ความยุติธรรมไปไหน : 10 การตัดสินที่ค้านสายตาแฟนสุดๆในวงการลูกหนัง

 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กลายเป็นที่สนใจของชาวไทยอีกครั้ง หลังเข้ารับฟังคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญกับคดีถือหุ้นสื่อ

 

ผลปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายธนาธร พ้นจากสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากยังมีหุ้นวีลัคอยู่ในขณะที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง 

 

แต่ UFA ARENA ไม่ได้พาทุกท่านวกไปเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เรานึกย้อนไปถึงกรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินในสนาม ซึ่งมีไม่น้อยเช่นกันที่ถูกแฟนบอลต่อต้าน เนื่องจากตัดสินได้เอนเอียงแบบค้านสายตาชัดเจน 

 

และนี่คือ 10 การตัดสินที่ค้านสายตาแฟนบอลสุดๆในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังโลก 

 

 

เกาหลีใต้ ทีมวายร้ายในบอลโลก 2002

 

 

ทีมโสมขาวผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกได้อย่างเหลื่อเชื่อในฟุตบอลโลกปี 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างนั้นแฟนบอลทั่วโลกก็รู้ดีว่าการที่พวกเขาก้าวไปถึงจุดนั้นได้เกิดจากการตัดสินของกรรมการที่เอนเอียงไปฝั่งพวกเขาแบบชัดเจน

 

ในเกมรอบ  16 ทีมสุดท้ายที่พบกับอิตาลี เกาหลีใต้โดนยิงไปถึง 2 ครั้งในเกมนั้น แต่ทั้ง 2 ครั้งถูกปฏิเสธทั้งหมด เนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า ทั้งๆที่ไม่ล้ำหน้าเลยซักนิด มากไปกว่านี้อัซซูรี่ยังโดนแข้งเจ้าภาพเข้าหนักแบบไม่มียั้ง แต่กลับไม่ลงโทษอะไร แถมฟรานเชสโก้ ต๊อตติ แข้งตัวหลักของทีมก็ถูกไล่ออกข้อหาพุ่งล้มซะอย่างนั้น ก่อนจะพ่ายไป 2-1

 

เท่านั้นยังไม่พอ ในรอบต่อมาที่เจอสเปน แทบไม่ต่างอะไรกับที่อิตาลีประสบมา เพราะทีมกระทิงดุมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำถึง 2 ครั้ง แต่กลับถูกผู้ตัดสินปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง ก่อนดวลจุดโทษแพ่เกาหลีใต้ในท้ายที่สุด

 

 

อาลี บิน นาสเซอร์ ผู้สร้าง ‘หัตถ์พระเจ้า’

 

 

ไม่มีใครปฏิเสธว่า ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นนักเตะที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนัง เพียงแต่ประตูที่เขาทำได้ในเกมพบกับอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 1986 มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่ควรจะเป็น เพราะมันเกิดจาการใช้มือของเขานั่นเอง

 

แข้งผู้ดีในสนามเห็นจังหวะนี้อย่างชัดเจน รวมไปถึงแฟนบอลทั้งในสนาม แม้แต่แฟนบอลที่ชมเกมผ่านจอแก้วก็น่าจะเห็นด้วยซ้ำ แต่ อาลี บิน นาสเซอร์ ผู้ตัดสินชาวตูนีเซียกลับมองไม่เห็นว่า เสือเตี้ย ใช้มือชกบอลข้ามหัว ปีเตอร์ ชิลตัน เข้าไป

 

หลังเกม ดาวเตะชาวเล็กชาวอาร์เจนไตน์ไม่ได้ความสำนึกผิดแต่อย่างใด แถมยังเรียกประตูนั้นว่า ‘หัตถ์พระเจ้า’ จนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลจนถึงปัจจุบัน

 

 

บาสติสตองผู้อาภัพจากคำตัดสิน

 

 

ฝรั่งเศสที่มี มิเชล พลาตินี่ เป็นจอมทัพ มีโอกาสไม่น้อยที่จะคว้าแชมป์ในฟุตบอลโลกปี 1982 แต่น่าเสียดายที่พ่ายแก่เยอรมันซะก่อน อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันนัดดังกล่าวมันมีเรื่องอะไรมากกว่าแค่การทำประตูเท่านั้น

 

แพทริค บาสติสตอง แข้งตราไก่ ได้โอกาสดวลเดี่ยวกับ โทนี ชูมัคเกอร์ นายทวารอินทรีเหล็ก แต่มือกาวเมืองเบียรกลับกระแทกใส่คู่แข่งแบบไม่ได้เจตนาจะเล่นที่บอลเลยซักนิด จนทำให้แข้งเลือดน้ำหอมสลบไปทันที

 

แม้ บาสติสตอง จะฟันหัก 2 ซี่และกระดูกสันหลังแตกร้าว แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ลงโทษชูมัคเกอร์ในจังหวะนี้แต่อย่างใด แถมยังมอบฟรีคิกให้กับเยอรมันอีกต่างหาก

 

 

ถ้าผู้ตัดสินทำประตูก็นับเป็นประตู

 

 

ผู้ตัดสินหลายคนในกีฬาลูกหนังไม่ได้มีฝีเท้าที่ดีจนสามารถก้าวไปเป็นนักเตะอาชีพได้ แต่อาจจะไม่ใช่กับท่านเปาในเกมที่ อันคารากูคู พบ เบซิคตัส ในฤดูกาล 1986-87

 

เมื่อแข้งอันคารากูคูได้จังหวะคลุกคลิกกันอยู่หน้าประตูของ เบซิคตัส ก่อนที่บอลจะไปเข้าทางผู้ตัดสิน และโหม่งเข้าประตู ที่เหลือเชื่อไปกว่านั้นคือเขาดันเปาให้ลูกนี้เป็นประตูแบบงงๆ

 

จบเกมเบซิคตัสแพ้ไป 1-0 และะนั่นเป็นนัดสำคัญที่ส่งผลให้ฤดูกาลนั้นเขาพลาดแชมป์ลีกตุรกี ตามหลัง กาลาตาซาราย เพียงแต่แต้มเดียวเท่านั้น

 

 

ใบเหลืองที่ 3 ของ ซิมูนิช

 

 

แกรแฮม โพล ผู้ตัดสินชาวอังกฤษได้โชว์ความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยในศึกฟุตบอลโลกปี 2006 กับเกมระหว่าง ออสเตรเลีย พบ โคเอเชีย หลังเขามอบใบเหลืองให้กับ โจซิฟ ซิมูนิช แข้งโครแอตถึง 3 ครั้งในเกมวันนั้น

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ท่านเปาชาวผู้ดีถูกส่งตัวกลับบ้านก่อนเพื่อน และไม่ได้กลับมาตัดสินในเกมระดับนานาชาติอีกเลยนับตั้งแต่นั้น

 

 

การล็อคผลในเมืองเบียร์

 

 

โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ผู้ตัดสินชาวเยอรมัน ได้ทำให้วงการผู้ตัดสินของเมืองเบียร์เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเจ้าตัวยอมรับว่ารับสินบนเพื่อล็อคผลการแข่งขันให้ พาเดอร์บอร์น ทีมลีกรอง เอาชนะ ฮัมบูร์ก ไปได้ในเดเอฟเบ โพคาล

 

พาเดอร์บอร์น ตามหลังอยู่ 2-0 แต่ผู้ตัดสินกลับมอบจุดโทษให้กับพวกเขาแบบดื้อๆถึง 2 ครั้ง แถมไล่นักเตะคู่แข่งแถมให้อีก 1 คน ส่งผลให้ สิงห์เหนือ ถูกเเขี่ยตกรอบบอลถ้วยเมืองเบียร์ไปแบบหักปากกาเซียน

 

ส่วนฮอยเซอร์ที่รับส่วยเป็นเงินกว่า 46,000 ปอนด์ และโทรทัศน์จอแบนอีกเครื่อง ต่อมาก็ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปีกับอีก 5 เดือน

 

 

ประตูผีของ ‘เร้ดดิ้ง’

 

 

สจ๊วร์ต แอตเวลล์ เป็นกรรมการชาวอังกฤษอีกคนที่ทำหน้าที่ได้ค้านสายตาแฟนบอลที่สุด เมื่อเขาเปาให้ลูกยิงของ เร้ดดิ้ง เป็นประตู หลังไลน์แมนได้บอกเขาผ่านไมค์สื่อสารว่าบอลได้ข้ามเส้นประตูไปแล้ว

 

ซึ่งถ้าลูกนั้นเข้าประตูไปจริงๆก็ไม่มีใครค้านอะไรหรอก แต่จังหวะนั้นลูกยิงถูกแข้งวัตฟอร์ดบล็อคและห่างจากปากประตูแบบชัดเจน ไม่แปลกที่นักเตะ,ทีมงาน และ แฟนบอลของแตนอาละวาดจะไม่พอใจกับการตัดสินของ แอตเวลล์ ในครั้งนี้

 

 

ประตูที่ถูกปฏิเสธของ ซิโก้ 

 

https://www.youtube.com/watch?v=QsZ2Qfuwc_Q

 

อีกเหตุการณ์ที่เป็นที่พูดถึงจากแฟนบอลพอสมควรในเกมที่บราซิล พบ สวีเดน ของฟุตบอลโลกปี 1978 ที่อาร์เจนติน่าเป็นเจ้าภาพ หลัง ไคลฟ์ โทมัส ผู้ตัดสินได้เป่าจบเกมหลังให้ลูกเตะมุมแก่ทีมเซเลเซา

 

ซิโก้ โหม่งทำประตูได้จากจังหวะเตะมุมนั้น แต่ก่อนหน้านั้น กรรมการดันเป่านักหวีดหมดเวลาออกมาก่อน ซึ่งเป็นการตัดสินที่ไม่สมควรอย่างมาก นั่นหมายความว่าทัพแซมบ้าต้องเอาชนะในเกมนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป

 

โชคดีที่พวกเขาทำสำเร็จ ไม่เช่นนั้น โทมัส คงกลายเป็นตัวร้ายประจำทัวร์นาเมนต์ที่แฟนบอลบราซิลไม่มีวันลืมแน่นอน

 

 

จุดโทษที่ไม่เป็นประตูของไนจีเรีย

 

 

ไนจีเรียได้ผ่านเข้าไปพบกับ แคเมอรูน ในนัดชิงศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ปี 2000 และเสมอกันแบบสุดมันส์ 2-2 ในช่วงเวลาปกติจนถึงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ทั้ง 2 ทีมต้องมาดวลจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ

 

แต่ในจังหวะที่ วิคเตอร์ อิคเปบ้า แข้งอินทรีมรกตยิงจุดโทษเข้าไป มูห์ราด ดามี่ ผู้ตัดสินกลับมองว่าลูกยิงนั้นยังไม่ข้ามเส้นเข้าไป แต่ภาพช้าจะยืนยันว่าลูกผ่านเข้าไปแบบเต็มใบ

 

ท้ายที่สุดทีมหมอผีเป็นฝ่ายดวลจุดโทษเอาชนะไปได้ 4-3 คว้าแชมป์ไปครอง แต่เหตุการณ์คงจะแตกต่างไปจากนี้ หากกรรมการตัดสินลูกยิงของแข้งไนจีเรียได้ถูกต้อง และไม่มีทางที่จะเกิดเหตุจลาจลหลังเกมอย่างแน่นอน

   

 

หัตถ์พระเจ้าของอองรี

 

 

ฝรั่งเศสเอาชนะไอร์แลนด์ในเกมเพลย์ออฟคว้าตั๋วไปเล่นศึกฟุตบอลโลกปี 2010 รอบสุดท้ายได้ แต่พวกเขาก็ต้องเจอกับคำครหามากมาย โดยเฉพาะ เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงตัวเก่งของทีมที่จงใจใช้มือช่วยประคองบอลเพื่อจ่ายให้กับ วิลเลี่ยม กัลลาส โหม่งทำประตูชัยในเกมวันนั้น

 

เหตุการณ์นี้ทำให้ภาพลักษณ์ของ ตำนานของอาร์เซน่อล ดูมัวหมองไปทันที แม้เจ้าตัวจะออกมายอมรับว่าแฮนด์บอลจริงและเรียกร้องให้มีการแข่งขันใหม่ แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และอองรีก็รับสถานะให้กลายเป็นวายร้ายในสายตาของแฟนบอลชาวไอริชไปตลอดกาล