คนที่ใช่ในเวลาที่ผิด : เวรอน กับความล้มเหลวที่ปีศาจแดง

 

ครั้งหนึ่ง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางเบอร์ต้นๆระดับโลก หลังพา ลาซิโอ เป็นม้ามืดคว้าแชมป์ลีกและบอลถ้วยในปี 2000 ไม่แปลกที่สาวกเร้ด เดวิลล์ จะตื่นเต้นกันยกใหญ่ เมื่อเห็นดีลในฝันนี้เป็นความจริง

 

กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ย้ายมาค้าแข้งกับปีศาจแดงด้วยค่าตัว 28.1 ล้านปอนด์ ในปี 2001 และกลายเป็นนักเตะค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังแดนผู้ดียุคนั้น

 

ยูไนเต็ด เพิ่งความแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ปีติดต่อกัน และการมาของ เวรอน น่าจะช่วยให้พวกเขากลับไปอยู่บนจุดสูงสุดในยุโรปอีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่เรื่องแบบนั้นไม่เกิดขึ้นเลยในช่วงที่ เวรอน ค้าแข้งในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และกลายเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ล้มเหลวกับปีศาจแดง แม้จะสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ก็ตาม 

 

แต่เพราะอะไรกันที่ทำให้เวรอนกลายเป็นแบบนี้?

 

 

แผนใหม่เพื่อแข้งใหม่

 

 

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มักใช้ระบบ 4-4-2 เป็นแผนการเล่นๆหลัก นับตั้งแต่ย้ายมาคุมทีมปีศาจแดง และประสบความสำเร็จกับแผนนี้มานานหลายปี แต่เมื่อ เวรอน เข้ามา ทำให้เฟอร์กี้ต้องการเปลี่ยนไปเล่นเป็นระบบ 4-5-1 แทน

 

ซึ่งช่วงแรกก็เห็นผลลัพธ์ด้านบวกทันตา เพราะ แข้งแดนฟ้าขาว ยิงไป 4 ประตู จาก 8 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก อีกทั้งคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนกันยายนด้วย

 

ด้วยลีลาการพาบอลที่พริ้วไหวน่าดูชม, การจ่ายบอลที่เฉียบคม และเซนส์บอลที่ดี ทำให้เวรอน โดดเด่นสุดๆในช่วงแรกกับการค้าแข้งในแมนเชสเตอร์ 

 

“ผมถูกแบนในเกมๆแรกที่ เวรอน ลงเล่น ซึ่งเป็นการพบกับ เอฟเวอร์ตัน และนั่งอยู่บนสแตนด์” นิ้กกี้ บัตต์ กล่าวกับ ยูไนเต็ด วี สแตนด์ ในปี 2012 “เขาสุดยอดมากๆ ดีมากจนผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้เล่นให้ยูไนเต็ดอีกแล้ว”

 

 

ฟอร์มแผ่วเพราะสไตล์บอลผู้ดี

 

 

หลังจากที่เริ่มต้นได้อย่างร้อนแรง ฟอร์มของ เวรอนก็ค่อยๆตกลง เนื่องจากจังหวะการเล่นเข้าทำรวดเร็วและหนักหน่วงของฟุตบอลอังกฤษ ทำให้เขาต้องใช้เวลาและพื้นที่ในการครองบอลมากกว่าปกติ

 

แต่ถึงอย่างนั้น มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนไตน์ก็ยังทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปด้วยการสร้างสรรค์เกมที่เหนือชั้น และทักษะที่แพรวพราวเหนือใคร

 

 

เวรอน สามารถจายบอลฉีกแนวรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคนธรรมดาคงไม่ทางเห็นหรือคิดได้ว่าเขาจะทำมันอออกมา

 

อดีตแข้งลาซิโอ กลับไปทำผลงานเด่นอีกครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีจังหวะจะโคนที่ช้ากว่า และมันเหมาะกับสไตล์การเล่นของเขามากที่สุด

 

 

สมดุลที่ขาดหายไป

 

 

แต่ฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีนักในพรีเมียร์ลีกนัดต่อๆมา ทำให้ภาพลักษณ์ของ เวรอน ดูแย่เข้าไปใหญ่จากน้ำมือของสื่อตัวแสบในแดนผู้ดี 

 

กุนซือชาวสก็อตผู้คว้าตัวเวรอนมาร่วมทีม โจมตีผู้คนที่ตั้งคำถามถึงความสามารถกับนักเตะของเขา พร้อมปกป้องแข้งแดนละตินอเมริกาด้วยอารมณ์สุดเกรี้ยวกราดผ่านงานแถลงข่าวในเดือนเมษายนปี 2002

 

“ทำต่อไปเลย ผมจะไม่พูดห่าอะไรกับพวกคุณอีก เขาเป็นผู้เล่นที่โคตรสุดยอดเว้ย พวกคุณต่างหากที่แม่งโคตรงี่เง่า” เฟอร์กี้ ด่ากราดใส่ผู้สื่อข่าวในวันนั้นแบบไม่มีหมกเม็ด

 

สิ่งที่กุนซือปีศาจแดงบอกว่า เวรอน เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธ เพียงแต่ว่าหากดูจากสไตล์การเล่น เขาแค่ไม่เหมาะสมกับยูไนเต็ดเท่าไหร่ในตอนนั้น

 

กองกลางตัวหลักทั้ง 4 คนอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน, พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ต่างนำพาโทรฟี่ และความสำเร็จมากมายสู่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่การมาของ เวรอน ทำให้ทีมที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ขาดสมดุล เนื่องจากยูไนเต็ดมีตัวเลือกในแดนกลางที่มากเกินไป

 

เฟอร์กี้ ดูจะหมดหวังในการดัดแปลงแก้ไขแผงกองกลางของทีมที่ไม่เคยเสียหายซักนิดเลย และต่อมาเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่า เวรอน เป็นนักเตะฝีเท้าดีที่ไม่จำเป็นกับทีมจริงๆ

 

“ฮวน เซบาสเตียน เวรอน เป็นนักเตะที่สุดยอด ในความคิดของผม มันไม่เกิดขึ้นกับเขาเพราะ ผมคิดว่าเรามีแผงกองกลางที่ดีที่สุดในอังกฤษที่เคยสร้างมาอยู่แล้ว” แกรี่ เนวิลล์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ตในเดือนเมษายนปี 2020

 

 

“กิ๊กส์, คีน, สโคลส์, เบ็คส์ ผมคิดว่า 4 คนนี้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีมาแล้ว พวกเขาอยู่อีกโลกเลยล่ะ”

 

“กองกลางทั้ง 4 คน ผมขอเรียกว่าเล่นกันได้อย่างเป็นระบบ พวกเขาทำหน้าที่ได้อย่างเคร่งครัด และมันเป็น 4-4-2 ที่คลาสสิค ส่วนวิธีที่เวรอนเล่น เป็นการเล่นในอิตาลี เขาเคลื่อนที่ในตำแหน่งที่แตกต่าง มีอิสระมากมาย, พยายามรับบอลจากแบ็คซ้าย”

 

“เขาเกือบจะเป็นผู้เล่นคนแรกๆที่แหกกฏเกณฑ์ มันอาจมีการแหกกฏบ้างในบางจุด เวรอนเข้ามาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงแนวคิด แต่ในทีมมันเป็นรูปแบบที่ถูกตั้งไว้แล้ว”

 

 

ถูกที่แต่ผิดเวลา

 

 

หลังต้องทนลำบากกับฤดูกาลแรกที่ไม่เป็นไปดั่งหวัง เวรอน ก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาบ้างในฤดูกาลต่อมา และแสดงความเป็นอัจฉริยะในลูกหนังอยู่หลายครั้ง

 

ไม่ว่าจะเป็นการงัดบอลที่สวยงาม, การจ่ายบอลที่แม่นยำ และประตูที่เฉียบขาด ทำให้ความโดดเด่นของเขาถูกพูดถึงในหมู่แฟนบอลอีกครั้ง อย่างเช่น การจ่ายบอลให้กับ เบ็คแฮม ในนัดพบกับ เบอร์มิ้งแฮม ซิตี้ คือหลักฐานที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี

 

 

กองกลางชาวอาร์เจนไตน์ ได้รับคำชื่นชมจากกูรูลูกหนังอย่างมากยามโชว์ฝีเท้าในรายการยุโรป แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอเหมือนเดิมในพรีเมียร์ลีก แม้จะในตอนท้ายเขาจะคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2002-03 กับปีศาจแดงได้ก็ตาม

 

“ถ้าผมมีสิ่งที่รำคาญใจก็คือ เรื่องที่ผมมีทั้งจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดในทุกฤดูกาล ผมไม่เคยทำผลงานระดับสูงได้เลยตลอดทั้งฤดูกาล” เวรอน กล่าวถึงช่วงเวลาในปีศาจแดง กับ แมนเชสเตอร์ อีฟเวนนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นประจำเมืองในปี 2016

 

เฟอร์กูสัน เปลี่ยนแผนกลับมาใช้ระบบ 4-4-2 เหมือนเดิม ซึ่งไม่สามารถรับรองรูปแบบการเล่นของ เวรอน ในทีมได้อีกต่อไป

 

กุนซือแดนวิสกี้ ได้รู้ซึ้งถึงความผิดพลาดของตน และตัดสินใจยอมขาดทุนด้วยการขาย เวรอน ให้กับ เชลซีไปเพียง 15 ล้านปอนด์ในปี 2003

 

ช่วงเวลาเพียง 2 ปีเศษๆในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เวรอนถูกตีตราว่าเป็นการทดลองที่ล้มเหลว และถูกเมินถึงความสามารถที่แท้จริงอยู่บ่อยครั้ง

 

ต่อมา เทรนด์การเล่นในฟุตบอลยุโรป เริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับฟุตบอลในอังกฤษ หลังจากที่ เวรอน ได้โบกมือลาแดนผู้ดีไป หากช่วงเวลาเหล่านี้ได้มาถึงก่อนหน้านี้ซัก 2 หรือ 3 ปี เราคงได้เห็นสิ่งที่แตกต่างจาก เวรอน มากกว่านี้ในสีเสื้อปีศาจแดง

 

และแน่นอนว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกในอาชีพค้าแข้งของ เวรอน ที่ช่วงเวลาต่างๆไม่เคยเป็นใจให้กับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว