ขอยืดหน่อย! 5 แข้งที่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกก่อนไร้สังกัด

 

ในช่วงตลาดซื้อขายตัวผู้เล่นซัมเมอร์นี้มีผู้เล่นที่ฝีเท้าระดับเกรดเอหมดสัญญากับสโมสรที่ตัวเองสังกัดอยู่เดิมหลายต่อหลายคนอาทิเช่น ดีเอโก้ กัวดิน, อารอน แรมซี่ย์ และ อาเดรียน ราบิโอต์ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ล้วนโดนรวบตัวไปอยู่กับทีมใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีแข้งอีกจำนวนไม่น้อยที่หมดสัญญาแบบเดียวกับพวกที่กล่าวมาแต่ยังไร้วี่แววหางานใหม่ไม่ได้ ราวกับว่าโดนหางเร่คล้ายกับสื่อโทรทัศน์ในบ้านเราหลายช่องที่ปิดตัวลงและโละพนักงานออกเพื่อรักษาสถานะการเงินเอาไว้ 

 

โดยในส่วนที่ทีมงาน UFA Arena.com จะพาเพื่อนๆไปติดตามกันในวันนี้นั้นเป็นผู้เล่นที่เคยสัมผัสกับเหรียญและถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้วทั้งหมดแต่พวกเขายังคงสถานะเป็นผู้เล่นระดับท็อปและยังสามารถเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษได้อย่างสบายเพียงแต่พวกนี้กลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์หรือพวกที่ไม่มีสโมสรอยู่นั่นเอง ซึ่ง 5 คนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะเป็นใครบ้างนั้นแฟนบอลตัวยงสามารถตามไปดูกันได้เลย

 

5.ชินจิ โอกาซากิ

 

ดาวยิงชาวอาทิตย์อุทัยย้ายเข้ามาอยู่กับเลสเตอร์ในปี 2015 ก่อนที่จะคว้าแชมป์ลีกกับทีมได้ทันทีในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวบนแผ่นดินเมืองผู้ดี เขาทำไปได้ 5 ประตูจากการลงเล่นไปทั้งสิ้น 36 นัดในพรีเมียร์ลีกโดยลงตัวจริงไป 28 เกม แม้เขาจะยิงประตูได้ไม่เยอะ แต่ก็มีส่วนช่วยทีมตลอด โดยเฉพาะการวิ่งแบบไม่มีหมด แถมยังคอยประสานงานกับเจมี่ วาร์ดี้เป็นอย่างดีในแดนหน้ากับระบบ 4-4-2

 

ในช่วงตลอด 4 ปีที่อยู่กับสุนัขจิ้งจอก แข้งแดนปลาดิบทำประตูให้ต้นสังกัดไปทั้งหมด 19 ลูกจากทั้งหมด137เกมรวมทุกถ้วยทุกรายการ จนกระทั่งเขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2018/19 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขาได้นำทัพซามูไรหนุ่มญี่ปุ่นทำศึก โคปา อเมริกา 2019ที่บราซิล และจนถึงตอนนี้เขายังหาสโมสรใหม่ไม่ได้เลย

 

ในวัย 33 ปีเขามีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายไปเล่นในลีกของออสเตรเลียแต่อีกทางด้านหนึ่งแอสตัน วิลล่าก็กำลังให้ความสนใจเขาอยู่เช่นกัน 

 

4.แดนนี่ เวลเบ็ค

 

 

ในช่วงเวลา 3  ปีหลังมานี้แดนนี่ เวลเบ็คกลายเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดของทีมชาติอังกฤษเลยทีเดียวเมื่อเขาทำประตูได้ถึง 13 ลูกจากการลงเล่น 29 เกม  อย่างไรก็ตามด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้เหมือนกับว่ามันจะทำลายเส้นทางอาชีพของเขาไปเสียแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุที่ให้เขาไม่มีสัญญาเหลืออีกแล้วกับอาร์เซน่อลในตอนนี้

 

อดีตลูกหม้อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับปีศาจแดงมาแล้วในปี 2012-13 นอกจากนี้ยังมีอีก 7 โทรฟี่ในช่วงระยะเวลาที่อยู่ในถิ่นโอล์ดแทรฟฟอร์ด ส่วนตอนที่เล่นให้ปืนใหญ่ก็ได้ถ้วยเอฟเอ คัพกับทีมไปหนึ่งครั้ง และสำหรับประตูในพรีเมียร์ลีกนั้นเขาทำไปได้เพียง 42 ลูกนับรวมที่เขาเคยเล่นให้ทั้งอาร์เซ่น่อลและซันเดอร์แลนด์

 

 

ด้วยวัย 28 ปีเขาผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกับทั้งยูไนเต็ดและอาร์เซน่อล และมันอาจจะไม่แปลกหากเขากลับมาอยู่ในจุดที่เคยอยู่ เพราะเขายังมีความสามารถที่ยังเล่นในระดับท็อปได้แบบสบาย โดยเฉพาะในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี และถ้าเขาได้ไปอยู่กับทีมระดับกลางๆของทีมในพรีเมียร์ลีก มันจะช่วยยกระดับทีมนั้นขึ้นมาไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

 

 

กาลาตาซารายยักษ์ใหญ่จากตุรกีตกเป็นข่าวว่าอยากได้ดาวยิงชาวอังกฤษรายนี้ไปร่วมทีม แต่คริสตัล พาเลซ,เซาแธมป์ตันและเวสต์แฮมก็กำลังจับตาสถานการณ์ของเวลเบ็คอยู่ไม่ห่างเช่นเดียวกัน

 

3.มาริโอ บาโลเตลลี่

 

เกรียนโอ้เคยค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์สองครั้งทั้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูล แต่ช่วงที่เขาอยู่กับซิตี้จะประสบความสำเร็จมากกว่า โดยเจ้าตัวยิงให้เรือใบไปทั้งสิ้น 30 ประตูจากทั้งหมด 80 เกมและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเอฟเอคัพได้อย่างละสมัย โดยแชมป์ลีกเมื่อปี 2012 ดาวยิงเชื้อสายกาน่ามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์แบปาฏิหาริย์มาครองได้ในนัดสุดท้ายกับ ควีนสปาร์คเรนเจอร์ ร่วมกับดาวยิงอีกคนอย่างเซอร์จิโอ อเกวโร่

 

สำหรับในช่วงที่อยู่กับหงส์แดงนั้นดาวยิงชาวอิตาลีมีฤดูกาลที่ไม่ค่อยดีนัก โดยเขายิงไปได้เพียง 4 ลูกจากการลงสนามไปทั้งหมด 28 เกมก่อนที่จะถูกปล่อยตัวให้เอซี มิลานยืมตัวไปใช้งานแต่ทว่าเจ้ากลับทำผลงานได้ไม่ดี จนกระทั่งถูกปล่อยตัวไปให้นีสแบบฟรีๆในปี2016 หลังจากทีมไม่สามารถรับภาระต่อไปได้

 

บาโลเตลลี่ได้ออกพเนจรการค้าแข้งของเขาอีกครั้งกับนีซที่ดินแดนเมืองน้ำหอมของฝรั่งเศส โดยที่นี่เจ้าตัวยิงได้ถึง 43 ลูกจากการลงเล่นไป 76 นัด แต่แล้วเขาก็ถูกส่งให้โอลิมปิก มาร์เซย์ยืมไปใช้งานในเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนเซ็นสัญญายาวจนจบฤดูกาล2018-19

 

พฤติกรรมและวินัยที่ยากจะเยียวยาของดาวเตะวัย 28 ปีเป็นสิ่งที่เหนี่ยวรั้งชีวิตบนสังเวียนแข้งของเขาไว้ให้ลงเอ่ยกับเรื่องเดิมๆ แต่ก็มีข่าวลือว่าฟิออเรนติน่า คิดอยากจะเสี่ยงกับอดีต Golden Boy คนนี้ นอกจากนั้นยังมีข่าวแว่วมาว่าเขาได้รับข้อเสนอจากเวสต์แฮมให้ไปเป็นตัวแทนของมาร์โก อาร์เนาโตวิชอีกด้วย

 

 

 2.ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

 

สเตอร์ริดจ์เคยผ่านการเล่นให้กับทั้งแมนเชสเตอร์ซิตี้,เชลซีและลิเวอร์พูลพร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย ถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้งและเอฟเอคัพอีก 2 โทรฟี่ เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีอัตราการยิงประตูต่อนาทีดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะไร้สังกัดไปแล้วหลังจากหมดสัญญากับลิเวอร์พูล

 

ดาวยิงจอมเซิ้งยิงในซีซั่นแรกของเจ้าตัวกับหงส์แดงไป 35 ลูกจากทั้งสิ้น 51 เกม ต่อมาด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ ประกอบกับการที่เจอเก้น คล็อปป์เข้ามาคุมทีมในช่วงนั้น ทำให้แข้งรายนี้ตกเป็นตัวสำรองของโรแบร์โต้ ฟีร์เมียร์โน่ แต่ถึงอย่างไรแม้จะโดนรุมเร้าจากพิษอาการบาดเจ็บ เขาก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเดอะค็อป ซึ่งถ้านับรวมทั้งหมดที่เขาอยู่กับแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกล่าสุด อดีตเด็กปั้นของเรือใบสีฟ้าทำไปได้ถึง 67 ลูกจากทั้งหมด 160 นัด

 

กองหน้าทีมชาติอังกฤษเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดคนหนึ่งบนแผ่นดินเมืองผู้ดีเลยทีเดียวเขาเพิ่งจะอายุแค่ 29 ปีเท่านั้นและยังสามารถเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้อีกหลายปี  ทั้งนี้เขามีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรทั้ง เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ของสหรัฐฯ ,โบโลญญ่าจากกัลโช่เซเรียอา, เรนเจอร์ในพรีเมียร์ลีกสก็อตแลนด์และสโมสรพรีเมียร์ลีกอีกหลายทีมรวมถึงแอสตันวิลล่า

 

 1.แกรี่ เคฮิลล์

 

เคฮิลล์ ใช้เวลาในการค้าแข้ง 7 ฤดูกาลครึ่งกับเชลซี โดยลงสนามไปให้สิงห์โตน้ำเงินครามไปถึง 290 นัด และคว้าแชมป์กับสโมสรได้ถึง 8 รายการนอกจากนี้ในทุกๆซีซั่นเขาต้องได้โทรฟี่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 ถ้วย

 

ฤดูกาลที่แล้วภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ ซารี่ เคฮิลล์อยู่ในทีมสิงห์บลูแบบว่าแทบที่จะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเลย  ในช่วงเดือนมกราคมสโมสรให้เขาย้ายออกจากทีมได้ แต่เขายังคงอยู่ต่อไปจนได้คว้าแชมป์ยูโรปาลีกกับเพื่อนร่วมทีมจากนั้นกองหลังชาวอังกฤษผู้นี้ก็ต้องออกจากต้นสังกัดไปในที่สุดจริงๆ เพราะสัญญาของเขาหมดลงพอดี

 

ด้วยวัยวัย 33 ปีเขายังคงสามารถเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษได้อย่างสบาย และไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลับไปอยู่กับทีมเดิมของเขาอย่างแอสตัน วิลล่า หลังย้ายออกจากถิ่นวิลล่าปาร์คมา 6 ปี อย่างไรก็ดีทางวิลล่าเพิ่งคว้าเซนเตอร์แบ็คดาวรุ่งมา หมาดๆทำให้โอกาสของเขาน่าจะเป็นไปได้น้อย แต่อีกทางด้านหนึ่งลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมในเดอะแชมเปี้ยนส์ชิพ ก็เป็นที่ชื่นชอบของอดีตกัปตันของเชลซีรายนี้อยู่เช่นกัน