ขอเวลาหน่อย! 7แข้งดาวดับปีแรก ก่อนผงาดบนเวทีพรีเมียร์ลีก

 

ฟุตบอลอังกฤษ ลีกที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดหินที่ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนก็ต้องมาลุ้นกับการปรับตัวกับฟุตบอลที่นี้ แน่นอนว่ามีนัก

เตะจำนวนไม่น้อยที่ย้ายมาด้วยความหวังที่จะแจ้งเกิด และระเบิดฟอร์มบนเวทีลูกหนังที่ฮอตฮิตที่สุด แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะปรับตัว

ไม่ได้ ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีตัวอย่างให้เห็นอย่าง เฟร็ด กองกลางจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ค่าตัวสูงแต่โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

อย่างไรก็ตามเพียงฤดูกาลแรก เพียงอย่างเดียวไม่สามารถบอกได้ว่านักเตะคนนี้รอดหรือไม่ เพราะก็มีนักเตะบางคนที่ในปีแรกที่มา

ถึงเกาะอังกฤษ พวกเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้เลย และต้องรอถึงฤดูกาลที่สอง กว่าที่จะสามารถระเบิดฟอร์มออกมาอย่าง

กับคนละคน แถมบางคนถึงขั้นก้าวไปเป็นตำนานเลยก็มี

 

วันนี้ UFA ARENA จะขอนำเสนอเหล่านักเตะดาวดับในปีแรกที่มาค้าแข้งบนพรีเมียร์ลีก ก่อนเค้นฟอร์มเทพในฤดูกาลที่สอง

 

ปาทริซ เอวร่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

การเข้ามาของดาวเตะชาวฝรั่งเศสในช่วงตลาดหน้าหนาว ปี 2006 ด้วยค่าตัว 5.5ล้านปอนด์ ในเวลานั้นสร้างความฮือฮาให้กับแฟน

ปีศาจแดงไม่น้อย เพราะ เอวร่า ในวัย 24ปี มีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมโมนาโก และติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว 5นัด ด้วยความที่เขาเป็น

นักเตะที่มีจุดเด่นเรื่องการเติมเกมรุก และความทุ่มเท บวกกับในเวลานั้น เจ้าตัวได้เข้ามาในฐานะคนที่จะมาอุดช่องโหว่ของ กาเบรี

ยล ไฮน์เซ่ ที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ เอวร่าได้รับความคาดหวังจากแฟนบอล รวมไปถึงตัวป๋าเฟอร์กี้เองก็เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลแรกของ เอวร่า ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นไปได้ไม่ค่อยราบรื่นนัก โดยในนัดเปิดตัวกับทีมก็ประเดิมด้วย

ความพ่ายแพ้ต่ออริร่วมเมืองอย่าง แมนฯซิตี้ 3-1 แถมในช่วงหลังๆ เฟอร์กูสัน ยังจับ มิคาเอล ซิลแวสต์ ที่เอาไปเล่นปราการหลัง กลับ

มาเป็นแบ๊คซ้ายแทนซะอีก ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังทำให้เขาหลุดออกจากทัพตราไก่ชุดฟุตบอลโลกปี 2006

 

แต่ในฤดูกาลที่สองของแข้งเลือดน้ำหอม ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขากลายเป็นตัวเลือกแรกของแผงแบ๊คโฟร์ ในตำแหน่ง

แบ๊คซ้าย และได้ก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของแมนฯยูอย่างเต็มตัว ก่อนจะออกไปค้าแข้งกับยูเวนตุสในปี 2014ต่อไป

 

มิคาเอล เอสเซียง (เชลซี)

 

 

เอสเซียงถือเป็นสุดยอดดีลที่เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยในยุคที่เชลซีพึ่งพาแต่ของฟรี ด้วยการที่ทัพสิงห์บลูยอมหอบเงินกว่า 24.4ล้าน

ปอนด์ ไปสู่ขอตัวแข้งรายนี้มาจากลียง แต่ในช่วงปีแรกของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ เจ้าตัวไม่ได้แสดงความเป็นนักเตะกองกลาง

ที่มีจุดเด่นด้านความแข็งแกร่งเหมือนที่เคยเป็นมาเลย

 

เอสเซียงได้ลงสนามรับใช้ทีมครั้งแรกในเกมกับอาร์เซน่อล ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง และเป็นการเปิดตัวที่สวยหรู

ด้วยการคว้าชัยไปได้ 1-0 ซึ่งหลังจากนั้นเขาได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมกับ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน และยังได้ลงสนามในฐานะ

ตัวแทนของ โคล้ด มาเกเลเล ที่มีอาการบาดเจ็บ ในเกมกับ ซันเดอร์แลนด์อีกด้วย แน่นอนว่าผู้จัดการทีมในขณะนั้นอย่าง โชเซ่ มูริน

โญ่ ตั้งความหวังไว้กับเขามากถึงขัดดรอป เอดืร์ กวืดยอนแซน ออกเพื่อเปิดทางให้แข้งชาวกาน่า

 

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลแรกดาวเตะจากลียงไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของใครต่อใครได้เลย แต่เมื่อได้ปรับตัวกับฟุตบอล

อังกฤษ ในฤดูกาลที่สอง ฟอร์มของเขาก็เปรี้ยงปร้างขึ้นมา และมีส่วนกับการยิงประตูช่วยทีมหลายครั้ง โชคร้ายที่เขาเจออาการบาด

เจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง จนไปได้ไม่สุดกับ เชลซี แต่ก็ถือเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในช่วงเวลานึงเลยทีเดียว

 

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (เวสต์แฮม/ลิเวอร์พูล)

 

 

ในช่วงปี 2006 ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นกองกลางที่ถูกจับตามองมากที่สุดในตอนนั้น และเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมใหญ่ทั่วยุโรป

ก่อนที่จะเป็น เวสต์แฮม ที่คว้าตัวเขา และเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง คาร์ลอส เตเวซ เข้ามาสู่เวทีพรีเมียร์ลีกแบบแพ๊คคู่ในฤดูกาล 2006/07

แต่ก็ลงเล่นให้กับทีมได้ไปเพียงแค่ 7นัด รวมทุกรายการ ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลเดียวกัน

 

การย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ ทำให้แข้งชาวอาร์เจนไตน์ต้องเจอการแข่งขันที่หนักหน่วง เมื่อต้องมาเล่นเคียงข้างกับยอดกองกลาง

อย่าง ชาบี อลอนโซ่ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลังจากผ่านฤดูกาลแรกบนเกาะอังกฤษอย่างยากลำบากกับทั้งสองสโมสร ในฤดูกาล

ถัดมา มาสเคราโน่ ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และค่อยๆได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น จนถึงคราวที่ ชาบี อลอนโซ่ ออกจากทีม

ไปอยู่กับ ราชันชุดขาวในปี 2009/10 เขาก็ได้ขึ้นมาเป็นตัวจริงแบบเต็มที่ จนบาร์เซโลน่า มาดึงตัวเขาไปในฤดูกาล 2010/11

 

เควิน ปรินซ์-บัวเต็ง (สเปอร์ส/พอร์ตสมัท)

 

 

ดาวเตะชาวกาน่า คงจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางสเปอร์สใช้ตัดสินใจในการปลด แฮรี่ เร้ดเนปป์ ออกจากตำแหน่งกุนซือในปี 2012

เนื่องจากเขาถือเป็นนักเตะที่ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสรชื่นชอบ ด้วยความเป็นนักเตะกลางรุกสุดแข็งแกร่ง แต่ทางกุนซือเลือดผู้ดี

กลับไม่ค่อยเลือกใช้งาน แถมยังปล่อยตัวไปให้กับดอร์ทมุนด์ยืมตัวในปี 2008/09 ก่อนจะเลือกขายต่อไปให้กับ พอร์ตสมัท ในราคา

เพียง 4ล้านปอนด์เท่านั้น

 

การได้ตัวของ บัวเต็ง มาทำให้ พอร์ตสมัท เหมือนได้แจ๊คพ็อตชิ้นใหญ่ เพราะทันทีที่เขามาถึงถิ่นฟลาตตัน พาร์ค เจ้าตัวก็กลายเป็น

ตัวหลักและสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่ดันมาเจออาการเจ็บเล่นงานเสียก่อนจะไปได้สุดทางบนเวทีพรีเมียร์

ลีก และด้วยปัญหาการเงินของต้นสังกัด ทำให้เขาต้องจำใจออกจากทีมไป และยังคงมีฟอร์มอันน่าประทับใจจนถึงปัจจุบัน

 

โรแบร์ ปีแรส (อาร์เซน่อล)

 

 

ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของสโมสร ปีแรส ต้องพบเจอกับฤดูกาลแรกอันแสนยากลำบาก เมื่อเขาถูกดึงตัวเข้ามาสู่ทีมในฐานะตัว

ตายตัวแทนของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ที่ย้ายออกไปอยู่กับบาร์เซโลน่า ในเวลานั้น ปีแรสถือเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงอยู่แล้ว ทั้งในทีม

ชาติฝรั่งเศส และในระดับสโมสร แต่การมาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก กลับเป็นอะไรที่ยากสำหรับเขาในการปรับตัวกับสไตล์ฟุตบอล

 

แน่นอนว่าในปีแรก ปีแรสโชว์ฟอร์มแทบไม่ออก แต่ในฤดูกาลที่สอง เหมือนทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ปีแรสกลายเป็นนักเตะ

คนสำคัญในแกนหลักของทัพปืนโต เทียบเท่าสตาร์คนอื่นๆอย่าง ปาทริก วิเอร่า และ เธียร์รี่ อองรี พร้อมพาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้

ในฤดูกาล 2001/02 ที่นับว่าเป็นฤดูกาลที่สองของเจ้าตัว

 

วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

ปราการหลังชาวสวีดิช มีช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่นอยในซีซั่นแรกที่เขาก้าวเข้ามาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2017 แม้ว่าก่อนหน้า

นี้เขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เบนฟิก้า ก็ตาม

 

ลินเดอเลิฟ เข้ามาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยความคาดหวังที่จะมาเสริมแกร่งในแนวรับ ด้วยความที่เป็นกองหลังทักษะดี ที่

สามารถเติมเกมรุกได้ด้วย แถมยังเปิดตัวในเกมลีกด้วยการยิงใส่ลิเวอร์พูลได้อีก แต่หลังจากนั้นผลงานของเจ้าตัวไม่มีอะไรเป็นชิ้น

เป็นอัน และยังมีความผิดพลาดให้เห็นอยู่หลายครั้ง ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือในเกมกับ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ที่เขาเป็นต้นเหตุของ 2ประตูที่

ปีศาจแดงเสียไป จนทีมแพ้ไป 2-1

 

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลที่สองของเขาในเกาะอังกฤษ เจ้าตัวเล่นได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังสามารถโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ๊ค

ขวาได้อีกด้วย ทำให้เขาเรียกฟอร์มเดิมเหมือนที่อยู่กับเบนฟิก้ากลับมาได้อีกครั้ง จนแฟนแมนฯยูไว้ใจถึงขั้นที่ว่ายกขึ้นมาเป็นแคน

ดิตเดตกัปตันทีมของพวกเขาในฤดูกาลถัดไปเลยทีเดียว

 

ดาบิด เดเกอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

หลังจากโชว์ฟอร์มอันสุดยอดกับ แอตเลนติโก มาดริด ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่เพื่อมา

แทนที่ของ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ซึ่งได้ประกาศอำลาทีมไปเมื่อช่วงจบซีซั่น 2010-11 ก็ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 17.8ล้านปอนด์ ดึงตัว

นายทวารอนาคตไกลรายนี้มาสู่ทีม

 

การย้ายเข้ามาค้าแข้งบนเกาะอังกฤษ ทำให้หนุ่มจากแดนกระทิงต้องปรับตัวอย่างมากไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล รวมถึงชีวิตการเป็นอยู่

และภาษา ซึ่งทั้งหมดมันส่งผลต่อฟอร์มในสนามของเขา และยิ่งเป็นการเข้ามาแทนมือกาวระดับตำนาน ก็ทำให้ความกดดันโถมเข้า

มาสู่ตัวของเขาจนฟอร์มการเล่นเละเทะไม่เป็นท่าในฤดูกาลแรก

 

อย่างไรก็ตามด้วยความเชื่อมั่นและฝีมือของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็สามารถเค้นศักยภาพที่มีในตัวนายทวารชาวสเปนรายนี้ออก

มาได้ในสำเร็จฤดูกาลถัดมา และกลายเป็นกำลังสำคัญที่ขาดไม่ได้ของทัพผีแดงในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012/13 จนมา

ถึงปัจจุบัน เดเกอาก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ แถมยังเป็นแคนดิตเดตในตำแหน่งกัปตันแมนฯยู ในฤดูกาลหน้าอีก

ด้วย และแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แฟนแมนฯยู ก็เทใจให้เขาเป็นคนที่เหมาะสมในฐานะกัปตันทีมคนใหม่