คนที่ตามหา? : ทำไมฮาแลนด์ถึงเหมาะเป็นหัวหอกเรือใบในยุคเป๊ป

คนที่ตามหา? : ทำไมฮาแลนด์ถึงเหมาะเป็นหัวหอกเรือใบในยุคเป๊ป

และแล้วก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดกัน เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดการบรรลุข้อตกลงคว้า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งฟอร์มแรงจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ

ช่วงปีที่ผ่านมา หอกทีมชาตินอร์เวย์ ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรแต่ทุกอย่างชัดเจนขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อ แมนฯ ซิตี้ บรรลุข้อตกลงกับนักเตะได้เรียบร้อยและมีการตรวจร่างกายเสร็จสิ้นไปแล้ว ก่อนประกาศปิดดีลอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ผ่านมา และจะย้ายมาร่วมทีมหลังจบฤดูกาลในช่วงซัมเมอร์

หลังจากผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเหล่าตัวรุกในทีมมาเล่นในตำแหน่งนี้เป็นว่าเล่นในฤดูกาลนี้ ว่ากันว่านี่คือกองหน้าที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตามหามานาน และอาจจะมองว่าเหมาะสมกับแนวทางการเล่นของทีมมากที่สุดแล้วในเวลานี้

ว่าแต่ทำไม ฮาแลนด์ ถึงเหมาะสมกับการเป็นกองหน้าตัวเป้าของ ‘เรือใบสีฟ้า’ ในมือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า UFA ARENA จะขอพาทุกท่านไปร่วมวิเคราะห์แบบเจาะลึกผ่านบทความชิ้นนี้กัน 

 

ทำไมต้องซิตี้

Erling Haaland: Man City confirm agreement to sign Borussia Dortmund  striker in £51m deal | Football News | Sky Sports

ด้วยฟอร์มการเล่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งช่วงที่แจ้งเกิดกับ เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก หรือ เป็นหอกเบอร์หนึ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไม่แปลกที่ ฮาแลนด์ จะได้รับความสนใจจากสโมสรทั่วยุโรป

ไล่ตั้งแต่ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นรายหลังสุดที่สามารถปิดดีลอย่างเป็นทางการ และคว้าตัวไปร่วมทีมได้สมใจ 

เงินราวๆ 60 ล้านยูโรคือค่าฉีกสัญญาที่ ‘เรือใบสีฟ้า’ จ่ายให้กับ ‘เสือเหลือง’ เพื่อดึงหอกนอร์วีเจี้ยนมาร่วมทีมในซัมเมอร์นี้ ตามที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เหยี่ยวข่าวคนดังรายงาน รวมไปแหล่งข่าวหลายแห่งด้วย

ซึ่งนี่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยสำหรับการดึงนักเตะดาวรุ่งที่มีทั้งพรสวรรค์ และสัญชาตญาณในการทำประตูที่เด็ดขาดเยือกเย็นเกินวัย แม้มีรายงานว่า หอกวัย 21 ปีจะได้รับค่าเหนื่อยถึง 375,000 ปอนด์ เทียบเท่ากับ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ดาวเด่นประจำทีมก็ตาม

เมื่อพิจารณาสิ่งต่างๆแล้ว เชื่อว่าการย้ายครั้งนี้ก็เหมาะสมกับตัวของดาวเตะทีมชาตินอร์เวย์เช่นกัน ทั้งการการันตีความสำเร็จภายใต้กุมบังเหียนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือแห่งยุค ที่กลายเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่น ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ, เอฟเอ คัพ หรือ แชมเปี้ยนส์ลีกที่ทีมผิดหวังมาหลายปีก็ตาม

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ เจ้าตัวเลือกย้ายมาเล่นกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ ก็คือการที่เขามีส่วนผูกพันกับสโมสร เนื่องจาก อัลฟ์ อิงเก้ ผู้เป็นพ่อก็เคยค้าแข้งกับ ซิตี้ แถมในช่วงวัยเด็กเขาก็ใช้ชีวิตในแมนเชสเตอร์ และเชื่อได้ว่าผู้เป็นพ่อก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ลูกชายย้ายไปเล่นให้กับทีมเก่าเช่นกัน

และการมาของ ฮาแลนด์ ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็จะทำให้การโรเตชั่นตำแหน่งกองหน้าตัวหลอกในสโมสรของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนไปได้อย่างแน่นอน

 

บทบาทที่ดูง่ายแต่เล่นยาก

Gabriel Jesus Talks Sergio Aguero Rivalry at Manchester City | Bleacher  Report | Latest News, Videos and Highlights

หากมองกันผิวเผิน การเป็นกองหน้าตัวเป้าใน แมนฯ ซิตี้ ควรจะเป็นบทบาทที่ง่ายที่สุดในฟุตบอล เพราะนี่คือทีมที่มีการครองบอลมากที่สุด, สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งมากสุด และทำประคูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ดังนั้นก็แค่ยืนรอรับบอลและหาทางส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ได้

ทว่าความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และต้องบอกว่าลำบากเอาเรื่อง ซึ่งในตำแหน่งนี้ไม่มีนักเตะคนไหนใน ‘เรือใบสีฟ้า’ เองที่เล่นในบทบาทนี้ได้แบบจริงๆจังๆ 

ทั้ง กาเบรียล เชซุส เองที่มักออกไปด้านข้างเพื่อหาช่องว่าง หรือ แจ็ค กรีลิช ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อถูกโยกมาเล่นตรงกลาง รวมไปถึง เควิน เดอ บรอยน์ ก็เคยถูกจับมาเล่นหลายๆครั้ง

ฟิล โฟเด้น กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ถูกจับมายืนเป็นกองหน้าอยู่บ่อยๆเช่นกัน แต่ก็ดูดีกว่าเมื่อถูกโยกไปเล่นด้านข้างที่พวกเขาถนัด แม้แต่ แบร์นาโด้ ซิลวา ก็ยังถูกจับไปเล่นเป็นหน้าเป้า ทั้งๆที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็รู้ดีแกใจว่านั่นไม่ใช่บทบาทที่เข้ากับดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสนัก

สำหรับทีมอย่าง ซิตี้ แล้ว ช่องว่างในการเข้าทำคือสิ่งที่พวกเขาทำได้บ่อยๆ ทั้งมาจากการเปิดบอลของ เควิน เดอ บรอยน์, การเติมเกมรุกของ เชา คานเซโล่, การวิ่งทำทางของ สเตอร์ลิ่ง หรือการเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษของ อิลคาย กุนโดกัน

ด้วยเหตุนี้ บทบาทของกองหน้าในทีมกวาร์ดิโอล่าบางครั้งอาจรู้สึกเหมือนเป็นตัวล่อตัวหลอกมากกว่า อีกทั้งยังต้องมีความอดทนและใช้สมาธิสูง ในขณะที่กองกลางกำลังเคลื่อนเกมไปมาอย่างสนุกสนาน

 

สัมผัสบอลน้อยไม่ใช่ปัญหา

How Erling Haaland has given Borussia Dortmund a tactical advantage in  attack | Bundesliga

แม้แต่ เซร์คิโอ้ อเกวโร่ ตำนานกองหน้าของสโมสร เองก็พบว่างานนี้ยากจนลำบากใจพอสมควร เขาบอกว่าเคยบ่นกับเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ส่งบอลให้ ซึ่งเขาเคยมีค่าเฉลี่ยสัมผัสบอลต่อเกม 50 ครั้งต่อ 90 นาที ก่อน เป๊ป จะเข้ามา และหลังจากนั้นก็ตกลงต่ำกว่า 40 ครั้งต่อเกมในฤดูกาลต่อๆมา

นั่นต้องใช้การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ เพราะสิ่งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การจบสกอร์เป็นหลัก มากกว่ามีส่วนร่วมในเกม ซึ่ง อเกวโร่ ทำแบบนั้นได้ และผู้เล่นพรีเมียร์ลีกเพียงไม่กี่คนที่ทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึก

อย่างไรก็ตาม เชซุส พบว่าตัวเองอยู่ตรงข้ามกับระดับนั้น ซึ่งทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้มากกว่าใครๆ นับตั้งแต่เขาเดบิวต์กับ ซิตี้ ซึ่งนั่นช่วยอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงหงุดหงิดเมื่อไม่ได้สัมผัสบอลได้ และต้องการมีส่วนร่วมกับทีมในรูปแบบอื่นแทน

ด้าน เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มีทั้งลักษณะนิสัยและความสามารถในการจบสกอร์ที่ทำให้เขาเข้ากับบทบาทนี้ดังกล่าว โดยมีค่าเฉลี่ยสัมผัสบอลเพียง 36.5 ครั้งต่อเกมในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งน้อยกว่าดาวยิงคนอื่นๆพอสมควร นั่นทำให้การมองบอลเคลื่อนไปมารอบๆตัวเขาไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

 

กองหน้าที่ เป๊ป ตามหา

Pep Guardiola gives inside track on Man City striker situation

อย่างไรก็ดี งานของหอกทีมชาตินอร์เวย์จะเปลี่ยนไปเช่นกัน จากเดิมที่ทำประตูในจังหวะสวนกลับสมัยเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยลงกับ แมนฯ ซิตี้ มีเพียง 6 ทีมในพรีเมียร์ลีกที่ทำประตูหลายลูกจากการโต้กลับในฤดูกาลนี้ และซิตี้ก็สร้างโอกาสลักษณะนี้ได้น้อยกว่าทีมระดับท็อปทีมอื่นๆ

แต่คงเป็นเรื่องผิดที่จะสรุปว่า ฮาแลนด์ เน้นพื้นที่ว่างด้านหลังเพื่อทำประตู เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ใช้ร่างกายเป็นตัวกำหนดเกมของเขา แม้จะมีโครงสร้างร่างกายที่น่าอัศจรรย์ก็ตาม แต่เทคนิคต่างหากคือจุดเด่น ซึ่งเขาสามารถจบในพื้นที่แคบๆหรือช่วงเวลาจำกัดได้

อันที่จริง แข้งวัย 21 ปี ทำประตูด้วยการยิงจังหวะเดียวถึง 9 ครั้งใน 8 เกมแรกกับ ดอร์ทมุนด์ บ่งบอกว่าเขาต้องการเวลาเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น และเขาจะได้รับการสนับสนุนระดับคุณภาพคับแก้วที่ซิตี้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ไม่สนว่าพวกเขาจะแตะลูกกี่ครั้ง ตราบใดที่มันเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อทำประตู

แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะคิดว่าการได้ดาวเตะระดับนี้จะทำให้ ซิตี้ ดีขึ้นกว่าเดิมโดยอัตโนมัติ แต่ฟุตบอลมีอะไรมากกว่านั้น 

นั่นเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ อเกวโร่ ช่วงปีท้ายใน เอติฮัด เริ่มพบว่าตัวเองอยู่บนม้านั่งสำรอง ขณะที่ กวาร์ดิโอล่า ยังคงมุ่งเน้นการครอบครองบอลเป็นหลัก ซึ่งสิ่งนั้นทำให้เขาต้องใช้กองกลางเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อทำเกมรุก 

แต่กับ ฮาแลนด์ ทำให้ ซิตี้ ได้กองหน้าระดับโลกมาไว้ในทีม ซึ่มีงอายุยังน้อยพอที่จะปรับตัวและซึมซับสิ่งต่าง แต่ในขณะเดียวกันก็ดีพอที่จะสร้างความแตกต่างได้ 

ที่สำคัญที่สุด เขาต้องการเล่นในแดนหน้า แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฉายแสงได้ในพรีเมียร์ลีก แต่บางทีนี่น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ง่ายที่สุดในการดึงเขาเข้ามาเสริมคมของ กวาร์ดิโอล่า ก็เป็นได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

งานใหญ่เจ้าของใหม่ : 5 ปัญหาที่โบห์ลี่ต้องเร่งแก้ในเชลซี
งานใหญ่เจ้าของใหม่ : 5 ปัญหาที่โบห์ลี่ต้องเร่งแก้ในเชลซี