ขอร้องอย่ามองข้าม : 3 ทีมม้ามืดที่น่าจับตาในพรีเมียร์ลีกปีนี้

 

อีกแค่ 3 วัน พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ก็จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการซักที และปีนี้ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ครั้งก่อนๆ เมื่อทีมใหญ่ๆในลีกต่างเสริมทัพแบบจัดหนักจัดเต็มเพื่อป้องกันแชมป์, กลับมาทวงความยิ่งใหญ่หรือกลับไปในที่ที่เขาเคยอยู่

 

ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, สเปอร์ส ที่ซื้อแข้งใหม่มาได้อย่างน่าสนใจ หรือแม้แต่รองแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ที่คว้าแต่แข้งดาวรุ่งมา แต่ขุมกำลังของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบเกือบทุกจุดอยู่แล้ว ส่วนเชลซีก็คงเสริมทัพหนักพอๆกัน ถ้าไม่โดนแบบห้ามซื้อนักเตะซะก่อน

 

แต่ทว่า ทีมที่น่าสนใจในลีกสูงสุดแดนผู้ดีไม่ได้มีแค่ สโมสรท็อปซิกซ์เท่านั้น เพราะมีทีมระดับกลางๆที่เสริมทัพได้หนักไม่แพ้กันเลย ซึ่งมีแววว่าพวกเขาน่าจะทำผลงานได้ดีแบบไม่มีใครคิดในฤดูกาลใหม่นี้ และที่สำคัญพวกเขาอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการแย่งแชมป์ลีกฤดูกาลนี้เลยก็เป็นได้

 

และนี่คือ 3 ทีมม้ามืดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ที่อาจทำให้แฟนบอลตกตะลึงกับผลงานของเขาในการแข่งขันครั้งนี้   

 

 

วูล์ฟแฮมป์ตัน 

 

 

เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นปีที่ทีมหมาป่าจากแดนผู้ดีประสบความสำเร็จมากที่สุดในการลงเล่นฟุตบอลลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษ หลังคว้าอันดับ 7 มาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งๆที่นั่นเป็นปีแรกที่พวกเขากลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ แถมผ่านเข้าไปเล่นในยูโรป้าลีกรอบเพลย์ออฟอีกด้วย

 

เป็นที่รู้กันดีว่าทีมเวิร์คที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ วางไว้ให้วูล์ฟตั้งแต่ที่พวกเขายังเล่นอยู่ในแชมเปี้ยนส์ชิพมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน จนสามารถอยู่รอดในลีกสุดหินได้สบายๆ รวมถึงเกมในบ้านของพวกเขาก็แข็งแกร่งใช้ได้ หลังเก็บชัยไปได้ 10 จาก 19 นัด แม้เกมนอกบ้านของวูล์ฟจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ก็ตาม (ชนะ 6 และแพ้ไปถึง 8 จาก 19 นัด)

 

ในปีนี้ วูล์ฟเสริมทัพได้อย่างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการเซ็นถาวร ราอูล ฆิมิเนซ กองหน้าฟอร์มแรงชาวเม็กซิโก, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์ รวมไปถึงการคว้าดาวโรจน์อย่าง เฆซุส บาเยโฆ่ จากเรอัล มาดริด แบบยืมตัว แต่ที่ฮือฮาที่สุดคงจะเป็นการที่พวกเขาดึงตัว แพทริค คูโตรเน่ จากเอซี มิลานมาได้แบบเซอร์ไพรส์ น่าจะทำให้เกมรุกของทีมหมาป่าฤดูกาลใหม่ดูน่าเกร่งข่ามมากขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน

 

 

แผนที่คาด 3-4-3

 

 

การวางหมากของทีมน่าจะไม่ต่างไปจากฤดูกาลที่แล้วนัก ไม่ว่าจะเป็นแนวรับที่มี โคเนอร์ โคอาดี้,วิลลี่ โบลี่ และไรอัน เบนเน็ตต์ยืนประจำการในแผงหลัง โดยมีจอนนี่ และ แมต โดโรธี่ วิ่งขึ้นลงตลอด 90 นาทีในตำแหน่งวิงแบ็ค

 

แดนกลางที่มี เจา มูตินโญ่ และ รูเบน เนเวส เป็นหัวใจสำคัญไม่เปลี่ยนแปลง และอาจจะมี เดนด็องเกอร์ เป็นตัวสอดแทรกบ้างในบางครั้ง ขณะที่แดนหน้าก็มี ราอูล ฆิมิเนซ เป็นตัวหลักในการล่าตาข่าย โดยที่มี ดีเอโก้ โจต้า และ อดาม่า ตราโอเร่ ช่วยสนับสนุนอีกแรง 

 

เอฟเวอร์ตัน

 

 

ท็อฟฟี่สีน้ำเงินถือว่าทำผลงานได้ต่ำกว่าที่แฟนคาดหวังไว้พอสมควร เนื่องจากเสริมทัพค่อนข้างหนักเอาเรื่อง ทั้งการคว้าตัวริชาร์ลิสัน, แบร์นาร์ด, เยอร์รี่ มีน่า, ลูคัส ดีญ หรือ ยืมตัว อังเดร โกเมส และเคิร์ท ซูม่า มาร่วมทีม กลับช่วยให้ทีมจบอันดับ 8 ในตารางเท่านั้น

 

ทีมของมารโก ซิลวา ประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ 4 จาก 15 นัดเท่านั้น ทำให้อันดับของทีมหล่นไปอยู่กลางตารางอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเร่งฟอร์มเก่งในช่วงท้ายจนเกือบทำอันดับแซงวูล์ฟแฮมป์ตันในช่วงท้ายฤดูกาล

 

จุดแข็งที่พวกเขามีคือคุณภาพที่นักเตะในทีมที่อยู่ในระดับดี ทั้งแนวรุกและรับ แต่อย่างที่บอกไปว่าในช่วงที่ฟอร์มตก อดีตกุนซือวัตฟอร์ดไม่มีนักเตะคนไหนที่สามารถทำผลงานได้น่าพึงพอใจเลย ทำให้ฤดูกาลใหม่นี้กุนซือชาวโปรตุเกสต้องทำการบ้านในจุดนี้มากหลายเท่าตัว

 

แต่ถึงยังไงปีนี้แฟนท็อฟฟี่ก็คงหวังว่าทีมรักของพวกเขาจะทำผลงานได้ดีกว่าเก่า หลังเซ็นขาด โกเมสจากบาร์เซโลน่าได้เรียบร้อย หลังถูกยืมตัวมาและทำผลงานได้สุดยอดในฤดูกาลที่แล้ว แม้จะเสียแข้งคนสำคัญอย่าง อิดริสซ่า กานา เกย์ ให้เปแอชเช ไป แต่พวกเขาก็ได้ ฟาเบียน เดลฟ์ และ ฌอง-ฟิลิปป์ บาแม็ง มาทดแทน และที่ฮือฮามากที่สุดคือดีลคว้า มอยเซ่ คีน กองหน้าอนาคตไกลจากยูเวนตุส ได้อย่างเหนือความคาดหมาย 

 

 

แผนที่คาด 4-2-3-1

 

 

แผนการเล่นที่คาด จอร์แดน พิคฟอร์ค คงรับตำแหน่งนายทวารมือหนึ่งไปแน่นอน หากไม่บาดเจ็บไปซะก่อน ส่วนแผงหลังก็คงไม่เปลี่ยนแปลงมาก ซึ่ง มีน่าอาจได้โอกาสลงเล่นจับคู่กับ ไมเคิล คีน หลังทีมไม่สามารถเจรจาคว้าซูม่ามาแบบถาวรจากเชลซีได้ 

 

เช่นเดียวกับแดนกลางที่ยังดูคุ้นตาไม่จากเดิม ทั้ง ชไนเดอร์ลิน, โกเมส, ซิกูร์ดส์สัน หรือตัวรุกอย่าง ริชาร์ลิสัน และ แบร์นาร์ด แต่ในตำแหน่งหน้าเป้า เราคงได้เห็น มอยเซ่ คีน ออกสตาร์ทตัวจริงก่อนใครแน่นอน

 

 

เวสต์แฮม

 

 

ทีมขุนค้อนจากลอนดอนประสบปัญหาคล้ายๆกับเอฟเวอร์ตันในฤดูกาลที่แล้ว แต่อาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำ หลังพวกเขาเสริมทัพมาแบบจัดหนักเกือบทะลุ 100 ล้านปอนด์ แต่นักเตะใหม่ต่างปรับตัวและประสานงานกันไม่ได้เลย พ่ายไป 4 นัดแรกของฤดูกาล จมบ๋วยของตาราง จนทำให้พวกเขาต้องเสียเวลาพอสมควรในการปรับจูนเคมีต่างๆในเข้ากันอยู่พักใหญ่ 

 

แต่ทันทีที่พวกเขาปรับตัวกันได้แล้ว ทุกอย่างก็ไฉไลเป็นบ้า ไม่ว่าจะเป็น แนวรุกอย่าง ฟิลิปเป้ แอนเดอร์สัน ที่ตอบแทนค่าตัวได้คุ้มค่าทุกเพนนี, อิสซ่า ดิอ็อป ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังดาวรุ่งเบอร์ต้นๆในลีกแดนผู้ดี หรือ ดีแคลน ไรซ์ ที่สร้างชื่อให้ตัวเองกลายเป็นตัวรับอนาคตไกลของทีมชาติอังกฤษ

 

เพราะฉะนั้นเป้าหมายขั้นต่ำของ มานูเอล เปเยกรินี่ คือต้องพาทีมจบอันดับให้สูงกว่าที่ 10 ให้ได้เท่านั้น และถ้าหากพวกเขาคว้าอันดับไปเล่นในฟุตบอลยุโรปได้แฟนขุนค้อนคงพูดเต็มปากว่าทีมรักของเขาประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในฤดูกาลใหม่นี้

 

ซึ่งดูๆไปแล้ว เวสต์แฮมก็มีโอกาสทำได้จริงๆเหมือนกัน เมื่อพวกเขาจัดหนักเสริมทัพไม่แพ้ซัมเมอร์ที่แล้ว ทั้งคว้าตัว ปาโบล ฟอร์นัลส์ เพลย์เมกเกอร์มากทักษะจากบียาร์เรอัล 24 ล้านปอนด์ หรือคว้า เซบาสเตียน อัลแลร์ จากไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ต มาด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ เพื่อแทนที่ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ดาวซัลโวประจำสโมสรหรือฤดูกาลก่อนที่ย้ายไปค้าแข้งในลีกมังกรกับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี

  

 

แผนที่คาด 4-5-1

 

 

สำหรับแผนการเล่นของทีมขุนค้อนในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากในเร็วๆนี้ ตำแหน่งผู้รักษาประตูทาง ฟาเบียนสกี้ น่าจะได้โอกาสก่อนคนอื่นๆ หลังอาเดรียน มือหนึ่งของทีมย้ายไปลิเวอร์พูลเมื่อไม่นานนี้ ส่วนตำแหน่งกองหลังก็ใช้แข้งหนุ่มที่มีความสดใหม่เป็นหลัก โดยมี อิสซ่า ดิอ็อป เป็นดาวเด่น 

 

ขณะที่แดนกลางก็ไม่พ้นที่ มาร์ค โนเบิ้ล กัปตันทีมจอมเก๋าจะจับคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ คู่หูต่างวัย เพื่อปัดกวาดเกมรุกของคู่แข่ง ตัวรุกทั้ง 3 คน แอนเดอร์สันน่าจะได้ประจำการทีมขวาเหมือนเคย เช่นเดียวกับ มานูเอล ลานซินี่ ที่ได้กลับมาเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักหลังปิดเทอมยาวไปในปีก่อน และทางขวา ฟอร์นัลส์ แข้งใหม่ประจำทีมน่าจะได้โอกาสโชว์ฝีเท้าก่อนใครในตำแหน่งนี้

 

 สุดท้ายในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เปเยกรินี่น่าจะเลือก เซบาสเตียน อัลแลร์ กองหน้าจอมแกร่ง เป็นตัวจริง เหนือกองหน้าคนอื่นๆในทีม