คนเดิมหายไปไหน : 8 แข้งที่กลับทีมเก่าแต่ฟอร์มไม่ดีเหมือนเก่า

 

เชื่อว่าแฟนบอลทุกคนอยากเห็นอดีตแข้งขวัญใจของพวกเขากลับมาเล่นในสโมสรเก่าของพวกเขาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะลงเอยได้อย่างหวัง

 

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, เธียร์รี่ อองรี และ พอล สโคลส์ ต่างกลับมาเล่นให้กับทีมเก่าที่ตนเคยคว้าแชมป์อีกครั้งในอังกฤษ ในขณะที่บางคนกลับมาค้าแข้งกับทีมเก่าในฐานะนักเตะที่เติบโตและมีความสามารถมากกว่าครั้งแรกที่เคยอยู่ เช่น พอล ป็อกบา กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เนมานย่า มาติช กับ เชลซี

 

ล่าสุด ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้ามากประสบการณ์ชาวสวีดิช กลับมาค้าแข้งใน ซาน ซีโร่ กับ เอซี มิลาน อีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า โดยเซ็นสัญญากับทีม 6 เดือนด้วยกัน และตั้งเป้าที่จะช่วยให้ รอสโซเนรี่ กลับมาทำผลงานที่น่าประทับใจอีกครั้ง

 

แต่อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ไม่ใช่ทุกคนจะทำผลงานได้ดีเสมอไปกับการลงเล่นให้ทีมเก่าเป็นครั้งที่ 2 และนี่คือ 8 แข้งดังที่ย้ายกลับทีมเก่าแต่ฟอร์มการเล่นกลับไม่ดีเหมือนอย่างที่เราๆเคยเห็น

 

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (ยูเวนตุส, 2009)

 

 

คันนาวาโร่ ผู้ถูกจดจำในฐานะกัปตันทีมอิตาลีชุดแชมป์โลก และ ผู้คว้าบัลลงดอร์ในปี 2006 ได้หวนกลับมา ยูเวนตุส อีกครั้ง ในปี 2009 หลังย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้

 

แม้จะเคยเป็นกองหลังตัวหลักช่วยให้ทีมค้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติด แต่สาวกเบี่ยงโคเนรี่ ส่วนใหญ่ก็ยังติดใจ ไม่ให้อภัย แข้งชาวอิตาเลี่ยน เนื่องจากเขาลาทีมจากตูรินไปแทบทันที หลังจากคดีกัลโช่โปลีในปี 2006 ซึ่งทำให้ทีมต้องหล่นไปเล่นในเซเรีย บี 

 

อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับเล่นให้ ม้าลาย เป็นคำรบที่ 2 ของ คันนาวาโร่ แทบไม่มีเรื่องดีๆให้นาจดจำเลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการบาดเจ็บ, ฟอร์มการเล่นที่แย่ลง และ ใบแดงในนัดชิงยูโรป้าลีก ปี 2010 ส่งผลให้เขาไม่ได้รับการต่อสัญญาจากสโมสร ก่อนจะย้ายไปเล่นที่ กาตาร์ กับ อัล-อาห์ลี ในซัมเมอร์นั้น

 

 

ดีเอโก้ คอสต้า (แอตเลติโก้ มาดริด, 2017)

 

 

เหล่าปราการหลังจากพรีเมียร์ลีก โล่งใจไม่น้อย เมื่อเห็น ดีเอโก้ คอสต้า กลับไปค้าแข้งในสเปนอีกครั้ง หลังจากเล่นให้กับ เชลซี มา 3 ปีเต็มๆ

 

ช่วงแรกที่เขาเคยเล่นกับ ตราหมี ในปี 2007-2009 จะไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนจะย้ายกลับมาอีกครั้งในปี 2010 และด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2013-14 ที่ยิงไปถึง 27 ประตู และช่วยให้แอตเลติโก้ มาดริด คว้าแชมป์ลาลีก้า ทำให้สิงห์บลูตัดสินใจคว้าตัว กองหน้าจอมตุกติกมาร่วมทีมด้วยค่าตัวกว่า 32 ล้านปอนด์ 

 

คอสต้าช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์ลีก 2 สมัยใน 3 ฤดูกาล ก่อนจะถูก อันโตนิโอ คอนเต้ ส่งความข้อความว่าไม่ได้อยู่ในแผนทำทีม ทำให้แข้งวัย 31 ปีย้ายกลับเล่นในสเปนกับ ตราหมี เป็นครั้งที่ 3 แต่สถิติการยิงประตูในตอนนี้ ก็บ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่ใช่ คอสต้า คนเดิม เหมือนเมื่อ 3 ปีก่อนอีกแล้ว   

 

 

เจอร์เมน เดโฟ (บอร์นมัธ, 2017)

 

 

เดโฟ เริ่มต้นค้าแข้งกับ เวสต์แฮม และ ได้ย้ายไปเล่นกับ บอร์นมัธ แบบยืมตัว ในช่วงที่ แฮร์รี่ เร้ดแนบป์ เป็นกุนซือของทีม ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงประตูไป 18 นัดในลีกดิวิชั่น 3 และทำสถิติยิงประตูติดต่อกัน 10 นัด จากนั้นก็ย้ายไปเล่นให้กับ สเปอร์ส และ พอร์ทสมัธ ในเวลาต่อมา

 

หลังจากทำผลงานได้ดีในตอนที่ ซันเดอร์แลนด์ ตกชั้นในฤดูกาล 2016-17 แข้งวัย 35 ปี ได้ย้ายกลับมาเล่นให้ เดอะ เชอร์รี่ส์ อีกครั้ง ภายใต้การกุมบังเหียนของ เอ็ดดี้ ฮาว

 

อย่างไรก็ตาม แข้งชาวอังกฤษ เป็นแค่อะไหล่ของทีมเท่านั้น เพราะ 28 นัดในลีกที่ลงเล่น มากกว่าครึ่งเป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรอง แถมทำไปแค่ 4 ประตูเท่านั้น ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นกับ เรนเจอร์ส แบบยืมตัวตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 2017)

 

 

ในที่สุด อิบราฮิโมวิช ก็ย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก เสียที หลังจากประกาศศักดิ์ดาทั้งใน อิตาลี, สเปน และ ฝรั่งเศสมาแล้ว แถมเขาก็อ้างว่าตัวเองเป็น ‘เทพแห่งแมนเชสเตอร์ ทันทีที่ย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2016

 

แข้งชาวสวีดิช ตอบแทนความไว้ใจที่ โชเซ่ มูรินโญ่ มีให้อย่างไม่มีที่ติ ด้วยการทำ 28 ประตูในทุกรายการ ก่อนจะบาดเจ็บปิดเทอมก่อนใครจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าในเกมยูโรป้าลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ อันเดอร์เลชท์

 

ชายผู้อ้างตนว่าเป็น ‘สิงห์’ หมดสัญญากับปีศาจแดงในนปี 2017 แต่อีก 2 เดือนต่อมาก็เซ็นสัญญาใหม่อีกครั้งทันทีที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บ ทว่าการลงสนามแค่ 7 นัด กับอีก 1 ประตู ทำให้ซลาตันและยูไนเต็ดตัดสินใจแยกทางกันในเดือนมีนาคมปี 2018

 

   

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล, 2006)

 

 

กองหน้าระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล อย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ถูกแฟนบอลในแอนฟิลด์ยกย่องให้เป็น ‘พระเจ้า’ ของพวกเขา หลังจากยิงไปถึง 171 ประตู ในช่วง 9 ฤดูกาลที่ค้าแข้งกับทีม และอยู่ในชุดที่คว้าทริปเบิ้ลแชมป์  (ลีกคัพ, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า คัพ) ในฤดูกาล 2001-02 

 

หลังจากที่มีปัญหากับ เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือของหงส์แดงในตอนนั้น ทำให้เขาย้ายไปเล่นกับ ลีดส์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลาต่อมา ก่อนจะกลับมาเมอร์ซี่ย์ไซด์อีกครั้งในปี 2006

 

แต่ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ ฟาวเลอร์ ได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว 12 ประตูในเกือบ 2 ปีของเขากับ ลิเวอร์พูลรอบ 2  เป็นหลักฐานในเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่อย่างน้อย เขาก็กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับ 6 ของสโมสรหลังแยกทางกับทีม

 

 

อังเดร เชฟเชนโก้ (เอซี มิลาน, 2008)

 

 

เชฟเชนโก้ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ ดินาโม เคียฟ สโมสรดังจากยูเครนบ้านเกิด ก่อนจะย้ายมาเป็นกองหน้าระดับโลกอย่างแท้จริงกับ เอซี มิลาน ตั้งแต่ 1999 พร้อมกับพาปีศาจแดงคว้าแชมป์เซเรียอา, โคปา อิตาเลีย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอย่างละสมัย ตลอด 7 ปีในถิ่นซาน ซีโร่

 

ปี 2006 เชลซีทำสถิติด้วยการคว้าตัว เชว่า มาจาก รอสโซเนี่ ด้วยค่าตัว 30.8 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในอังกฤษตอนนั้น แต่ว่าก็ไม่สามารถทำผลงานได้เหมือนตอนอยู่อิตาลี ทำให้เขาย้ายกลับไปเล่นให้ มิลาน อีกครั้งในปี 2008

 

แม้จะกลับไปอยู่ในถิ่นเก่าที่เคยโด่งดังอีกครั้ง แต่ฟอร์มของแข้งชาวยูเครนกลับไม่ได้ดีดั่งเก่า ยิงได้แค่ 2 ลูก จากการลงเล่น 26 นัดในทุกรายการเท่านั้น ก่อนจะย้ายไปปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับทีมที่ปลุกปั้นมาอย่าง ดินาโม เคียฟ ในปี 2009-2012

 

โจ โคล (เวสต์แฮม, 2013)

 

 

โจ โคล เป็นนักเตะขวัญของแฟนบอลเวสต์แฮมทุกหมู่เหล่า หลังเขาขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ พร้อมกับแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะดาวรุ่งชาวอังกฤษที่น่าจับมองที่สุด

 

เขาใช้เวลาค้าแข้งในถิ่น อัพตัน ปาร์ค 5 ปี และได้รับบทบาทเป็นกัปตันทีมในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร ก่อนจะย้ายไป เชลซี ในปี 2003 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์

 

โคล กลับสวมชุดขุนค้อนอีกครั้งในปี 2013 หลังจากย้ายไปเล่นกับ เชลซี, ลิเวอร์พูล และลีลล์ ก่อนหน้านี้  น่าเศร้าที่ด้วยอายุที่มากขึ้น และ อาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่ตลอด ทำให้เขาถูกปล่อยตัวออกจาสโมสร โดยลงเล่นแค่ 37 นัดใน 18 เดือนเท่านั้น

 

 

เลโอนาร์โด้ อูยัว (ไบรท์ตัน, 2018)

 

 

หัวหอกร่างโย่งอย่าง อูยัว เป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากที่สุดในช่วงที่เขาเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ร่วมกับทีมในฤดูกาล 2015-16

 

อย่างไรก็ตาม ทีมที่ช่วยให้สร้างชื่อในฟุตบอลอังกฤษได้จริงๆคือ ไบรท์ตัน หลังยิงไป 26 ประตูใน 2 ปีที่ทีมโลดแล่นอยู่ใน แชมเปี้ยนส์ชิพ และกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลในถิ่น เอแม็กซ์ สเตเดี้ยม

 

  การเข้ามาของ อิสลาม สลิมานี่ และ อาห์เหม็ด มูซ่า ในถิ่นคิง พาวเวอร์ ปี 2016 ทำให้โอกาสลงสนามของแข่งชาวอาร์เจนไตน์น้อยลง และเลือกย้ายไปเล่นกับ ไบรท์ตัน ทีมเก่าแบบยืมตัวในเดือนมกราคมปี 2018 ทว่า อูยัวก็ไม่ได้สร้างผลกระทบด้านบวกมากนักด้วยการยิงไปแค่ลูกเดียว จาก 10 เกม