ศึกยูโร 2020 เป็นรายการที่แฟนฟุตบอลต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นบรรดาซุปเปอร์สตาร์ที่จะมาร่วมทีมกันวาดลวดลายให้ได้เห็น หลังจากที่ต้องเลื่อนมาจากซัมเมอร์ปีก่อนด้วยการระบาดของ โควิด-19
แต่ก็มีนักเตะบางรายที่เราจะอดเห็นพวกเขาลงสนามกันด้วยเหตุผลแตกต่างกันออกไป วันนี้ UFAARENA จะรวบรวมบรรดานักเตะชื่อดังที่เราจะไม่ได้เห็นกันในศึกยูโร 2020 ว่าจะมีใครกันบ้าง
ยาน โอบลัค | สโลวิเนีย
หนึ่งในนายทวารที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลก ต้องพลาดการไปเล่นบนเวที ยูโร 2020 เนื่องจากชาติบ้านเกิดของเขาอย่าง สโลวิเนีย ดันตกรอบไปในรอบคัดเลือกกลุ่มจี นั่นทำให้เราจะไม่ได้เห็น โอบลัค ในรายการนี้ทั้งที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่ผลงานส่วนตัวของเขาก็จัดว่ายอดเยี่ยมจากการพาตราหมีคว้าแชมป์ลาลีกามาครองได้จากการลงสนาม 46 นัด เก็บคลีนชีทไปมากถึง 20 ครั้ง พร้อมคว้ารางวัล ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมลาลีกาเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกันอีกด้วย
อารอน วาน บิสซาก้า | ทีมชาติอังกฤษ
แบ๊คตัวเก่งจากค่ายปีศาจแดงที่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นตัวหลักของทีมที่ยืนระยะให้ทีมอย่างต่อเนื่อง จากการลงสนาม 54 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นนักเตะวิงแบ็คที่มีจุดเด่นเรื่องเกมรับเป็นอันดับต้นๆ แม้ในเรื่องเกมรุกจะเด่นไม่เท่าแต่ก็มีผลงานไปถึง 6 แอสซิสต์เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามสำหรับทีมชาติอังกฤษ พวกเขาเป็นทีมที่มีการแข่งขันในตำแหน่งแบ็คขวาที่สูงลิบ เนื่องจากมีทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ , รีซ เจมส์ , คีแรน ทริปเปียร์ รวมถึง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ในรายหลังแม้จะเจ็บไปแล้ว แต่ก็เป็นตัวเลือกแรกๆของทีมก่อนเจ้าตัวอยู่ดี จนถึงขั้นที่ว่าก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า วาน บิสซาก้า จะย้ายไปเล่นให้ทีมชาติคองโก เลยด้วยซ้ำ
เซร์คิโอ รามอส | ทีมชาติสเปน
ปราการหลังตัวเก๋าจาก เรอัล มาดริด ที่ถือเป็นเสาหลักในเกมรับของทีมชาติสเปนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2005 และยังเป็นหนึ่งในทีมชุดครองความยิ่งใหญ่คว้า ยูโร 2008 , 2012 และ แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 นอกจากนี้ในปัจจุบันเขาก็ได้รับปลอกแขนกัปตันทีมอีกด้วย
แต่กับรายการยูโร 2020 เขาไม่สามารถเดินทางร่วมกับทีมไปได้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เขาต้องเจอมาตลอดทั้งซีซั่น จนได้ลงสนามไปแค่ 21 นัดจากทุกรายการเท่านั้น แม้ในช่วงท้ายซีซั่นเขาจะเริ่มกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถเรียกความฟิตกลับมาได้ทัน ทำให้ทัพกระทิงดุจำใจต้องตัดชื่อเขาออกไปจากทีม
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค | ทีมชาติฮอลแลนด์
แนวรับจากค่ายหงส์แดงที่นับว่าเป็นตัวหลักของทั้งระดับสโมสร และทีมชาติแต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่เจอตั้งแต่ต้นฤดูกาล ทำให้เขาต้องพักยาวตลอดทั้งซีซั่น แม้ว่าจะเริ่มกลับมาลงซ้อมได้แล้วแต่มันก็ยังไม่ทันสำหรับศึกยูโร ซัมเมอร์นี้
ซึ่งในรายของ ฟานไดจ์ค ไม่ได้โดนกุนซือทีมชาติตัดชื่อไปแต่อย่างใด แถมยังคาดหวังให้เขาไปลงเล่นให้ทีมด้วยซ้ำ แต่เป็นทางตัวนักเตะเองที่ออกมาประกาศว่าจะขอถอนตัวจากศึกยูโร เพื่อมุ่งมั่นกับการเรียกความฟิตให้ทันช่วงปรีซีซั่นที่กำลังจะมาถึง
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ | ทีมชาติฝรั่งเศส
ว่าที่ปราการหลัง บาเยิร์น มิวนิค ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ไลป์ซิค จนเสือใต้ต้องไปดึงตัวมาร่วมทัพ จากการลงสนาม 41 นัดรวมทุกรายการ แต่สุดท้ายเจ้าตัวดันโดนตัดชื่อออกจากทัพตราไก่ไปแบบสุดช็อค ทั้งที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวนแต่อย่างใด แต่เมื่อมองไปที่ขุมกำลังของทีม ก็เรียกได้ว่าการแข่งขันค่อนข้างสูงเลยทีเดียว นอกจากนี้ทาง ดิดิเย่ร์ เดอชองส์ เองก็เลือกเรียก ชูลส์ กุนเด้ จากเซบีญ่า ติดทีมไปในฐานะกองหลังดาวรุ่งไปแทน
เตโอ เอร์นองเดซ | ทีมชาติฝรั่งเศส
แบ็คซ้ายฟอร์มแรงจากค่ายปีศาจแดงดำที่ในฤดูกาลนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดด้วยการยิงไป 8 ประตู 8 แอสซิสต์ จาก 45 นัดรวมทุกรายการ แต่กลับไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ ดิดิเย่ร์ เดอชองส์ เนื่องจากเลือกใช้งานทางพี่ชายของเจ้าตัวอย่าง ลูคัส เอร์นานเดซ ยืนในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน ส่วนอีกรายที่ถูกเรียกติดทีมไปเป็น ลูคัส ดีญ จาก เอฟเวอร์ตัน
มาร์โก้ รอยส์ | ทีมชาติเยอรมัน
อีกหนึ่งสตาร์ดังผู้อาภัพกับการเล่นทีมชาติ แม้ว่าเขาจะฟอร์มดีแค่ไหนกับดอร์ทมุนด์ เขาก็มักจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บมารบกวนก่อนรายการฟุตบอลทีมชาติทุกครั้งไป จนทำให้เขาติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแค่ 44 นัดเท่านั้น แถมหนักไปในเกมกระชับมิตรเสียส่วนใหญ่ถึง 19 นัด แฃะรอบคัดเลือกยูโรอีก 12 นัด
แม้ว่าในฤดูกาลปัจจุบัน รอยส์จะไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเลย และแทบจะเป็นซีซั่นที่เขาสมบูรณ์ที่สุด แถมฟอร์มการเล่นก็จัดว่าแจ่มกดไป 11 ประตู 14 แอสซิสต์ จาก 49 นัดรวมทุกรายการ แต่เขาก็เลือกที่จะประกาศถอนตัวออกจากทีมชาติด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลเรื่องความล้าของร่างกาย และอยากใช้เวลาในช่วงซัมเมอร์เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างเต็มที่
เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช | ทีมชาติเซอร์เบีย
กองกลางมูลค่าสูงจาก ลาซิโอ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา อย่างในฤดูกาลล่าสุดเขาก็กดไป 8 ประตู 11 แอสซิสต์ จาก 41 นัดรวมทุกรายการ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทีมชาติเซอร์เบียดันไม่สามารถทะลุผ่านเข้ามาเล่นในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ กับการจบเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม B แม้จะได้โอกาสไปเพลย์ออฟ แต่ก็ไปแพ้ให้กับ สก็อตแลนด์อีกจนพลาดตั๋วไปอย่างน่าเสียดาย
โดมินิก โซบอสซ์ไล | ทีมชาติฮังการี
แนวรุกจากไลป์ซิคถือเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยส่งทีมชาติฮังการี ในเกมรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายที่พบกับ ไอซ์แลนด์ ซึ่งเจ้าตัวซัดประตูที่ 2 ให้กับทีมในช่วงทดเวลาเฉือนเอาชนะคู่แข่งมาได้ จนสามารถพาทีมทะลุเข้ามาเล่นในเกมยูโร 2020 รอบสุดท้ายได้เป็นผลสำเร็จ
แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาดันเจออาการบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่ช่วงกลางซีซั่น ทั้งที่เพิ่งลงสนามไปแค่ 22 นัดเท่านั้น และต้องพักยาวไปถึงจบซีซั่น ซ้ำร้ายเขายังไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาช่วยทีมชาติของตัวเองได้ในศึกยูโร ที่จะลงเตะช่วงซัมเมอร์นี้อีกด้วย
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช | ทีมชาติสวีเดน
หัวหอกตัวเก๋าวัย 39 ปี เพิ่งถูกสวีเดน เรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง หลังจากเคยประกาศอำลาทีมชาติไปเมื่อ 5 ปีก่อน หลังจบศึก ยูโร 2016 ซึ่งในครั้งนั้นพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มไป แต่ด้วยผลงานของเขาที่แม้อายุอานามจะเกือบ 40 แล้วแต่ฟอร์มก็ยังดีอยู่บนเวทีระดับสูงจากการยิงให้ เอซี มิลานไป 17 ประตู จากการลงสนาม 27 นัดรวมทุกรายการ
แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้สภาพร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิม และเจออาการบาดเจ็บรบกวนตลอดทั้งฤดูกาล แต่ที่แย่คือการที่เขาเพิ่งมาเจ็บอีกครั้งในช่วงท้ายซีซั่น แม้เจ้าตัวจะยังยืนยันว่าจะขอทำเต็มที่เพื่อเรียกความฟิตกลับมาให้ทันลงสนามให้ทีมชาติ
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ | ทีมชาตินอร์เวย์
หนึ่งในกองหน้าฟอร์มแรงแห่งยุคที่ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้างกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยผลงาน 41 ประตู จาก 41 นัดรวมทุกรายการ แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในรายการ ยูโร 2020 นี้เราจะไม่ได้เห็นเขาโลดแล่นในสนาม เนื่องจากทัพไวกิ้งไม่สามารถทะลุมาถึงรอบสุดท้ายได้ ซึ่งในเกมรอบคัดเลือกเป็นช่วงที่ ฮาแลนด์ มีอาการบาดเจ็บพอดี จึงได้ลงสนามช่วยทีมไปได้แค่ 3 นัดเท่านั้น และไม่สามารถยิงประตูให้ทีมได้เลยสักประตู
บทความที่เกี่ยวข้อง
