลภา เมียของ แดง ไบเล่ ใน 2499 อันธพาลครองเมือง

 

เพราะอีกไม่ถึงเดือนดีพรีเมียร์ลีก ก็จะเริ่มเปิดฉากฟาดแข้งฤดูกาล 2019-20 ทว่าการเตรียมทีมของ อาร์เซนอล ไม่ต่างจาก “เรือสำเภา” ที่ออกทะเลแบบไร้จุดหมาย

 

แข้งเก่าก็โละไม่ออก แข้งใหม่ก็ยังไม่มีเกรดดีๆ พาเหรดเข้ามา ลำพังดาวรุ่งอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ วัยเพียง 18 ปี บอกเลยนาทีนี้ไม่ได้ช่วยยกระดับทีมแต่อย่างใด

 

ด้วยความร้อนรนที่ทีมรักไม่เป็นดั่งใจ วันนี้ขออนุญาตสวมวิญญาณจอมมโนขอสิงร่าง อูไน เอเมรี่ หากผู้เขียนมีงบเพียง 40 ล้านปอนด์ จะใช้สอยอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

1.ซื้อ “เทียร์นี่ย์” เสริมแกร่งแบ็กซ้าย

 

เหตุผลหลักๆ ที่ อาร์เซนอล ต้องเล่นในระบบ 3-4-2-1 หรือ 3-4-1-2 ในฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นเพราะ เซอัด โคลาซินัค เป็นวิงแบ็กซ้ายที่เด่นแต่เกมรุก ทว่าเกมรับไม่เอาอ่าว

 

ลำพังจะให้พึ่ง นาโช มอนเรอัล ก็โรยราไปตามสังขาร แถมสัญญาปัจจุบันก็ยังไม่ออฟฟิเชี่ยลว่าต่อเพิ่มไปหรือยัง

 

ดังนั้นเพื่อแท็กติกหลากหลายและเกมรับที่ควรแน่นขึ้น มันจำเป็นที่ต้องมีใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม และชื่อของ คีแรน เทียร์นี่ย์ ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

 

แม้จะมีวัยเพียง 22 ปี แต่ประสบการณ์ถือว่าโชกโชน ลุยมาหมดแล้วทั้งเกมทีมชาติและฟุตบอลถ้วยยุโรป ตอนนี้เรื่องจริง อาร์เซนอล ก็พยายามอยู่ ตัวนักเตะก็มีใจ

 

ถ้าไม่ขี้เหนียวไปเอง ยื่นข้อเสนอเงินผ่อนจนฝ่ายขายต้องควันออกหู ก็ควรจะรีบปิดดีลให้จบๆ ไปเสียที

2.ลืม ซาฮา เอางบที่เหลือคว้า “เฟรเซอร์”

 

แม้ วิลเฟร็ด ซาฮา จะเป็นปีกจอมลีลาที่ถ้าได้มาเสริมแกร่งก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย แต่ด้วยค่าตัวที่ถูกปักป้ายไว้บ้าระห่ำถึง 80 ล้านปอนด์ เอาแค่งบที่ อาร์เซนอล มี ขาซ้ายข้างเดียวยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

 

ด้วยเวลาที่บีบคั่นการเจรจาที่ยืดเยื้อคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับการเตรียมทีม ดังนั้นบอร์ดบริหารของทีม “ปืนใหญ่” ควรตัดใจและเบนหาเป้าหมายอื่นเสียดีกว่า

 

การวนรถกลับไปจีบ ไรอัน เฟรเซอร์ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเป็นไปได้มากที่สุด เพราะสถานการณ์ปัจจุบันตัวนักเตะก็ยังไม่ได้ “เซย์เยส” ขยายสัญญากับทาง บอร์นมัธ เหมือนพร้อมแก้ผ้ารอให้ท่าอยู่แล้ว

 

ด้วยสัญญาที่เหลือแค่ปีเดียวมันบีบให้ “เดอะ เชอร์รี่ส์” ไม่มีทางเลือกที่จะขูดรีดอะไรได้มากมาย หากเจรจาดีๆ สอดไส้โบนัสสวยๆ เชื่อว่าไม่เกิน 20-25 ล้านปอนด์ก็น่าจะปิดดีลได้

 

ชื่อชั้น เฟรเซอร์ อาจจะสู้ ซาฮา ไม่ได้ ลีลาอาจจะไม่จัดจ้านเท่า แต่คุณภาพระดับพริกขี้หนู 10 เม็ด ผลงาน 7 ประตู 14 แอสซิสต์ ยกระดับเกมริมเส้น อาร์เซนอล ได้อย่างแน่นอน

3.ยืม “เรนาโต้ ซานเชซ” หรือ “ดานี่ เซบายอส”

 

ปัญหาการเสีย อารอน แรมซี่ย์ ไปแบบไร้ค่าตัว คือช่องว่างที่ควรจะต้องมีใครเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะมิดฟิลด์ตัวกลางที่เล่นเกมรุกได้ดี เพราะไลน์อัพปัจจุบันทั้ง เกนดูซี่, ชาก้า หรือ ตอร์เรร่า ก็ดูจะเป็นตัวรับหรือตัวคุมเกมมากกว่า

 

นับรวมจากข้อแรกและข้อสองเท่ากับว่าตอนนี้งบประมาณ 40 ล้านปอนด์ของเราหมดแล้ว เรื่องจะไปซื้อใครอีกก็คงหมดหวัง ดังนั้นตัวเลือกที่ช่วยเหลือได้คือการยืมตัว

 

ดานี่ เซบายอส มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ชุดแชมป์ยูโร ยู-21 เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ และเจรจาดีๆ ก็มีโอกาสได้สูง เพราะไม่ได้อยู่ในแผนทำทีมของ เรอัล มาดริด ในระยะสั้น แต่ทางทีม “ราชันชุดขาว” ก็ไม่ได้อยากขายขาด

 

อีกคนที่น่าสนใจคือ เรนาโต้ ซานเชซ ที่อาจจะล้มเหลวกับ สวอนซี แต่ถ้าเจ้าตัวมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นก็อาจจะเรียกฟอร์มเก่งสมัยได้แชมป์ ยูโร 2016 กลับมาก็เป็นได้

 

ที่สำคัญมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส เป็นพวก “บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์” คือเด่นทั้งรุกและรับ ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการเป็นตัวแทนของ แรมซี่ย์ ได้เป็นอย่างดี

 

ตัวนักเตะเองก็กำลังมองหาโอกาสย้ายทีมเพื่อโอกาสลงสนาม แต่ บาเยิร์น ก็ยังรักพี่เสียดายน้อยไม่ได้อยากขาย ดังนั้นถ้าย้ายแบบยืมตัวอีกปีก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

4.ปล่อย “กอส-มุส” หาเพชรในชปช.

 

ปัญหาเกมรับของ อาร์เซนอล ในฤดูกาลที่ผ่านมาในสายตาของแฟนบอล “ปืนโต” คือเรื่องสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขเป็นอันดับแรกเลยด้วยซ้ำ

 

การที่ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ งอแงไม่ยอมไปทัวร์ปรีซีซั่นกับทีม ถ้ามองในแง่บวกก็ชัดเจนว่าควรจะต้องขายทิ้ง เช่นเดียวกับ ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่ผิดพลาดบ่อยก็ไม่น่าได้รับโอกาสอยู่ต่อ

 

2 คนนี้ถ้าขายขาดอาจจะได้ทุนมาต่อชีวิตสัก 10-15 ล้านปอนด์ ซึ่งน่าจะมากพอที่จะไปส่อหาแนวรับคนใหม่มาแทนที่ แต่เกรดพรีเมียร์ลีกดูแล้วคงยาก ในเมื่อ เลวิส ดังก์ กองหลังไบรจ์ตัน ยังมีค่าตัวบ้าพลังถึง 45 ล้านปอนด์

 

ดังนั้นการหาเพชรใน แชมเปี้ยนชิพ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด กองหลังอย่าง อดัม เว็บสเตอร์ จากบริสตอล ซิตี้ หรือ เลียม คูเปอร์ ของลีดส์ ก็ทำฟอร์มได้ดีในปีที่ผ่านมา และค่าตัวก็ไม่น่าจะแพงเกินจริงเท่าไร

 

การที่นักเตะอยู่ลีกต่ำกว่าไม่ได้การันตีว่าจะคุณภาพแย่เสมอไป ดู ร็อบ โฮลดิ้ง เป็นตัวอย่าง จากกกองหลังทีมตกชั้นสู่ลีก วัน ฤดูกาลที่แล้วก่อนเจ็บยังเป็นตัวหลักของ อาร์เซนอล ได้เลย

5.ดึง “สเตอร์ริดจ์” เป็นแบ็คอัพแดนหน้า

 

แม้ อาร์เซนอล จะมีคู่กองหน้าที่จัดจ้านย่านรังสิตอย่าง ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ อยู่แล้ว ทว่าฟุตบอลตลอดทั้งปีจะให้ยิงอยู่แค่ 2 คนดูแล้วคงไม่พอทำการรบ

 

ดังนั้นการหาแบ็คอัพชั้นดีก็เป็นอีกตัวเลือกที่ควรจะต้องทำ ยิ่งหลังปิดฤดูกาลทีมตัดสินใจไม่ต่อสัญญามหาเทพในแนวรุกอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค ไปแล้วด้วย ยังไงก็ต้องมีคนมาแทน

 

ดูจากลิสต์นักเตะฟรีเอเยนต์มีอยู่ 2 คนที่เข้าท่าก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ฟอร์มล่าสุดกับ มาร์กเซย ก็ทำได้ดี ส่วนอีกคนก็คือ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่เพิ่งหมดสัญญากับทาง ลิเวอร์พูล

 

ถามใจผู้เขียน 2 คนนี้ถ้าเลือกได้เพียงหนึ่ง สเตอร์ริดจ์ น่าจะตอบโจทย์มากกว่าทั้งในเรื่องของนิสัย ค่าเหนื่อย รวมถึงประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก

 

การยิง 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พูล ยืนยันได้ว่าเขาคือหนึ่งในแข้งคุณภาพ หากทีมสามารถเรียกฟอร์มเก่งรวมถึงรักษาสภาพร่างกายไม่ให้ช้ำเกินไป ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่โอเคเลย