จับตาจันทร์นี้! บิ๊กกีฬามั่นใจฟีฟ่าไม่แบนบอลไทย-ไม่มีใครสั่ง สมยศ ลาออกได้

 

ความคืบหน้าหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกาศพร้อมลาออกจากตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมแจ้งเหตุผลว่าเป็นไปตามคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่เผยในที่ประชุมว่า ฟุตบอลชายไม่ได้เหรียญทอง แถมมีเรื่องทะเลาะวิวาทจนทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงอย่างมาก จึงขอให้แสดงสปิริตรับผิดชอบ

 

ล่าสุด “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งจะต้องเป็นผู้เซ็นใบรับรองการลาออก กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งได้ระบุการพ้นจากตำแหน่งของนายกสมาคมฯ เอาไว้อยู่แล้ว แต่หากเป็นเหตุผลอื่น เช่น ตามแถลงที่บอกว่าพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร ถ้าเป็นเหตุผลนี้คงไม่ได้ เพราะขัดต่อข้อบังคับฯ และกฎหมาย เนื่องจากการออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ ไม่มีใครออกคำสั่งได้เด็ดขาด

 

“ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งได้ระบุการพ้นจากตำแหน่งของนายกสมาคมฯ เอาไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างไร เช่น อยู่ครบวาระ 4 ปี, การขาดการประชุมเกิน 4 ครั้ง หรือจะเป็นที่ประชุมมติถอดถอน เป็นต้น ก็ต้องดูว่าหนังสือการลาออกนั้นเป็นไปตามเหตุผลตามข้อบังคับฯ หรือไม่ ซึ่งต้องดูรายละเอียดของหนังสือการลาออกของนายกสามคมกีฬาฟุตบอลณก่อน”

 

“หากเป็นเหตุผลตามที่เป็นข่าวออกมาว่าพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหตุผลดังกล่าวคงไม่ได้ เพราะจะขัดต่อข้อบังคับฯ และกฎหมาย เนื่องจากการออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ ไม่มีใครออกคำสั่งได้โดยเด็ดขาด” บิ๊กก้อง กล่าว

 

ขณะเดียวกัน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เชื่อว่า ฟีฟ่า จะไม่แบนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพราะไม่ได้แทรกแซงและไม่มีการเมือง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร พูดในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลการกีฬาของประเทศว่าฟุตบอลชายในซีเกมส์มีเป้าหมายต้องคว้าแชมป์เท่านั้น และไม่ได้เพิ่งมาพูดในครั้งนี้ แต่พูดมาหลายครั้งแล้ว

 

“พล.อ.ประวิตร มีเหตุผลในการสั่งการ ที่สำคัญไม่ได้เป็นการแทรกแซงการบริหารของสมาคมฟุตบอล เราพูดก่อนแข่งมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังเป็นแบบนี้ ส่วนที่บอกว่า ฟีฟ่า อาจแบนประเทศไทยนั้น ผมไม่ได้หนักใจ เพราะเชื่อว่าฟีฟ่ามีเหตุผล เราเองไม่ได้เข้าไปแทรกแซงหรือวุ่นวาย ลงไปล้วงลูกกับการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาต่างๆ อยู่แล้ว เขาจะเลือกตั้งก็เลือกกันไป ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจเลือกของเหล่าสโมสรสมาชิก”

 

ทางด้าน พล.ต.อ.สมยศ ก็เปิดใจครั้งแรกหลังตัดสินใจอำลาตำแหน่งนายกลูกหนังไทยว่า จะแจงเหตุผลไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ), สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้ทราบในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของสมาคมฯ ตามลำดับต่อไปตามหน้าที่ของประเทศสมาชิก

 

“ผมได้รับคำแนะนำจาก ฟีฟ่า,เอเอฟซี และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าหากการลาออกด้วยเหตุผลที่ขัดต่อข้อบังคับ หรือระเบียบของฟีฟ่า จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อวงการฟุตบอลไทย โดย เอเอฟเอฟ, เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ได้ให้ความสนใจและมีการสอบถามข้อมูลถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเป็นห่วงต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย และอาจเสียโอกาสในการพัฒนาจากความร่วมมือในการทำโครงการต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งจะมีหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร เข้ามาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”

 

“ในระหว่างนี้ ผมยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง และไม่คิดจะหนีปัญหา โดยจะมีการประชุมสภากรรมการในวันที่ 3 กรกฏาคม 2566 เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา อย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ให้สำเร็จลุล่วง ตามแนวทางของสโมสรสมาชิก หากไม่ขัดต่อข้อบังคับฯ เพื่อให้วงการฟุตบอลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ทั้งองคาพยพ โดยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนผู้มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพ ที่จะเสียสละ เข้ามาแก้ปัญหา และพัฒนาให้วงการฟุตบอลต่อไป”

 

ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมา มีประเทศที่ถูกแบนจากฟีฟ่า จากการแทรกแซงมาแล้ว อาทิ อิรัก , ไนจีเรีย ,อินโดนีเซีย , คูเวต และล่าสุด ปี 2022 อินเดีย ซึ่ง​ หาก ฟีฟ่า มองว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้าข่ายโดนแทรกแซง ก็จะถูกแบนห้ามเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับองค์กรฟุตบอลทั้ง ฟีฟ่า, เอเอฟซี และ เอเอฟเอฟ ตามระยะเวลาที่กำหนดนั่นหมายถึง ทีมชาติไทย อาจจะหมดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก , ฟุตบอลเอเชียน คัพ, ฟุตบอล U23 เอเชีย รวมถึงอาจส่งผลกระทบการจัดการประชุม FIFA CONGRESS ซึ่งทาง ฟีฟ่า จะจัดให้มีขึ้นในประเทศไทย วันที่ 17 พฤษพาคม 2567 ด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : จัดให้ตามคำขอ! สมยศประกาศลาออกจากนายกลูกหนัง

สมยศประกาศลาออกจากนายกลูกหนัง