งานหนักอึ้ง! 6 ประเด็นร้อนก่อนเกม ‘ช้างศึก’ บุกถิ่น ‘ดาวทอง’

 

ทีมชาติไทย มีโปรแกรมนัดสำคัญต้องบุกไปเยือน ทีมเวียดนาม ที่สนาม หมี่ ดิ่ญ สเตเดี้ยม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในวันที่อังคารที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นแมตช์ที่สำคัญต่อทั้งสองทีมมากๆ

 

อย่างไรก็ตามคงต้องยอมรับว่าการบุกไปเยือนทัพ “ดาวทอง” ของทีม “ช้างศึก” ในเวลานี้คงเป็นงานที่หนักไปน้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงที่ลูกทีม ปาร์ค ฮัง ซอ กำลังมั่นใจสุดๆ หลังพวกเขาเพิ่งเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาได้สำเร็จ ขณะที่ทางฝั่งทีมของ อากิระ นิชิโนะ เพิ่งเสียขวัญไม่น้อยกับการบุกไปแพ้ มาเลเซีย ในเกมที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ยังอีกหลายประเด็นที่ดูแล้ว น่าจะส่งผลให้เกมที่ ทีมชาติไทย จะบุกไปเยือน ทีมชาติเวียดนาม ในเกมแมตช์คงจะเป็นงานที่หนักอึ้งแน่นอน

 

 

สภาพร่างกาย ‘ช้างศึก’ มีปัญหาแน่

 

ประเด็นแรกซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจไม่น้อยสำหรับลูกทีม อากิระ นิชิโนะ ที่เพิ่งลงเล่นในเกมหนักสุดๆ กับการบุกไปแพ้ มาเลเซีย 2 – 1 นั่นคือปัญหาสภาพร่างกายที่น่าจะมีผลกระทบไม่น้อยสำหรับเกมที่จะต้องไปเยือน เวียดนาม

 

โดยภายหลังจากแมตช์พบกับขุนพล “เสือเหลือง” ที่สนาม บูกิต จาลิล สเตเดี้ยม ทัพ “ช้างศึก” มีโปรแกรมต้องเดินทางต่อไปเล่นในเกมเยือนซึ่งจะต้องพบกับ เวียดนาม ทันที ในวันอังคารนี้ แน่นอนว่าเวลาสำหรับการฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักเตะมีน้อยมาก และหลายคนเพิ่งกรำศึกหนักกับการลงเล่นเกมฟุตบอลลีกตลอดซีซั่นที่ผ่านมาด้วย

 

เพราะฉะนั้นการเจอกับลูกทีม ปาร์ค ฮัง ซอ ซึ่งเป็นทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องของพละกำลังวิ่งไม่มีหมด เชื่อว่าเกมนี้น่าจะเป็นงานหนักของ ทีมชาติไทย แน่นอน และหากเทียบเรื่องสภาพความสมบูรณ์ของผู้เล่นแต่ละคนแล้ว ต้องยอมรับว่าเราเป็นรองคู่แข่งอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

 

 

เวียดนาม กำลังมั่นใจหลังฟอร์มดีต่อเนื่อง 

 

ถึงเวลานี้คงต้องยอมรับกันตามตรงว่าขุนพลทัพ “มังกรทอง” คือหนึ่งในคู่ต่อกรที่แข็งแกร่งที่สุดของ ทีมชาติไทย ไปแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังมั่นใจสุดๆ แน่นอนว่าสำหรับทีมใดก็ตามที่ต้องเจอกับ เวียดนาม ชั่วโมงนี้ คงเป็นงานที่หนักอึ้งทีเดียวหากจะหวังมีแต้มติดไม้ติดมือให้ได้

 

ยิ่งไปกว่านั่นผลงานที่ร้อนแรงสุดๆ ของบรรดาแข้ง “เหงียน” ในช่วงหลังยังทำให้พวกเขาเติมเต็มความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างมาก ซึ่งนั่นรวมไปถึงการที่พวกเขาสามารถเปิดบ้านเอาชนะทีมแกร่งระดับแถวหน้าของเอเชียอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้สำเร็จ ถือเป็นการเรียกความมั่นใจครั้งสำคัญ ก่อนจะพบกับหนึ่งในทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ทีมชาติไทย ได้ไม่น้อยทีเดียว

 

ด้วยความมั่นใจที่มีอยู่เต็มเปี่ยมของทัพ “ดาวทอง” ในเวลานี้ การเปิดบ้านเจอกับลูกทีม อากิระ นิชิโนะ ในศึกบอลโลก รอบคัดเลือก ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เชื่อได้เลยว่าพวกเขาคงไม่มองแค่เพียงผลเสมอเท่านั้นแน่นอน

 

 

สถิติ ปาร์ค ฮัง ซอ คุมทีมเจอ ไทย ข่มมิด

 

นอกจากในเรื่องความมั่นใจของแข้ง เวียดนาม แล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่น่ากังวลสำหรับ อากิระ นิชิโนะไม่น้อย นั่นก็คือสถิติการคุมทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ ในการเจอกับทีม “ช้างศึก” รวมทุกชุด ซึ่งต้องบอกเลยว่าดูดีกว่าชัดเจน

 

โดยก่อนหน้านี้จากสถิติที่เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ คุมทีมเจอกับ ทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ และชุด U23 เคยเจอกันทั้งหมด 3 เกม ซึ่ง  “ลุงปาร์ค” สามารถพาทีมเอาชนะไปถึง 2 แมตช์ นั่นคือเกมศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ซึ่ง เวียดนาม บุกมาชนะ ไทย 1 – 0 รวมไปถึง รายการฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ ทัพ “มังกรทอง” เอาชนะไปแบบขาดลอย 4 – 0

 

ส่วนเกมล่าสุดที่ ปาร์ค ฮัง ซอ คุม ทีมชาติเวียดนาม พบกับ ไทย คือแมตช์ประเดิมสนามศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา

 

 

แนวรุกทัพ “ดาวทอง” ทีเด็ด

 

อีกหนึ่งสิ่งที่จะสร้างความลำบากใจให้กับ ทีมชาติไทย ในเกมนี้ คงหนีไม่พ้นความร้อนแรง และความอันตรายของบรรดาแข้งแนวรุกทางฝั่ง ทีมชาติเวียดนาม ที่กำลังโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และน่าจับตามองสุดๆ

 

โดยเฉพาะสองนักเตะตัวอันตรายที่ลูกทีมของ อากิระ นิชิโนะ ต้องระวังเป็นพิเศษในเกมนี้ นั่นก็คือ เหงียน กวง ไฮ แข้งเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของอาเซียน คนล่าสุด และ เหงียน คอง เฟือง ศูนย์หน้าจากสโมสร แซงต์ ทรุยด็อง ทีมแกร่งบนลีกสูงสุดเบลเยียม

 

ทั้งคู่ถือเป็นผู้เล่นที่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมได้ดี และยังสามารถจบสกอร์เองได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น ทัพ “ช้างศึก” คงต้องทำงานหนักกันพอสมควรสำหรับการหาวิธีหยุดความยอดเยี่ยมของทั้งคู่ให้ได้

 

นอกจากนี้นักเตะในแดนหน้าของ ทัพ “ดาวทอง” อย่าง เงวียน เตี๋ยน ลิญ ที่มีความเฉียบคมในการจบสกอร์ และ เหงียน วาน ต๊วน ซึ่งมีความเร็วไปกับบอลได้ดี อาจจะเป็นอีกสองนักเตะที่มีโอกาสสร้างความแตกต่างในเกมนี้ก็เป็นได้

 

 

แมตช์สำคัญชิงตำแหน่ง เจ้าอาเซียน

 

แน่นอนว่าสำหรับเกมในวันอังคารนี้ นอกจากทั้งคู่จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อลุ้นโอกาสในการผ่านเข้าสู่ในรอบต่อไปของศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แล้ว ยังถือเป็นแมตช์ตัดสินให้รู้ชัดเจนกันไปเลยว่า ระหว่าง ไทย และ เวียดนาม ใครกันแน่ คือเบอร์ 1 ของอาเซียน อย่างแท้จริง

 

ถ้าหากเทียบจากอันดับโลก ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง และผลงานในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ที่ผ่านมาทั้ง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และ เอเชียน คัพ 2019 คงต้องยอมรับว่า ทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ ดูเหนือกว่า อากิระ นิชินะ อยู่ไม่น้อย แต่ถ้าหากเทียบฟอร์มจากการเจอกันนัดที่ผ่าน ผลเสมอที่เกิดขึ้นยังทำให้เราไม่สามารถตัดสินได้ว่า ใครกันแน่ที่จะเป็นเต้ยในวงการฟุตบอลย่านภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะฉะนั้นแมตช์นี้จึงถือเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีของทั้งคู่ และคงไม่มีใครยอมแพ้กันง่ายๆ แน่นอน

 

 

เกมชี้ชะตาโอกาสเข้ารอบต่อไปของ ทีมชาติไทย

 

สถานการณ์โอกาสเข้ารอบต่อไปของทั้งสองทีมถือว่ายังได้ลุ้นกันแบบสนุกสุดมันส์ ถึงแม้ ทีมชาติไทย เพิ่งแพ้ให้กับ มาเลเซีย 2 – 1 ส่งผลให้ เวียดนาม ที่ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  1 – 0 แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม จี ทันที และมีแต้มมากกว่าถึง 3 คะแนน ก็ตาม

 

ในเกมถัดไปที่ทั้งคู่จะต้องเจอกันถือเป็นแมตช์ที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะกับทัพ “ช้างศึก” ซึ่งหากพวกเขายังหวังที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป นัดนี้อย่างน้อยๆ ต้องบุกไปเก็บ 1 แต้ม จากทัพ “ดาวทอง” มาให้ได้เท่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่หนักมากๆ ก็ตาม

 

แต่ถ้าหากพลาดท่าถึงขั้นแพ้ขึ้นมาในเกมนี้ คงต้องยอมรับว่าโอกาสที่จะลุ้นเข้ารอบ 12 ทีม สุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเชีย ของลูกทีม อากิระ นิชิโนะ แทบจะจบลงทันทีเลยก็ว่าได้