คู่แค้นแสนรัก: 10 นักเตะ&กุนซือที่ปราสาทใช้ร่วมกิเลน

ข่าวใหญ่ของวงการลูกหนังไทย “กิเลนผยอง” ทีมดังในศึกโตโยต้า ไทยลีก ตัดสินใจ เเยกทาง ยุน จอง ฮวาน กุนซือสายเลือดโสมขาว เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว หลังจากผลงานไม่กระเตื้องขึ้นเลย เเละว่ากันว่า การเเยกทางระหว่าง เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ ของเมืองทองฯ เพื่อเปิดทางให้ อเล็กซานเดร กามา ยอดกุนซือชาวบราซิลมารับงานต่อในการนำ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กลับมาผงาดอีกครั้ง

 

ล่าสุดสดร้อนๆ อเล็กซานเดร กามา ได้เข้าไปคุมทัพกิเลนผยอง อย่างเป็นทางการเเล้ว นั้นก็หมายความว่า เมืองทองฯ จะใช้อดีตคนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้กุนซือชาวเเซมบ้า เคยคุม “ปราสาทสายฟ้า” ช่วงปี 2014-16 เเละจัดการกวาดทุกเเชมป์ให้สาวก “เซราะกราว” ได้เชยชม เเละทาง ufaarena.com จะมาเปิดรายชื่อว่านักเตะเเละโค้ชคนไหนที่เคยผ่านการทำงานกับ “กิเลนผยอง” เเละ “ปราสาทสายฟ้า” บ้างในอดีตที่ผ่านมา

 

ธีราธร บุญมาทัน

นักเตะรายเเรกเปิดหัวมา คือ “ซ้ายปีศาจ” ธีราธร บุญมาทัน นี้คือการย้ายทีมที่ทำเอาสะเทือนวงการลูกหนังไทยอย่างมาก  ใครจะเชื่อว่าลูกรักของ “บิ๊กเน” บอสใหญ่ของปราสาทสายฟ้า จะคิดย้ายออกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เเต่ก็เกิดขึ้นเเล้วเมื่อเลกสองของปี

 

2016 นักเตะที่พาบุรีรัมย์ คว้า 20 เเชมป์ โยกมาเล่นให้อริตลอดกาลอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่ลือกันว่าหลัก 30 ล้านบาท ทำเอาเเฟนปราสาท ไม่พอใจอย่างหนัก เเต่ก็เป็นวิถีลูกหนัง เเละเจ้าอุ้ม ก็นำเมืองทองฯ คว้าเเชมป์ไทยลีก ก่อนพาทีมทะลุ รอบ 16 ทีมเอเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ ของสโมสร ล่า ก่อนที่ จะโบยบินไปค้าเเข่งในศึกเจลีกกับ วิสเซล โกเบ เเละ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในปัจจุบัน

อดิศักดิ์ ไกรษร

ก่อนหน้าที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ยังคงเป็นนักเตะดาวรุ่งของ เมืองทองฯ ได้ถูกส่งไปลับคมที่ ภูเก็ต เอฟซี ในเวลานั้น ฝีเท้าได้ไปเตะตาของทีมงาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เเละเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวปราสาทสายฟ้าด้วย ทำให้ ยอดทีมเเดนอีสานใต้ สนใจอย่างหนัก เเละได้เกิดการเซ็นสัญญาคว้าตัวเมื่อปี 2011 เเละค้าเเข้งที่ถิ่นช้าง อารีน่า 4 ปี ก่อนที่ เมืองทองฯ ต้นสังกัดเดิม คว้าตัวเจ้ากอล์ฟมาล่าตาข่ายอีกครั้ง เมื่อปี 2016 เเละยังค้าเเข้งจนถึงปัจจุบัน

จักรพันธ์ เเก้วพรม

เป็นการสูญเสียนักเตะคนสำคัญที่สุดของเมืองทอง ให้กับ บุรีรัมย์ อีกคนหนึ่งก็ว่าได้ เมื่อทัพ ปราสาทสายฟ้า กระชาก จักรพันธ์ แก้วพรม กลับไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอน เวลาเเห่งความสุขของกิเลนผยอง ได้คว้าเเชมป์ ร่วมกับ “โน๊ต” เมื่อปี 2010 ในช่วงตลาดเปิด บุรีรัมย์ กำลังสร้างทีมในเวลานั้น ได้นำยอดมือฟิลด์ของกิเลนกลับไปเล่นที่บ้านเกิด    เเละนำ ทัพปราสาทสายฟ้า คว้าเเชมป์ไทยลีก อีก 7 สมัย เเชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ 5 สมัย เเละ เเละ ช้าง เอฟเอ คัพ 4 สมัย นี้คือนักเตะที่เมืองทอง ต้องเสียดายที่สุดก็ว่าได้

 

กองกลางหมายเลข 10 เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวบุรีรัมย์โดยกำเนิด แต่เริ่มต้นการค้าแข้งอาชีพครั้งแรกกับ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนย้ายมาเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2010 และพาพลพรรค กิเลนผยอง คว้าแชมป์ได้ในปีนั้น ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมบ้านเกิดในปี 2011 และเป็นกำลังหลักของทีมกวาดแชมป์ลีกได้ถึง 5 สมัย

 

กองกลางเชิงสูงเติบโตมากับ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะถูกเมืองทองฯ กระชากตัวไปร่วมทัพเมื่อปี 2010 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งลงสนามช่วยทีมทุกรายการไปถึง 43 นัดยิง 4 ประตู คว้าดาวรุ่งยอดเยี่ยของสโมสร ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาจากการเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาว จ.บุรีรัมย์ “โน๊ต” ก็ถูกปราสาทสายฟ้าคว้าตัวไปร่วมทัพและพาทีมประสบความสำเร็จมากมายอยู่ในเวลานี้


แจ็คสัน โคเอลโญ่

“จาจ้า” ได้เข้ามาสู่วงการไทยลีก กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2017 ถือว่าเป็นกองหน้าที่เเข็งเเกร่งอย่างมาก พาทีมเซราะกราวคว้าเเชมป์ ไทยลีก สมัยที่ 5 จัดการยิงไปถึง 34 ประตูในปีนั้น เเต่จนเเล้วจนรอดต้องออกจากทีมเพราะ ตกลงเรื่องสัญญากันไม่ได้ ถูกปล่อยกลับไปที่ต้นสังกัดเดิม โลเคอเรน ทีมในลีกสูงสุดประเทศเบลเยียม

 

เเละในปี 2018 เมืองทองฯ มีปัญญากองหน้าขาดเมื่อ ธีรศิลป์ เเดงดา ไปลุยเจลีก ทำให้ บอร์ดกิเลนมองไปที่ แจ็คสัน โคเอลโญ่ เเละได้ปิดีลคว้ามาร่วมทีมเป็นการนำอดีตเเข้งบุรีรัมย์ มาเป็นเครื่องมือในการล่าตาข่าย เเต่เมื่อ “จาจ้า” นำเมืองทองเจอบุรีรัมย์ ยิงไม่ได้สักประตูเเถม โดนทัพปราสาทยิงยับทั้ง 2 นัดในฤดูกาล 2018


สุริยา ดอมไธสง

ความเป็นบ้านเลือดเนื้อชาวบุรีรัมย์ ทำให้ เมืองทอง ต้องเสียนักเตะให้ทัพปราสาทไปหลายราย รวมถึง สุริยา ดอมไธสง ยอดกองหน้าเเห่งยุครุ่งเรืองของกิเลนผยอง ปี 2009   คว้าเเชมป์ไทยลีก สมัยเเรกให้กับเมืองทองฯ ได้สำเร็จ เเต่ทว่าทัพเเชมป์ไทยลีกต้องเจอทีมทุนหนาอย่าง ปราสาท ที่ได้ลายเซ็น สุริยา ดอมไธสง กองหน้าของทีม ไปในที่สุดหลังจากฉลองเเชมป์

 

โดย สุริยา ดอมไธสง เล่นให้ทีมบ้านเกิดในยุค บุรีรัมย์ พีอีเอ และ บุรีรัมย์ เอฟซี  ก่อนที่จะถูกส่งไปช่วยทีมที่ดูเเลอย่าง สุรินทร์ ซิตี้ ในปี 2014 เป็น โค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ เเละปัจจุบันได้เเขวนสตั๊ดไปเเล้ว เเละนี้เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โลดเเล่นทั้ง เมืองทอง เเละ บุรีรัมย์ ในอดีตที่ผ่านมา

ประกิต ดีพร้อม

ปี 2014 ทีโอที เอสซี ได้ขาย ประกิต ดีพร้อม ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 10 ล้านบาท หลังจากที่คว้าเเชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ โดยสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น เเต่ทว่า ฟอร์มกับปราสาทสายฟ้า ไม่ค่อยจะดี จึงได้ปล่อยให้กับ ชลบุรี เอฟซีในเลกสอง ของปี 2016

 

จากนั้นเส้นทางของ ประกิต ดีพร้อม ได้เข้ามาอยู่กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่ปรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เเต่การมาครั้งนี้ ถือว่าได้กลับมาบ้าน เพราะว่าเมื่อปี 2007 ตัวรุกรายนี้ เคยอยู่ในชุด เเชมป์ดิวิชั่น 2 ของทัพ กิเลน เเละเป็นการกลับมาเล่นกับเพื่อนรักอย่าง เจ้ามุ้ย ธีรศิลป์ เเดงดา อีกครั้ง ในปี 2017


ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร

เป็นข่าวที่ฮือฮาอย่างมากในเวลานั้นเมื่อ “ปราสาทสายฟ้า” จัดการคว้าตัว ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร ปีกความเร็วสูงวัย 18 ปี ลูกครึ่ง ไทย-ลาว-สวิส เมื่อปี 2013 โดยย้ายจาก อิแวร์ดง ทีมในดิวิชั่น 2 สวิตเซอร์แลนด์ มาเล่นที่เมืองไทย เเต่มีอาการบาดเจ็บ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่เข้าตาได้ ทำให้ ยอดทีมจากเเดนอีสานใต้ เห็นชอบว่าควรปล่อยออกจากทีม เเละเป็น เมืองทอง ที่ไปนำ ปีกกระดูกยุง มาร่วมทีมในเลกสองของปี 2013 เเต่มาเมืองทอง ก็เหมือนเดิมเจอพิษอาการบาดเจ็บไม่สามารถช่วยทีมได้มาก ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกไปในที่สุด ในปีถัดมา เเม้ว่า ชิตชนก จะโชว์ฟอร์มไม่เข้าตาเเต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีการซื้อขายระหว่างทีมคู่รักคู่เเข้งของวงการบอลไทย

ชาริล ชัปปุยส์  

ปราสาทสายฟ้า ได้เขย่าวงการบอลไทยด้วยการคว้าตัว นักเตะที่ต้องบอกว่า หล่อที่สุดในยุคนั้นคือ ชาริล ชัปปุยส์ เมื่อปี 2013 สร้างกระเเสให้ ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ให้เป็นที่โด่งดัง โดยเฉพาะกองเชียร์สาวๆ ได้เพิ่มจำนวนในการหันมาเชีบร์บุรีรัมย์ มากขึ้น ฟอร์มของ สุดหล่อไทย-สวิตฯ กำลังดี เเต่ต้องมากเจ็บหนัก ในเกม เอเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ลีก ที่ไปกระโดดดีใจจนขาหัก ต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน เเละสุดท้ายฟอร์มก็ดรอปลงมาเรื่อยๆ จนถูกปล่อยตัวไปให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ในปีถัดมา

 

มาอยู่สุพรรณบุรี ถูกเรียกติดทีมชาติไทย ยู- 23 ปี ไปคว้าอันดับ4 เอเชียนเกมส์ 2014  เเละขึ้นชุดใหญ่ นำช้างศึกคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ทำให้ชื่อของ ชัปปุยส์ กลับมาดังเป็นพรุเเตกอีกครั้ง เล่นอยู่เมืองขุนเเผน 3 ปี จนไปเข้าตาเมืองทอง ทั้งฝีเท้าเเละหน้าตาที่หล่อจนสาวต้องมอง กิเลนผยองเดินหน้าล่าลายเซ็นอดีตเเข้งบุรีรัมย์อีกครั้ง จนในที่สุดได้ตัวมาครอง เมื่อปี 2017 เเละอยู่กับทีมจนถึงปัจจุบัน  

อรรถพล ปุษปาคม

ชื่อนี้คือกุนซือที่เก่งที่สุดของเมืองไทยก็ว่าได้ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม ที่ผ่านมาเคยคุมทั้ง เมืองทอง เเละ บุรีรัมย์ มาเเล้วเเละได้ฝากผลงานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งสอง สโมสร เป็นกุนซือไทยที่ได้รับความชื่นชมอย่างกว้างขวาง

 

“โค้ชแต๊ก” กุนซือผู้ล่วงลับ ได้วางรากฐานความยิ่งใหญ่ ให้กับทัพ กิเลนผยอง ด้วยการพาทีมผงาดเเชมป์ไทยลีก ครั้งเเรกเมื่อปี 2009 เเต่ทว่า เมืองทอง ก็โดน คู่รักคู่เเค้นอย่าง บุรีรัมย์ นำ ยอดกุนซือของทีมไปอยู่ที่ทัพปราสาทสายฟ้า โดยในเวลานั้น ยอดทีมจากอีสานต้องการ สร้างทีมให้ยิ่งใหญ่ในวงการบอลไทย

 

ด้วยประสบการณ์ของ “โค้ชแต๊ก” ได้เสกบุรีรัมย์ ให้คว้าเเชมป์ไทยลีกในอีก 2 ปี ต่อมา จากนั้นถ้วยเเชมป์ ก็หลั่งไหลเข้าสโมสร ทั้ง รวมเเล้วได้เเชมป์ ไทยลีก 2 สมัย ช้าง เอฟเอฟ คัพ 2 สมัย โตโยต้า ลีก คัพ 3 สมัย เเชมป์ถ้วย ก. เเลพนำ บุรีรัมย์ ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งเเรกอีกด้วย

สกอตต์ คูเปอร์

หลังจากที่ บุรีรัมย์ เเยกทางกับ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม ก็ได้จัดารเเต่งตั้ง สก๊อตต์ คูเปอร์ อดีตกุนซือเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และอดีตผู้อำนวยการเทคนิคของเลสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาคุมทีมเเทน เเละได้มาสานต่อภารกิจ ในการนำ บุรีรัมย์ เล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ลีก เเต่ต้องตกรอบด้วยน้ำมือของ เอสเตกัล ยอดทีมจาก อิหร่าน เเต่ คูเปอร์ อยู่บุรีรัมย์ ไม่ถึงปีต้องเเยกทางกับทีม โดยมีปัญหาส่วนตัว ในปี 2013

 

จากนั้น ปี 2014  สกอตต์ คูเปอร์ ได้สร้างเซอร์ไพรส์ มาคุมทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นที่ฮือฮาไม่น้อยในช่วงนั้น กลายเป็นความหวังใหม่ของสาวกกิเลนผยอง ที่ต้องการเห็น คูเปอร์ นำทีมโค่น บุรีรัมย์ ให้ได้ เเต่ไม่กี่เดือนต่อมา จากการเปิดตัว วันที่2 ม.ค.14 เเละ วันที่ 30 มี.ค.14 กิเลนก็ทำการประกาศเเยกทางกับ กุนซือชาวอังกฤษซะอย่างนั้น เป็นที่งุนงงของเเฟนบอลทั่วไป เเต่ก็ถือว่า สกอตต์ คูเปอร์ คือกุนซืออีกคนหนึ่งที่ทำงานกับสองทีมที่เป็นคู่ต่อกรเบอร์หนึ่งของวงการลูกหนังไทย