คนเดียวเปลี่ยนทีม : ซลาตันกับการพามิลานลุ้นแชมป์เซเรียอาในวัย 39 ปี

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กดประตูครบ  500 ลูกในอาชีพค้าแข้งระดับสโมสรได้สำเร็จ หลังเกมที่ เอซี มิลาน ถล่ม โครโตเน่ 4-0 ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ทว่าเขาจะหยุดการยึดอำนาจของ ยูเวนตุส และพา รอสโซเนรี่ คว้าแชมป์ลีกที่รอคอยมานานกว่า 10 ปีได้หรือไม่?

 

ดาวยิงสัญชาติสวีดิช กดประตูให้ มิลาน ออกนำในนาทีที่ 30 และประตูที่ 500 ของเขาในระดับสโมสร และยิงเพิ่มได้อีกในครึ่งหลัง ช่วยให้ มิลาน คว้า 3 แต้มสำคัญกลับมารั้งจ่าฝูงในเซเรียอาได้อีกครั้ง โดยนำห่าง อินเตอร์ มิลาน อยู่ 2 คะแนน

 

ณ เวลานี้ ซลาตัน วัย 39 ปี ซัดประตูในลีกไปแล้ว 14 ลูก และ อีก 2 ประตูในบอลถ้วยทุกรายการของฤดูกาลนี้ ซึ่งตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวของเซเรียอาเพียง 2 ลูก ทั้ง ๆที่ลงเล่นเพียง 876 นาทีเท่านั้น

 

เขาทำแบบนั้นได้อย่างไร? โอกาสค้าแข้งในซาน ซีโร่ ต่อไปมีมากน้อยแค่ไหน ? และจะสามารถกระชากแชมป์ออกจากเมืองตูรินได้หรือไม่? UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ตัวเลขสุดเหลือเชื่อต่าง ๆ ที่ อิบราฮิโมวิช ทำไว้ในฤดูกาลนี้จนพาให้ ปีศาจแดงดำกลับมาลุ้น สคูเด็ตโต้ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี

 

 

ยิงได้เรื่อย ๆ ในวัยเกือบ 40 

 

Image result for zlatan ibrahimovic

 

ซลาตัน วัย 39 ปี ยังคงเฉียบคมอย่างที่หลายคนเคยเห็น ทั้งค่าเฉลี่ยในการทำประตู, โอกาสยิง (5.1 ครั้งต่อเกม), ลูกกลางอากาศ (8.6 ครั้งต่อเกม) และการจ่ายบอล (28.5 ครั้งต่อเกม)  ล้วนโดดเด่นเกินอายุของเขามาก ๆ

 

หอกรอสโซเนรี่ กดไป 14 ประตูในลีก แม้ลงเล่นเพียง 876 นัดในลีก ซึ่งยิงได้เท่ากับ โรเมลู ลูกากู ของ อินเตอร์ มิลาน (1,414 นาที) และ ชิโร่ อิมโมเบเล่ จาก ลาซิโอ (1,539 นาที) ที่ลงเล่นมากกว่า 

 

หรือ โรนัลโด้ ที่รั้งดาวซัลโวลีกแดนมักกะโรนีคนปัจจุบัน ก็ต้องใช้เวลาลงเล่นถึง 1,362 นาที มากกว่า ซลาตันเกือบ ๆ 500 นาที ถึงยิงไป 16 ประตู

 

อิบราโมวิช มักจะสร้างผลกระทบด้านบวกให้กับทุก ๆ สโมสรที่เขาย้ายไปค้าแข้ง ทั้งกับ 2 หนในมิลาน, ยูเวนตุส (2004-2006), อินเตอร์ มิลาน (2006-2009), เปแอสเช (2012-2016), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2016-2018) รวมถึงช่วงเวลาสั้น ๆ กับ แอลเอ กาแล็คซี่ แม้จะเป็นหนึ่งใน 2 สโมสรตลอดการค้าแข้งที่เขาไม่เคยคว้าแชมป์ร่วมกับทีมได้ก็ตาม

 

22 ปีในอาชีพค้าแข้ง หลังเริ่มต้นเส้นทางนี้กับ มัลโม่ สโมสรในบ้านเกิดเมื่อปี 1999 ตัวเลขการทำประตูของเขาก็ค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี โดยยิงได้มากสุดในฤดูกาล 2015-16 สมัยเล่นให้ เปแอสเช ด้วยจำนวน 50 ประตู

 

อีกทั้งยังมีเรื่องราวสุดโรแมนติกให้ สาวกรอสโซเนรี่ ชวนฝัน อีก เมื่อทีมรักของพวกเขาที่ร้างลาแชมป์เซเรียอามาตั้งแต่ปี 2011 กำลังกลับมาลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้ง โดยนักเตะที่เคยชูถ้วยในตอนนั้นอย่าง อิบราโมวิช พร้อมกำลังหยุดสถิติคว้าแชมป์ 10 สมัยติดของ ยูเวนตุส

 

 

ผู้เปลี่ยนแนวคิดของ มิลาน

 

Image result for zlatan ibrahimovic ac milan

 

ในวัย 39 ปี นักเตะส่วนใหญ่คงตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปแล้ว หรือเต็มที่ก็คงเล่นกับลีกที่ไม่ได้มีการแข่งขันสูง แต่ทว่าไม่ใช่กับ ซลาตัน ที่หลังพา แอลเอ กาแล็คซี่ ได้เล่นเพลย์ออฟใน เมเจอร์ ลีก ซ้อคเกอร์ เขาก็เลือกกลับมาผจญภัยในยุโรปอีกครั้ง และไม่ใช่ทีมกลางจากลีกใหญ่ แต่เป็น เอซี มิลาน สโมสรยักษ์หลับที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความยิ่งใหญ่

 

จากมุมมองของ เป็ปเป้ ดิ สเตฟาโน่ นักข่าวที่ติดตามเรื่องราว เอซี มิลาน ให้ สกาย อิตาเลีย ได้มีมุมมองเกี่ยวกับ อดีตดาวยิงทีมชาติสวีเดนได้อย่างน่าสนใจ และน่าคล้อยตามไม่น้อย

 

“อิบราโมวิช เป็นนักเตะที่ครบเครื่อง เป็นนักกีฬาเต็มตัว มักจะเข้ามา มิลาเนลโล่ สนามซ้อมเป็นคนแรกในตอนเช้า และออกเป็นคนสุดท้ายในตอนเย็น ถึงมีอาการบาดเจ็บ และ โควิด มารบกวน แต่เขาก็ยังอยู่และหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอล และผ่านการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บมาแล้ว ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว”

 

“แม้แต่อาหาร เขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองดื่มมากกว่า 1 แก้ว หรือ กินพาสต้ามากกว่านั้น เพราะเขาอยู่กับอาชีพของเขาอย่างบ้าคลั่ง เขาต้องมีบางอย่างที่เหนือกว่าผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า เพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกัน และส่วนใหญ่ในการดูแลโภชนาการทำให้คุณมีความสนใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของคุณ”

 

“เขาเปลี่ยนความคิดของทุกคนรอบ ๆ มิลานอย่างสิ้นเชิง แม้ในนัดฝึกซ้อมเล็ก ๆ เขาจะโกรธมากถ้าทีมของเขาแพ้และเมื่อเขาชนะเขาก็ฉลองและเยาะเย้ยเพื่อนร่วมทีมของเขา บางครั้งก็เกินไปบ้าง แต่นั่นบ่งบอกทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเขาได้เลย เขาสร้างการแข่งขันภายในกลุ่มที่ไม่เคยมีอยู่ก่อนหน้าที่เขาจะมาที่นี่”

 

นอกจากนี้ หัวหอกเลือดไวกิ้ง ไม่เพียงแต่เปลี่ยนความคิดให้เพื่อนร่วมทีมในมิลาน กลับมากระหายในชัยชนะมากขึ้น แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมาลุ้นแชมป์ได้อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากสำหรับแข้งวัย 39 ปีที่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีจากการลงสนามสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าแบบนี้

 

 

สัญญาใหม่ในซาน ซีโร่?

 

Image result for zlatan ibrahimovic contract ac milan

 

ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าแบบชัดเจน และยังค่อยเป็นค่อยไปอยู่ แต่ฟอร์มการเล่นของ ซลาตัน ที่ยิ่งดีขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้นจนบอร์ดบริหารอาจไม่ตัดสินใจขยายสัญญาเขาก็เป็นได้

 

เขาเปรียบเหมือนดาบ 2 คมสำหรับ มิลาน ชัดเจนว่าผลงานของทีมขึ้นอยู่กับเขาเป็นหลัก และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ หากวันหนึ่งพบว่าไม่มี อิบราฮิโมวิช ในทีมอีกต่อไป คุณอาจต้องเซ็นสัญญากับกองหน้าระดับท็อปที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องหาทางออกอื่น 

 

นั่นคือปัญหา แต่บางทีปัญหาที่แท้จริงคือการหาขีดจำกัด ของซลาตัน ถ้าเขายังอายุ 36 ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ในตอนนี้เขาเกือบ 40 แล้ว ทำให้สโมสรอาจชั่งใจเรื่องต่อสัญญา ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า ซลาตัน มีความต้องการสูงมาก แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรพอกับอาชีพนี้

 

แต่หลักแล้วก็คงขึ้นอยู่กับว่า อิบราโมวิช จะพาทีมไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลนี้ รวมถึงความต้องการค้าแข้งในระดับสูงต่อไปยังคงมีอยู่หรือไม่ และผลงานที่เขาแสดงให้เห็นก็น่าจะเป็นคำตอบนัยๆ ว่าพร้อมที่จะอยู่ มิลาน ต่อไป เพียงสโมสรพร้อมจะสนองให้เขาหรือไม่เท่านั้น

 

 

แชมป์ลีกที่อาจเปลี่ยนมือ

 

Image result for zlatan ibrahimovic

 

ตลอดเกือบทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีใครขึ้นมาโค่น ยูเวนตุส ไปจากบัลลังก์แชมป์ลีกได้เลย แต่คงพูดได้เต็มปากว่าปีนี้คือโอกาสที่ดีที่สุดที่แฟนบอลจะเห็นแชมป์สคูเด็ดโต้เปลียนมือครั้งแรกในรอบ 10 ปี 

 

อินเตอร มิลาน ที่คว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายในสมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมเมื่อปี 2010 ก็กำลังมีลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้ง ภายใต้การคุมทีม อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมผู้ชุบชีวิตและเป็นจุดเริ่มต้นให้ ม้าลาย ครองอำนาจในลีกเลี่ยนจนถึงปัจจุบัน

 

ไม่ใช่แค่กุนซือเท่านั้น เพราะทีมงูใหญ่ ยังมีนักเตะระดับท็อปที่ผลงานโดดเด่นทั้งในตำแหน่งกองกลาง, ฟูลแบ็ค หรือ กองหน้า ทั้ง นิโคโล่ บาเรลล่า, อัฟราม ฮาคิมี่ หรือ โรเมลู ลูกากู และการที่พวกเขาตกรอบบอลถ้วยไปหมด ทำให้สามารถทุ่มกับบอลลีกได้เต็มที่

 

ส่วน ยูเวนตุส แชมป์เก่า ภายใต้การคุมทีมของ อันเดรีย ปีร์โล่ คงต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนทีมพอสมควรกับการทำหน้าที่ปีแรกในอาชีพกุนซือ และยังคงหารูปแบบการเล่นชัดเจนของทีมอยู่ แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกันจากการที่เขามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวของลีกในตอนนี้

 

ขณะที่ มิลาน ของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ก็กลายเป็นทีมที่หลายคนไม่คาคคิดว่าจะกลับมาลุ้นแชมป์ และสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้เรื่อยมา นับตั้งแต่เกมนัดที่ 4 ของฤดูกาล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้เรื่อยมา โดยมี อิบราโมวิช เป็นแกนหลัก

 

ถ้าเทียบกันแล้ว รอสโซเนรี่ มีความแข็งแกร่ง และความหลากหลายของผู้เล่นไม่มาก เมื่อเทียบกับผู้ท้าชิงรายอื่น ๆ และการที่พิสูจน์ว่าพวกเขายอดเยี่ยมกว่าใคร คงไม่มีวิธีไหนที่ยอดเยี่ยมไปกว่าการชูถ้วยสคูเด็ตโต้ในท้ายฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน

 

และนอกจากแชมป์ลีกแล้ว การเอาชนะ โรนัลโด้ ได้ คงเป็นสิ่งที่ อิบราโมวิช ปรารถนาในอาชีพค้าแข้งเช่นกัน