ขาลงคืออะไร? : 7 เรื่องสุดเหลือเชื่อที่โรนัลโด้ทำได้หลังอายุ 30

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เพิ่งเป่าเค้กวันเกิดปีที่ 36 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิงให้กับ ยูเวนตุส ไปแล้ว 23 ประตู จากการลงสนาม 25 นัดในฤดูกาลนี้

 

ทุกคนรู้ว่านอกจากพรสวรรค์ทางร่างกายและฝีเท้าที่พระเจ้าประทานมาให้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสยังต่อยอดของขวัญนั้นด้วยการดูแลตัวเองอย่างเพอร์เฟคต์ ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการลูกหนังมานานเกินกว่า 1 ทศวรรษแล้ว

 

ในขณะที่นักฟุตบอลคนอื่นๆเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงหลังอายุ 30 แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ โรนัลโด้ เดินหน้ากอบโกยความสำเร็จมากมายในอาชีพการค้าแข้ง และต่อไปนี้ คือ 7 เรื่องน่าทึ่งที่สตาร์ชาวโปรตุกีสทำได้นับตั้งแต่วัยเข้าเลข 3

 

คว้าแชมป์ UCL 3 สมัยติดต่อกัน

 

โรนัลโด้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง หนแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2007-08 ก่อนที่จะมาบวกเพิ่มอีก 4 สมัยกับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2013-14 , 2015-16 , 2016-17 และ 2017-18 โดย 3 ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นหลังจากที่เขาฉลองวันเกิดปีที่ 30 (5 กุมภาพันธ์ 2015) ไปแล้ว และใน 3 ซีซั่นนั้น ดาวยิงฝอยทองก็กระหน่ำในเกมยุโรปไปถึง 43 ประตู จากการลงสนาม 38 นัด

 

ในขณะที่นักเตะชื่อดังหลายคนทำได้แค่จินตนาการภาพตัวเองคว้าแชมป์ UCL สักครั้ง แต่ โรนัลโด้ ได้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์ไปถึง 3 ครั้ง ในวัยที่ถูกมองว่าเป็นช่วงขาลงของอาชีพการค้าแข้ง

 

 

สร้างสถิติวิ่งเร็วสุดในฟุตบอลโลก

 

แม้จะเดินทางไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ด้วยวัย 33 ปี แต่ โรนัลโด้ ก็กลับบ้านในฐานะนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในการแข่งขัน ร่วมกับกองหน้าทีมชาติโครเอเชียอย่าง อันเต้ เรบิช หลังจากเขาทำความเร็วไปถึง 34 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเกมเปิดสนามที่ดวลกับทีมชาติสเปน

 

แต่ที่น่าเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า คือการที่เจ้าพ่อลมกรดจาก คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดันไม่ติดแม้กระทั่ง 20 อันดับแรกซะอย่างนั้น

 

ยิงได้ 300 ประตู

 

สำหรับกองหน้าส่วนใหญ่ การยิงได้ถึง 300 ประตูในอาชีพการค้าแข้งถือเป็นอะไรที่สามารถเอาไปคุยโม้ได้แล้ว และสำหรับ โรนัลโด้ เขาเพิ่งซัดลูกที่ 300 ให้กับตัวเองในเกมที่พบกับ โรม่า เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ว่า… นั่นเริ่มนับจากตอนที่อดีตดาวเตะปีศาจแดงอายุครบ 30 ปีบริบูรณ์นะ

 

หากเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าสู่เลข 3 โรนัลโด้ ยิงได้ 463 ประตู จากการลงสนาม 718 นัด หรือหมายความว่าเขาสังหารไปแล้วทั้งหมด 763 ประตู จากการลงสนาม 1,045 นัด นับตั้งแต่เทิร์นโปรขึ้นมา

 

ชนะบัลลงดอร์ 2 สมัย

 

2008 , 2013 , 2014 , 2016 และ 2017 คือ 5 ปีที่ โรนัลโด้ เป็นผู้ชนะรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่ง 2 ครั้งหลังสุด เกิดขึ้นในตอนที่เขามีอายุ 31 และ 32 ปีตามลำดับ โดยในปี 2016 ที่กองหน้าชาวโปรตุกีสได้ลูกบอลทองคำมาครอง เป็นช่วงเวลา 12 เดือนที่เขาคว้าทั้งแชมป์ UCL กับราชันชุดขาว และแชมป์ยูโรกับทีมชาติโปรตุเกส

 

ปี 2016 : 1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (745 คะแนน) 2.ลิโอเนล เมสซี่ (316 คะแนน) 3.อองตวน กรีซมันน์ (198 คะแนน)

ปี 2017 : 1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (946 คะแนน) 2.ลิโอเนล เมสซี่ (670 คะแนน) 3.เนย์มาร์ (361 คะแนน)

 

 

2 นัด 8 ประตู !

 

ในเดือนกันยายนปี 2015 โรนัลโด้ ทำให้คู่แข่งที่เผชิญหน้าดูเหมือนเป็นเพียงบอทระดับ Beginner เมื่อเขารัวยิงไปถึง 8 ประตู ในระยะเวลาแค่ 180 นาที

 

อดีตเด็กปั้นสปอร์ติ้ง ลิสบอน เหมาคนเดียว 5 ประตูในเกมลาลีก้าที่ เรอัล มาดริด บุกไปยำใหญ่ใส่ เอสปันญ่อล 6-0 ก่อนจะตามมาด้วยการซัดแฮตทริกในเกม UCL ที่ราชันชุดขาวเปิดรังซานติอาโก้ เบร์นาบิวถล่ม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ไป 4-0

 

บินมาโขกใส่ ซามพ์โดเรีย

 

โรนัลโด้ ผลิตประตูที่สวยงามออกมานับไม่ถ้วนจากลูกโหม่ง ไม่ว่าจะเป็นประตูที่โขกใส่ โรม่า ในเกม UCL ปี 2008 หรือประตูที่โขกใส่ต้นสังกัดเก่าอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกม UCL ปี 2013 แต่ที่กล่าวมาทั้งหมด คงไม่มีเหตุการณ์ไหนที่จะตราตรึงไปกว่าประตูที่เกิดขึ้นในเกมกัลโช่ เซเรียอากับ ซามพ์โดเรีย เมื่อปี 2019

 

ดาวยิงเบียงโคเนรี่ในวัย 34 ปี โหม่งทำประตูใส่ ลาซามพ์ ด้วยการกระโดดสูงจากพื้นถึง 71 เซนติเมตร ซึ่งยังไม่เคยมีมนุษย์หน้าไหนทำได้มาก่อนในเวลานั้น ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะเพิ่งมาถูกทำลายลงเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจาก เบวิส มูกาบิ กองหลังของสโมสรมาเธอร์เวลล์ โหม่งทำประตูด้วยการกระโดดสูงจากพื้น 75 เซนติเมตร

 

 

นอกสนามก็ไม่น้อยหน้า

 

เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 โรนัลโด้ กลายเป็นคนแรกของโลกที่มียอดฟอลโล่อินสตาแกรมแตะ 200 ล้านคน ก่อนที่ในอีก 1 ปีต่อมา เขาจะสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วยการเป็นคนแรกของโลกที่มียอดฟอลโล่อินสตาแกรมทะลุ 250 คน โดยในช่วงเวลาที่สตาร์ทีมม้าลายมียอดผู้ติดตาม IG 222 ล้านคน มีการเปิดเผยว่าเขาได้รับค่าตอบแทนในการลงโฆษณาโพสต์ละ 1.17 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดในโลกโดย Forbes ในปี 2016 และ 2017 รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกโดย ESPN ในปี 2016 , 2017 และ 2018 อีกด้วย