คิวแน่นเอี้ยด : ส่องโปรแกรมท็อปทีมพรีเมียร์ลีกหลังเกมยุโรปฤดูกาล 2020-21

สโมสรเบอร์ต้นๆจากพรีเมียร์ลีก ล้วนเป็นขาประจำในฟุตบอลยุโรป ทั้งในแชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก ซึ่งปีนี้ก็ไม่ต่างกัน แต่ตารางแข่งจะเป็นอย่างไรในฤดูกาลที่โดนผลกระทบจากโควิด-19?

 

ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ 4 ตัวแทนที่ลงเล่นในบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ขณะที่ สเปอร์ส, อาร์เซน่อล และ เลสเตอร์ ได้ลงเล่นในบอลยุโรปถ้วยเล็ก ซึ่งเริ่มเปิดฉากนัดแรกแล้วในสัปดาห์นี้

 

อย่างไรก็ดี เกมลีกของแต่ละทีมจะเริ่มขึ้นทันที ลังจากฟาดแข้งในบอลระดับทวีปเสร็จสิ้นแต่ละนัด และกลายเป็นบททดสอบสุดหินของทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดี ว่าแต่สโมสรต่างๆจะต้องเจอศึกหนักในช่วง 2 เดือนเศษๆต่อจากนี้อย่างไร ลำบากแค่ไหน UFA ARENA จะพาทุกคนไปร่วมวิเคราะห์ผ่านบทความนี้

 

 

ลิเวอร์พูล 

 

 

ตุลาคม : เชฟฟิลด์ (24, เหย้า), มิดทิลแลนด์ (27, เหย้า), เวสต์แฮม (31, เหย้า)
พฤศจิกายน : อตาลันต้า (3, เยือน), แมน ซิตี้ (7, เยือน), อตาลันต้า (25, เหย้า), ไบรท์ตัน (28, เหย้า)
ธันวาคม : อาแจ็กซ์ (1, เหย้า), วูล์ฟ (5, เหย้า), มิดทิลแลนด์ (9, เยือน), ฟูแล่ม (12, เยือน)

 

หงส์แดงมีโปรแกรมการแข่งขันหลังแชมเปี้ยนส์ลีกที่ค่อนข้างไม่หนักเท่าไรนัก และเพิ่งประเดิมชัยเกมแรกกับ อาแจ็กซ์ 1-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยในเกมลีกต้องพบกับทีมกลางๆอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เวสต์แฮม, ไบรท์ตัน และ ฟูแล่ม โดยจะแบ่งเป็นเกมเหย้าและเยือนอย่างละ 3 นัด

 

อย่างไรก็ตาม แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อนต้องดวลเกมสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังบุกไปเยือน อตาลันต้า ในบอลยุโรป ซึ่งพวกเขาต้องลงเล่น 7 นัด ภายในเวลาแค่ 21 วัน นอกจากนี้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังต้องทำศึกกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ต่อจากเกมแชมเปี้ยนส์ที่เปิดบ้านพบ อาแจ็กซ์ ช่วงต้นเดือนธันวาคมด้วย

 

และความแข็งแกร่งด้านความหลากหลายในทีมของกุนซือหงส์แดงจะถูกทดสอบอย่างแน่นอนในช่วงพวกเขาต้องลงเล่นโดยไม่มี เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ต กองหลังตัวเก่งที่ส่อแววพักยาวจากการบาดเจ็บหัวเข่า

 

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

 

ตุลาคม : เวสต์แฮม (24, เยือน), มาร์กเซย (27, เยือน), เชฟฟิลด์ (31, เยือน)
พฤศจิกายน : โอลิมเปียกอส (3, เหย้า), ลิเวอร์พูล (7, เหย้า), โอลิมเปียกอส (25, เยือน), เบิร์นลี่ย์ (28, เหย้า)
ธันวาคม : ปอร์โต้ (1, เยือน), ฟูแล่ม (5, เหย้า), มาร์กเซย (9, เหย้า), แมนยูไนเต็ด (12, เยือน)

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประเดิมนัดแรกในแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างสวยงามหลังทุบ ปอร์โต้ 3-1 เมื่อวานนี้ มีโปรแกรมคล้ายคลึงกับ ลิเวอร์พูล ตรงที่พวกเขาจะพบกับทีมที่ห่างชั้นพอสมควร อย่าง เวสต์แฮม, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ ฟูแล่ม หลังเกมแชมเปี้ยนส์ลีก และจะเปิดบ้านพบ เบิร์นลี่ย์ ในช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายน หรือ 3 วันหลังจากบุกไปเยือน โอลิมเปียกอส ยอดสโมสรจากกรีซ

 

เรือใบสีฟ้า มีเกมเหย้าและเยือนอย่างละ 3 นัดหลังจากศึกใหญ่ในยุโรป โดยมีเกมสำคัญที่พวกเขาต้องเน้น คือการดวลศึกดาร์บี้ กับ แมนเชสสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเกมนัดสุดท้ายในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กับ มาร์กเซย

 

อีกทั้งยังมีเกมสำคัญก่อนหน้านี้ที่จะเปิดรังเอติฮัด พบกับ หงส์แดงแชมป์เก่า ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนด้วย

 

 

เชลซี

 

 

ตุลาคม : แมนยูไนเต็ด (24, เยือน), คราสโนด้า (28, เยือน), เบิร์นลี่ย (31, เยือน)
พฤศจิกายน : แรนส์ (4, เหย้า), เชฟฟิดล์ (7, เหย้า), แรนส์ (24, เยือน), สเปอร์ส (28, เหย้า)
ธันวาคม : เซบีย่า (2, เยือน), ลีดส์ (5, เหย้า), คราสโนด้า (8, เหย้า), เอฟเวอร์ตัน (12, เยือน)

 

ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด คงต้องเผชิญหน้ากับเกมสุดอันตรายมากกว่าหนึ่งนัด หลังเกมแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนี้ และไม่มีเกมไหนหนักหนาไปกว่าการบุกไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในคืนวันเสาร์นี้ ซึ่งนับเป็นเวลา 4 วันหลังจากเกมพบกับ เซบีย่า ในรังเหย้า โดยนัดแรกบุกไปเสมอกันมาก่อน 0-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจาก ปีศาจแดง แล้ว เชลซี ต้องเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการกลับมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในฐานะกุนซือคู่แข่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รวมถึงเกมพบ ลีดส์ และ เอฟเวอร์ตัน หลังเกมยุโรป ก็หนักเอาเรื่องไม่แพ้กัน

 

และเช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล กับ ซิตี้ สิงห์บลู จะมีเกมลีกเหย้าและเยือนอย่างละ 3 นัดเท่ากัน หลังกลับมาจากการเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกช่วงกลางสัปดาห์

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ตุลาคม : เชลซี (24, เหย้า), แอร์เบ ไลป์ซิก (28, เหย้า), 
พฤศจิกายน : อาร์เซน่อล (1, เหย้า) อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (4, เยือน), เอฟเวอร์ตัน (7, เยือน), อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (24, เหย้า), เซาแธมป์ตัน (28, เยือน)
ธันวาคม : เปแอสเช (2, เหย้า), เวสต์แฮม (5, เยือน), แอร์เบ ไลป์ซิก (8, เยือน), แมน ซิตี้ (12, เหย้า)

 

แม้อยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ ของแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมนัดแรกได้สวยกับชัยชนะเหนือ เปแอสเช 2-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ศึกหนักก็รอพวกเขาอยู่หลังจากนั้นอีก 4 วันต่อมา เมื่อต้องเปิดบ้านพบกับ เชลซี ในพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้

 

ไม่เพียงแค่นั้น ปีศาจแดง จะต้องต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล คู่อริรลุ้นท็อปโฟร์ในลีก ซึ่งเป็น 4 วันหลังจากเปิดบ้านพบกับ แอร์เบ ไลป์ซิก และหลังจากที่พวกเขาเสร็จสิ้นเกมสุดท้ายในบอลยุโรปกับ ยอดทีมจากเยอรมัน ก็ต้องทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ กับ ซิตี้ ต่อทันที

 

นอกเหนือจาก 3 เกมลีกใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยูไนเต็ด ต้องเจอบททดสอบด้วยการบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ทีมที่พวกเขาพ่ายไป  4-0 ในปีก่อน เช่นเดียวกับ เซาแธมป์ตัน และ เวสต์แฮม ที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน

 

 

อาร์เซน่อล

 

 

ตุลาคม : ราปิด เวียนนา (22, เยือน), เลสเตอร์ (25, เหย้า), ดัลดาร์ค (29, เหย้า)
พฤศจิกายน : แมนยูไนเต็ด (1, เยือน), โมลด์ (5, เหย้า), แอสตัน วิลล่า (7, เหย้า), โมลด์ (26, เยือน), วูล์ฟ (28, เหย้า)
ธันวาคม : ราปิด เวียนนา (3, เหย้า), สเปอร์ส (5, เยือน), ดัลดาร์ค (10, เยือน), เบิร์นลี่ย์ (12, เหย้า)

 

ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะเล่นเกมลีกในบ้านถึง 4 นัด หลังจากเกมยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ และการที่ลงเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยรอง ทำให้ อาร์เซน่อล มีตารางแข่งเป็นวันพฤหัสบดี และ วันอาทิตย์บ่อยๆ

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะคู่แข่งที่ชื่อชั้นเป็นรองพอสมควรในยูโรป้า ลีก แต่การกลับมาเล่นเกมเยือนในลีก 2 นัดนั้น ปืนใหญ่ต้องพบกับคู่แข่งแย่งตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนทำศึกดาร์บี้กรุงลอนดอนเหนือกับ สเปอร์ส

 

 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

 

 

ตุลาคม : ลินซ์ (22, เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (26, เยือน), รอยัล อันท์เวิร์ป (29, เยือน)
พฤศจิกายน : ไบรท์ตัน (1, เยือน), ลูโดโกเรต์ส รัซกราด (5, เยือน), เวสต์บรอม (7, เยือน), ลูโดโกเรต์ส รัซกราด (26, เหย้า), เชลซี (28, เยือน)
ธันวาคม : ลินซ์ (3, เยือน), อาร์เซน่อล (5, เหย้า), รอยัล อันท์เวิร์ป (10, เหย้า), คริสตัล พาเลซ (12, เยือน)

 

สเปอร์ส ไม่เหมือนกับอริร่วมเมือง เนื่องจากพวกเขาต้องออกไปเล่นเกมเยือนในลีกถึง 4 นัด หลังศึกยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนี้ ซึ่งงานยากที่สุดคงต้องยกให้การกลับไปเยือนสโมสรเก่าของ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่าง เชลซี ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน

 

ขณะเดียวกัน ไก่เดือยทอง จะเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้ลอนดอนเหนือกับ อาร์เซน่อล ช่วงต้นเดือนธันวาคม โดย เดอะ สเปเชี่ยล วัน คงหวังว่าสโมสรเข้าการันตีเข้ารอบต่อไปในฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก ก่อนเกมสุดสำคัญนั้น

 

 

เลสเตอร์ ซิตี้

 

 

ตุลาคม : ซอร์ย่า ลูแฮงส์ (22,เหย้า), อาร์เซน่อล (25, เยือน), เออีเค เอเธนส์ (29, เยือน)
พฤศจิกายน : ลีดส์ (2, เยือน), สปอร์ติ้ง บราก้า (5, เหย้า), วูล์ฟ (7, เหย้า), สปอร์ติ้ง บราก้า (26, เยือน), ฟูแล่ม (28, เหย้า)
ธันวาคม : ซอร์ย่า ลูแฮงส์ (3, เยือน), เชฟฟิดล์ ยูไนเต็ด (5, เยือน), เออีเค เอเธนส์ (10, เหย้า), ไบรท์ตัน (13, เหย้า)

 

ถึงแม้ลูกทีมของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะได้ลงเล่นเกมเหย้าเยือนในลีกเท่าๆกัน หลังศึกยูโรป้า ลีกก่อนลุยศึกช่วงคริสมาสต์ แต่ 3 เกมแรกในลีก เลสเตอร์ ต้องเจอศึกหนักพอตัว

 

จิ้งจอกสีน้ำเงิน ต้องบุกไปเยือน อาร์เซน่อล และ ลีดส์ หลังจาก 2 นัดแรกในบอลยุโรปถ้วยรอง ก่อนจะเปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆดูง่ายขึ้น เมื่อ เดอะ ฟ็อกซ์ จะเปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม และ ไบรท์ตัน 2 ทีมตารางล่าง ซึ่งมีเกมพบบุกไปเยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นนัดขั้นกลาง