ความภาคภูมิใจ : 5 ความเกี่ยวข้องฟุตบอลไทยกับฟุตบอลโลก

บอลไทย

ต้องยอมรับโอกาสที่ทีมชาติไทยของเราจะลุ้นผ่านไปเล่นในศึกฟุตบอลโลก ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก แม้ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะมีการเพิ่มทีมเข้าแข่งขันเป็น 48 ทีมก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ครั้งที่ใกล้เคียงสุดคือ 2002 และ 2018 ที่เราเข้าถึงรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสุดท้าย

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทัพ “ช้างศึก” ยังไม่สามารถผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้สำเร็จ ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทยเราก็มีความเกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลกในหลายเรื่องที่หลายคนอาจยังไม่รู้มาก่อน

เพราะฉะนั้นวันนี้ UFAARENA จะย้อนไปดูความภาคภูมิใจนี้กันว่า ที่ผ่านมาในอดีตไทยเราเคยมีความเกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก ในเรื่องไหนกันบ้าง

 

สยามเคยถูกเชิญไปเตะบอลโลกครั้งแรก

น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าไทยเราเคยเกือบได้ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกมาแล้วตั้งแต่สมัยแรกที่มีการจัดการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ซึ่งตอนนั้นประเทศเรายังใช้ชื่อเดิมว่า “สยาม” กันอยู่เลย

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1930 ฟุตบอลโลกครั้งแรกถูกจัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย และมีการเชิญอีก 15 ประเทศ เข้ามาร่วมการแข่งขัน ซึ่งหนึ่งในนั้นสยามของเราก็ถูกเชิญด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามด้วยการที่ฟุตบอลโลกครั้งนั้นถูกจัดขึ้นที่ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเวลานั้นการเดินทางต้องอาศัยทางเรือเท่านั้น ยังไม่มีการใช้เครื่องแบบปัจจุบัน ทำให้เรื่องการเดินทางเป็นอุปสรรคซึ่งส่งผลให้สยามต้องปฎิเสธคำเชิญดังกล่าวไป เช่นเดียวกับ อียิปต์ และ ญี่ปุ่น

 

ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ตัดสินเกมบอลโลก 1998

แม้จนถึงปัจจุบันทีมชาติไทยเรายังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกได้เลยสักครั้ง ทว่าย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 เราเคยมีผู้ตัดสินชาวไทยลงทำหน้าที่ในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกนี้มาแล้ว

“เป่าอั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ คือเชิตดำหนึ่งเดียวของเมืองไทยที่เคยได้นับโอกาสครั้งสำคัญลงตัดสินเกมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เมื่อปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ โดยลงทำหน้าที่ทั้งหมดสองแมตช์ของรอบแรก คือนัดที่ นอร์เวย์ พบ โมร็อกโก และ ไนจีเรีย พบ ปารากวัย

นอกจากนั้นย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ยังเคยได้รับเกียรติสูงสุด ด้วยการลงทำหน้าที่ตัดสินเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ระหว่าง บราซิล พบ ออสเตรเลีย ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย อีกด้วย

 

Teamgeist ลูกฟุตบอลโลกที่คนไทย มีส่วนสำคัญในการผลิต

หากพูดถึงฟุตบอลโลก 2006 สิ่งหนึ่งที่หลายคนจำได้เป็นอย่างดี นั่นคือลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งครั้งนั้นอย่าง Adidas Teamgeist ซึ่งหมายถึง Team Spirit นอกจากนั้นการออกแบบถือว่าค่อนข้างสวยงาม เพราะมีการนำเอาสีของเสื้อทีมชาติเยอรมันที่เป็นเจ้าภาพครั้งนั้นและสีทองของฟุตบอลโลกมาดีไซน์จนออกมาเป็นลูกฟุตบอลที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน

อย่างไรก็ตามหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ลูกฟุตบอล Teamgeist ถูกผลิตขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยเราเองมีส่วนสำคัญในการผลิตเจ้าลูกบอลลูกดังกล่าวด้วย

โดยชิ้นส่วนของ Teamgeist ถูกแบ่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ จุกสำหรับสูบลมลูกฟุตบอลมาจากอินเดีย, หนังเทียมมาจากเกาหลีใต้, บุข้างในลูกฟุตบอลซึ่งทำจากฝ้ายมาจากเวียดนาม ก่อนชิ้นส่วนทั้งหมดจะถูกนำประกอบกับลูกบอลที่ผลิตจากโรงงานของ Adidas ที่จังหวัดชลบุรี นอกจากนั้นข้างลูกบอลยังมีการพิมพ์ฐานการผลิตไว้ชัดเจนว่า Made in Thailand

 

อุ่นเครื่องทีมชาติแอฟริกาใต้ ก่อนเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2010

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ฟุตบอลโลก ที่ แอฟริกาใต้ แม้จะไม่ได้ผ่านไปเล่นรอบสุดท้าย ทว่าทัพ “ช้างศึก” ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทัวร์นาเมนต์ครั้งนั้นด้วย เนื่องจากเป็นทีมซึ่งถูกเชิญไปเตะอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าภาพ

โดยเกมนัดนั้นทีมชาติไทยซึ่งนำทัพโดยกุนซืออย่าง ไบรอัน ร็อบสัน พาลูกทีมแค่ 17 คน เท่านั้น บุกไปเยือน แอฟริกาใต้ ของเฮดโค้ชอย่าง คาร์ลอส อัลแบร์โต้ เปไรร่า ซึ่งเกมวันนั้นผู้เล่นแกนหลักของเราที่มีชื่อในสนามนำโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, สุทธินันท์, สุรีย์ สุขะ, ธีรเทพ วิโนทัย และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น

ท้ายที่สุดผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของ แอฟริกาใต้ ด้วยสกอร์ 4-0 จากการยิงของ ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า, เบอร์นาร์ด พาร์กเกอร์ และ คาเทียโก เอ็มเฟล่า 2 ประตู

นอกจากนั้นแมตช์ดังกล่าวยังถือเป็นการประเดิมลงเล่นยังหนึ่งในสนามที่ถูกใช้งานในศึกฟุตบอลโลกครั้งนั้นอย่าง เอ็มบอมเบล่า สเตเดี้ยม อีกด้วย

 

บรรดานักเตะไทยลีก ที่เคยเล่นบอลโลก

หากพูดถึงเรื่องความเกี่ยวข้องระหว่างฟุตบอลไทยและฟุตบอลโลก คงไม่พูดถึงบรรดานักเตะไทยลีกในเคยลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วไม่ได้

ตลอดรายปีที่ผ่านมามีบรรดานักเตะต่างชาติย้ายมาค้าแข้งยังศึกไทยลีกแบบต่อเนื่อง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่านักเตะที่เคยผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว ดูจะเป็นดีกรีที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับลีกบ้านเรา

หากให้พูดถึงบรรดานักเตะเหล่านั้น คงแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นตำนาน ลิเวอร์พูล อย่าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ อดีตนักเตะและเฮดโค้ช เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเคยไปเล่นฟุตบอลโลก กับทีมชาติอังกฤษ เมื่อปี 2002 มาแล้ว เช่นเดียวกับอดีตแข้งดังอย่าง ไนออลล์ ควินน์ ที่เคยมาเล่นกับ บีอีซี เทโรศาสน เคยไปลุยฟุตบอลโลก กับทีมชาติไอร์แลนด์ เช่นกัน

นอกจากนั้นอีกหนึ่งดาวเด่นจากฟุตบอลโลก 2010 อย่าง โดมินิค อาดิเยียห์ ถือเป็นแข้งระดับบิ๊กเนมส์ที่ย้ายมาค้าแข้งยังเมืองไทยกับ นครราชสีมา เอฟซี เจ้าตัวถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกบอลโลกที่ แอฟริกาใต้ ก่อนมีโอกาสย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่อย่าง เอซี มิลาน หลังจากนั้น

ส่วนอีกคนที่คงต้องถูกพูดถึงคือ โอ บัน-ซอค กองหลังทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดลุยฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วที่ รัสเซีย เมื่อปี 2018 ซึ่งเขาย้ายมาเล่นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในระยเวลาสั้นๆ เมื่อฤดูกาล 2019

นอกจากนั้นนักเตะที่เคยมาเล่นในไทยลีกอย่าง เมห์ราด๊าด ปูลาดี้ (อิหร่าน), คิม จิน-คยู (เกาหลีใต้), อี-โฮ (เกาหลีใต้), คิม ซอง-วู (เกาหลีใต้), เทรุยูกิ โมนิวะ (ญี่ปุ่น), ไดกิ อิวามาสะ (ญี่ปุ่น), จอร์จี้ เวลคั่ม (ฮอนดูรัส), คิม ดอง-จิน (เกาหลีใต้), พัก นัม-โชล (เกาหลีเหนือ) และ รี ควาง-ชอน (เกาหลีเหนือ) ก็เคยลงเล่นฟุตบอลโลกกับชาติของตัวเองมาแล้วทั้งสิ้น

 

บอลโลก