ทุกๆ การเริ่มต้นใหม่ ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการได้ทำงานกับคนที่รู้ใจ ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการดึงลูกน้องเก่ามาอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้มีให้เห็นในทุกๆ สายอาชีพไม่เว้นแม้กระทั่งโลกของฟุตบอล
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่มักอยู่แค่ “น้องพลับของสอง” ย้ายตามกันไม่เกิน 2 ทีม แต่จำพวกกุนซือ-นักเตะคู่บุญ เจ้านายไปไหน ผมไปด้วย มันก็มีอยู่จริง
เปิดแฟ้มหาข้อมูลดูแล้ว ก็มีถึง 9 คู่ที่เหมาะสมกับสำนวน “ข้าเก่าเต่าเลี้ยง” หรือคนเก่าคนแก่ที่ร่วมหัวจมท้ายกันจนคุ้นตา
ฮาเมส โรดริเกวซ & คาโล อันเชล็อตติ
กรณีของ ฮาเมส โรดริเกวซ ที่เพิ่งเปิดตัวกับ เอฟเวอร์ตัน คือเคสล่าสุดที่ทำให้เรานึกถึง กุนซือ-นักเตะคู่บุญ เพราะนี่เป็นหนที่ 3 แล้วที่เพลย์เมกเกอร์โคลอมเบีย ได้มาทำงานร่วมกับ คาร์โล อันเชล็อตติ
โดยกุนซืออิตาเลี่ยน คือคนที่นำ ฮาเมส มาอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2014 หลังจากนั้นพอ “อันเช่” ย้ายมาคุม บาเยิร์น ก็จัดการยืม ฮาเมส มาร่วมงานอีกด้วยสัญญายืมตัวหลังเจ้าตัวกลายเป็นแข้งส่วนเกินในยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน
แต่เชื่อหรือไม่ว่าทั้ง 2 ครั้งที่ดึง ฮาเมส มาร่วมทีมจุดจบของ อันเชล็อตติ คือตกงานทั้ง 2 หน ไม่รู้งวดนี้มาเจอกันที่กูดิสัน ปาร์ค จบฤดูกาล เอฟเวอร์ตัน จะมีการเปลี่ยนแปลงหัวเรือใหญ่อีกหรือเปล่า ?
โชเซ่ มูรินโญ่ & ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่
คาร์ัวัลโญ่ นั้นอยู่ ปอร์โต้ อยู่แล้วเมื่อ มูรินโญ่ มาเริ่มต้นคุมทีมในปี 2002 โดยเจ้าตัวกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2004 ก่อนย้ายตามเจ้านายมาอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์
ทั้งคู่สานความสำเร็จกันอย่างมากมายกับยอดทีมจากกรุงลอนดอน จนกระทั่ง มูรินโญ่ โดยไล่ออกในปี 2007 อย่างไรก็ตามหลังกุนซือชาวโปรตุกีส ประสบความสำเร็จกับ อินเตอร์ และโยกไปคุม เรอัล มาดริด ในปี 2010 ก็ไม่ลืมที่จะหนีบ คาร์วัลโญ่ ไปร่วมงานด้วย
ในปี 2012 มูรินโญ่ ได้เผยว่า คาร์วัลโญ่ ไม่เป็นที่ต้องการของทีมอีกต่อไป และเขาได้ย้ายไปอยู่กับ โมนาโก ส่วนเจ้านายอยู่คุมทีมต่ออีก 1 ปีก่อนลมพัดหวนไปคุม เชลซี เป็นคำรบสอง
แฮร์รี่ เรดแนปป์ & นิโก้ ครันชาร์
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโครเอเชีย ย้ายมาอยู่กับ พอร์ทสมัธ ในปี 2006 ภายใต้การคุมทีมของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ ซึ่งที่นี่เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ลงสนามมากถึง 99 เกม แม้ไม่อาจช่วยให้ทีมรอดตกชั้นได้ในปี 2009
เรดแนปป์ ที่โยกไปคุม สเปอร์ส ในปี 2008 ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของ พอร์ทสมัธ บีบซื้อตัว ครันชาร์ มาร่วมงานอีกครั้ง แต่หลังถูก แกเร็ธ เบล แย่งตำแหน่งตัวจริงก็ทำให้เขาถูกขายไปให้กับ ดินาโม เคียฟ แทน
เรื่องราวของ เรดแนปป์ กับ ครันชาร์ ไม่จบกันง่ายๆ หลัง เรดแนปป์ ถูกแต่งตั้งเข้าคุม ควีนส์ปาร์ค ในปี 2012 ซึ่งหนนี้ทั้งคู่ร่วมงานกันได้ 2 ปี และแยกทางออกจากทีม “ทหารเสือราชินี” พร้อมกันในปี 2015
แฮร์รี่ เรดแนปป์ & ปีเตอร์ เคราช์
เรื่องราวของ เคราช์ กับ เรดแนปป์ เรียกว่าบุพเพสันนิวาสก็ว่าได้ เคราช์ ที่อยู่กับ พอร์ทสมัธ อยู่แล้วก่อนที่ เรดแนปป์ จะมาคุมทีมในปี 2002 ทว่าเจ้าตัวก็ถูกขายออกจากทีมไปแบบรวดเร็ว
หลังอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ไม่กี่ปี เคราช์ ก็ย้ายไปอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่ เรดแนปป์ จะมาคุมทีม “นักบุญ” ทำให้คาดกันไปเพียงนิดเดียว แต่ทั้งคู่ก็หวนมาร่วมงานกันอีกครั้งที่ พอร์ทสมัธ ในปี 2008 ซึ่งเป็นหนแรกที่ เรดแนปป์ ซื้อเขามาร่วมทีม
แต่หลังเซ็นสัญญา เคราช์ ไม่กี่เดือน แรดแนปป์ ก็โยกไปคุม สเปอร์ส ซึ่งเขาไม่ลืมที่จะหนีบกองหน้าร่างโย่งตามมาสมทบในซัมเมอร์ต่อมา รวมๆ แล้ว เรดแนปป์ ซื้อ เคราช์ ไปร่วมทีม 2 ครั้ง แต่เคยร่วมงานกันมาแล้ว 3 ถึง 3 สโมสร
แฮร์รี่ เรดแนปป์ & เจอร์เมน เดโฟ
เรื่องราวของ เรดแนปป์ กับการดึงลูกทีมเก่าไปร่วมทีมใหม่ไม่จบง่ายๆ เจอร์เมน เดโฟ เป็นอีกคนที่มีประวัติเกี่ยวข้องกันมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปี 1999 สมัยที่ เรดแนปป์ คุม เวสต์แฮม แม้เวลาส่วนใหญ่จะถูกปล่อยยืมออกจากทีมก็ตาม
ช่วงที่ เรดแนปป์ กลับไปคุม พอร์ทสมัธ เป็นครั้งที่สองในปี 2005 เดโฟ กำลังรุ่งโรจน์อยู่กับ สเปอร์ส ทว่าทั้งคู่ก็หวนกลับมาทำงานร่วมกันจนได้หลัง พอร์ทสมัธ ยอมทุ่มเงิน 7.5 ล้านปอนด์ ดึงมาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2008
ให้หลัง 6 เดือนต่อมา เรดแนปป์ กลับโยกไปคุม สเปอร์ส แทน ซึ่งบอร์ดใหญ่คนใหม่ของ “ไก่เดือยทอง” อ้อนบอร์ดบริหารให้ทุ่มเงินถึง 15.75 ล้านปอนด์ดึง เดโฟ กลับมาเล่นที่ไวท์ ฮาร์ท เลน อีกครั้ง ก่อนร่วมงานกันครั้งสุดท้ายราวๆ 3 ปี
คริสเตียน ปานุชชี่ & ฟาบิโอ คาเปลโล่
ปานุชชี่ ถูก เอซี มิลาน ซื้อตัวมาร่วมทีมในยุคของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ในปี 1993 ซึ่งทั้งคู่ร่วมกันล่าความสำเร็จอย่างมากมายทั้งแชมป์ลีก และยูโรเปี้ยน คัพ ก่อนที่กุนซือหน้าหงิก จะโยกไปคุมทีมใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ในปี 1996
คาเปลโล่ จัดการหนีบ ปานุชชี่ ไปร่วมทีมในเดือนมกราคม 1997 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอิตาเลี่ยน คนแรกของ “ราชันชุดขาว” เท่านั้นไม่พอทั้งคู่มาร่วมงานกันอีกครั้งที่ โรม่า ในปี 2001 และสามารถพาทีมคว้าแชมป เซเรีย อา ได้ด้วย
คาเปลโล่ กับ ปานุชชี่ ไม่ได้ทำงานกันแค่กุนซือกับนักเตะ แต่ในปี 2012 ที่ หน้าหงิก มาคุมทีมชาติรัสเซีย เขาก็ดึงอดีตแนวรับรายนี้มาทำงานเป็นโค้ชของทีมด้วย อยู่กันประมาณ 2-3 ปีก่อนแยกทางกันไป
แบลร์ สเตอร์รร็อค & พอล สเตอร์ร็อค
แบลร์ สเตอร์ร็อค เข้าร่วมกับ ดันดี ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะเยาวชน ในช่วงที่ พอล พ่อของเขาเข้ามาเป็นกุนซือ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในวงการลูกหนังที่จะผลักดันลูกชายตัวเองเริ่มต้นกับทีมที่เขาทำงาน
หลังจากที่ พอล ออกจาก ดันดี ไปคุม พลีมัธ ในปี 2000 แบลร์ ก็ตามรอยพ่อของเขามาอยู่กับสโมสรในปี 2001 ทั้งคู่อยู่ร่วมกัน 3 ปีก่อนที่ พอล จะโยกไปคุมทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
พอล ไม่เคยทิ้งลูกชายของเขาเลย เมื่อต้องโยกมาคุม สวินดอน ในปี 2006 ก็เซ็นสัญญาลูกชายมาร่วมทีมอีกครั้ง เช่นเดียวกับสมัยที่คุม เซาธ์เอ็นด์ ในปี 2010 ซึ่งเป็นหนสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้ร่วมงานกัน รวมๆ แล้วพ่อลูกคู่นี้อยู่ด้วยกันถึง 4 สโมสรเลยทีเดียว
จอห์น แม็คโกเวิร์น & ไบรอัน คลัฟ
แม็คโกเวิร์น เป็นดาวรุ่งของ ฮาร์ทลีพูล ภายใต้การคุมทีมของ ไบรอัน คลัฟ ระหว่างปี 1965-1967 พอ คลัฟ โยกไปคุม ดาร์บี้ เขาก็ซื้อ แม็คโกเวิร์น ไปร่วมทีมในปี 1968 และเช่นเดียวกับตอนคุม ไบรท์ตัน เขาก็พยายามโน้มน้าวให้ แม็คโกเวิร์น มาร่วมทีมกันอีกหน แต่คราวนี้ไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามคุณครูกับศิษย์รักก็มาร่วมงานกันเป็นหนที่ 3 สมัยอยู่ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่ทุกอย่างเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพราะ คลัฟ อยู่คุม ยูงทอง ได้เพียง 44 วันเท่านั้นก็ต้องแยกทางกันไป
หลังตกงานไม่นาน คลัฟ ก็ได้งานใหม่ที่ น็อตติ่งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งเขาก็จัดการเซ็น แม็คโกเวิร์น เข้ามาร่วมทีม คราวนี้ทั้งคู่ทำงานร่วมกันนานถึง 8 ปี พาทีมคว้าแชมป์มากมายรวมถึงแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่ง แม็คโกเวิร์น คือกัปตันทีมด้วย
แพ็ดดี้ เคนนี่ & นีล วอร์น็อค
เป็นอีกหนึ่งคูุ่บุญที่ทำงานร่วมกันแทบทุกสโมสร โดยเริ่มตั้งแต่ บิวรี่ ในปี 1998 หลัง นีล วอร์น็อค ซื้อ แพ็ดดี้ เคนนี มาร่วมทีม ไม่เพียงเท่านั้นหลังไปคุม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในปี 1999 ให้หลัง 3 ปี เคนนี่ ก็ได้ตามเจ้านายเก่าของเขามาเฝ้าเสาให้กับทีม “ดาบคู่”
วอร์น็อค โน้มน้าวให้ เคนนี่ ตามมาร่วมทีมกับเขาเป็นคำรบ 3 ที่ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อยู่ด้วยกัน 2 ปี วอร์น็อค โผล่ไปคุม ลีดส์ ยูไนเต็ด ไม่ถึง 6 เดือนดีก็มาคว้านายทวารรายนี้ไปเฝ้าเสาเป็นสโมสรที่ 4 ที่ร่วมงานกัน
ทั้งคู่เรียกว่าขาดกันไม่ได้ วอร์น็อค และ เคนนี่ มาร่วมงานกันอีกเป็นครั้งที่ 5 กับ ร็อตเธอร์แฮม ในปี 2016 ซึ่งทั้งคู่ก็ออกจากสโมสรในซัมเมอร์ถัดมา และปิดฉากการทำงานกันในฐานะหัวหน้าและลูกน้องไปในทันที
